ลำพูน / 2 นักกิจกรรม ขึ้นโรงพัก สภ.เมืองลำพูน “ธนวัฒน์” ถูกแจ้งข้อกล่าวหาฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน-พ.ร.บ.โรคติดต่อ ขณะที่ “ธนาธร” พ่วงใช้เครื่องขยายเสียงโดยไม่ขออนุญาตอีก 1 กระทง เจ้าตัวย้ำรัฐควรฟังเสียงสะท้อนจากประชาชน ไม่ใช่คุกคามอย่างที่เป็นอยู่
เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 20 ส.ค.63 นายธนาธร วิทยเบญจางค์ นักศึกษาคณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และนายธนวัฒน์ วงค์ไชย นิสิตคณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พร้อมด้วยทนายความจากศูนย์ทนายเพื่อสิทธิมนุษยชน ได้เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.เกรียงศักดิ์ โกมลสวรรค์ สว.(สอบสวน) สภ.เมืองลำพูน ตามหมายเรียกของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ลงวันที่ 31 ก.ค.63 ที่มี พ.ต.อ.ดนัย ใจกล่ำ เป็นผู้กล่าวหา ภายหลังจากที่ทั้งคู่เข้าร่วมชุมนุม #คนลำพูนก็จะไม่ทนโว้ย ที่อนุสาวรีย์พระนางจามเทวี จ.ลำพูน เมื่อวันที่ 24 ก.ค.63 ที่ผ่านมา
ภายหลังจากการรับทราบข้อกล่าวหา นายธนาธร เปิดเผยว่า เป็นการเดินทางมารับฟังข้อกล่าวหา ซึ่งตนโดน 3 คดี คือ ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน พ.ร.บ.โรคติดต่อ และการใช้เครื่องขยายเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาต ส่วนนายธนวัฒน์ ที่ได้ Live สดผ่านเพจ และโพสต์ชวนคนเข้าร่วมชุมนุม ถูกแจ้ง 2 ข้อกล่าวหา คือ ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน กับ พ.ร.บ.โรคติดต่อ ซึ่งทั้ง 2 คน ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา และทางพนักงานสอบสวนจะรวบรวมสำนวนส่งอัยการ จ.ลำพูน ในวันที่ 8 ก.ย.63 นี้ เวลา 09.00 น.
“การที่เราออกมาแสดงสิทธิ หรือใช้เสรีภาพ ในการพูดถึงประเด็นปัญหาต่างๆ ทั้งทางการเมือง สิ่งแวดล้อม สังคม ไม่ควรถูกคุกคามจากเจ้าหน้าที่รัฐ หรือใครก็ตาม เพราะเป็นเสียงสะท้อนจากประชาชนที่ได้รับผลกระทบ และเดือดร้อนจากปัญหาที่เกิดขึ้น ในทางตรงข้ามเจ้าหน้าที่รัฐ หรือผู้เกี่ยวข้องสมควรรับฟัง และนำไปปรับปรุงแก้ไขให้ทุกอย่างดีขึ้น ซึ่งจากการที่ผมโดนคดีจากการร่วมชุมนุมทั้งที่ จ.เชียงใหม่ และ จ.ลำพูน ทำให้เชื่อว่าอาจมีคดีตามมาอีก และส่งผลกระทบต่อชีวิตพอสมควร โดยเฉพาะเวลาเรียน เนื่องจากเวลาส่วนหนึ่ง ต้องไปขึ้นโรงพัก รายงานตัวกับทางอัยการ หรือในอนาคตอาจต้องไปศาลด้วย” นายธนาธร กล่าว.
