ไฟป่าลดฮวบหลังผู้ว่าฯสั่งสอบลากมือเผานอกระบบ วอร์รูมส่งสัญญาณ 19-20 ก.พ.อากาศแย่กลางวันยันดึก

ไฟป่าลดฮวบหลังผู้ว่าฯสั่งสอบลากมือเผานอกระบบ วอร์รูมส่งสัญญาณ 19-20 ก.พ.อากาศแย่กลางวันยันดึก

ไฟป่าลดฮวบหลังผู้ว่าฯสั่งสอบสวนและดำเนินคดีจุดเกิดไฟนอกระบบบริหารฯเชื้อเพลิง วอร์รูมจังหวัดไฟเขียวอีก  8 พันไร่เริ่ม 21 ก.พ.หลังนักวิชาการพยากรณ์การระบายอากาศจะดีขึ้น ยอมรับ 19-20 ก.พ.อากาศแย่ทั้งกลางวันยันตอนดึก ขณะที่ฝนหลวงเผยเกษตรกรชาวสวนลำไยและกระเทียมร้องห้ามทำฝนเทียม ส่งผลให้ ฮ.ฝนหลวงขึ้นปฏิบัติการไม่ได้ ส่วน KA32 จอดพักเครื่องหลังขึ้นบินทิ้งน้ำดับไฟป่าสันทราย 11 ครั้งค่าใช้จ่ายเฉพาะเชื้อเพลิง 2.86 แสนบาท

เมื่อวันที่ 18 ก.พ.64 ที่ศูนย์ป้องกันแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควันและฝุ่นpm2.5 จังหวัดเชียงใหม่ นายรัฐพล นราดิศร รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานประชุมคณะกรรมการฯ ซึ่งที่ประชุมได้มีการติดตามความคืบหน้าข้อสั่งการของนายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่กรณีเกิดจุดความร้อนในพื้นที่ทำกิน นอกเหนือจากจุดบริหารจัดการเชื้อเพลิง จำนวน 19 จุด ได้ให้ชุดปฏิบัติการอำเภอเรียกเจ้าของแปลงพื้นที่ทำกินมาทำการสอบปากคำ เพื่อเป็นการป้องปรามในเบื้องต้น หากพบว่ากระทำผิดชัดเจนให้ดำเนินคดี โดยให้ดำเนินการทุกจุด และรายงาน ศูนย์บัญชาการทราบประกอบด้วยอำเภอหางดง แม่แตง เชียงดาว ดอยสะเก็ด จอมทอง แม่วางและฮอด โดยอมก๋อยรายงานผลการเข้าไปตรวจสอบบอกว่าจุดดังกล่าวเป็นป่าธรรมชาติ ห่างไกลชุมชนระยะทาง  15 กม.ไม่มีพื้นที่ทำกินของราษฎรอยู่ใกล้เคียง แต่เป็นเส้นทางกลางป่าเพื่อเดินไปหาลำน้ำแม่ตื่น พื้นที่เสียหาย 13 ไร่ คาดสาเหตุไฟป่าเกิดจากผู้เข้ามาหาเก็บของป่าล่าสัตว์และได้ลงบันทึกประจำวันแล้ว

ส่วนอำเภอสันทรายรายงานว่าพื้นที่เกิดไฟอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าสันทรายระหว่างท้องที่บ้านพระธาตุ ม.9 ต.แม่แฝกกับบ้านวังขุมเงิน ม.7 ต.แม่แฝกใหม่ ซึ่งเป็นพื้นที่เดียวกันไฟได้ขยายขึ้นตามสันเขาและดับเสร็จแล้ว  พื้นที่ไฟไหม้กว่า 20 ไร่และไม่ทราบสาเหตุเกิดไฟป่าซึ่งรวบรวมพยานหลักฐานลงบันทึกประจำวันไว้ ส่วนอำเภอดอยเต่ารายงานว่าจุดที่เกิดไฟ 2 จุดได้เข้าไปดับแล้วคือที่บ้านสันบ่อเย็น ต.โปงทุ่ง พื้นที่เสียหาย 15 ไร่เป็นป่าเต็งรังอีกจุดที่บ้านงิ้วสูง พื้นที่เสียหาย 5 ไร่ ทั้งสองจุดอยู่ในเขตป่าอนุรักษ์หากชุมชน 4 กม.ได้ลงบันทึกประจำวันไว้แล้วและยังมีพื้นที่เขาสูงชันอีก 6 จุดไม่สามารถไปดับได้ ส่วนของอำเภอแม่แจ่มเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบแล้วพบว่าไฟไหม้ในเขตบริเวณป่า แต่ไม่พบร่องรอยไหม้ในพื้นที่แปลงข้าวโพด นอกจากนี้ยังมีคำสั่งให้เร่งรัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและ หน่วยป่าไม้/หน่วยอุทยาน รีบนำเข้าข้อมูลมาในระบบโดยด่วน เนื่องจากจังหวัดจะทำการประกาศปิดป่าและห้ามเผาในที่โล่งโดยเด็ดขาด ในวันที่ 1 มี.ค. 64 

รองผวจ.เชียงใหม่ กล่าวอีกว่า ศูนย์บัญชาการฯ มีมติงดบริหารจัดการเชื้อเพลิง ทั้งในเขตป่าและเชื้อเพลิงการเกษตร ในวันที่ 19 – 20 ก.พ. โดยให้ทุกอำเภอทำการประชาสัมพันธ์ให้ราษฎรทราบและรายงานผลซึ่งจะมีประชุมผ่านระบบวิดีโอทางไกลร่วมกับผู้ว่าฯในวันที่ 19 ก.พ.และหากมีจุดความร้อนเกิดขึ้นต้องชี้แจงให้ทราบด้วยตัวเอง โดยเฉพาะพื้นที่เกิดจุดความร้อนแบบผิดปกติในพื้นที่ ให้อำเภอดำเนินการเรียกเจ้าของแปลงมาสอบสวน เพื่อป้องกันการขยายพื้นที่ทำกิน

อย่างไรก็ตาม ในวันนี้(18 ก.พ.)มีพื้นที่ขอบริหารจัดการเชื้อเพลิง ซึ่งแยกเป็นพื้นที่ป่าอนุรักษ์ 4,475 ไร่ ป่าสงวนฯ 1,856 ไร่และพื้นที่เกษตร 1,146 ไร่ ขณะที่เมื่อวาน(17 ก.พ.)มีพื้นที่บริหารเชื้อเพลิงในเขตป่าอนุรักษ์ 5,770  ไร่และป่าสงวน 4 พันกว่าไร่ ส่วนพื้นที่เกษตรให้พักไว้เนื่องจากพบว่าที่เสนอขอไม่ชี้แจงเหตุผลและมีรายชื่อซ้ำ แปลงซ้ำๆ กับที่เคยขออนุญาตมาแล้ว นอกจากนี้ที่ประชุมยังได้ข้อสรุปว่า จะยังไม่นำเฮลิคอปเตอร์ KA32 ขึ้นบินดับไฟ เพราะต้นทุนค่าเชื้อเพลิงต่อเที่ยวต่อครั้งอยู่ที่ 26,000 บาท โดยเมื่อวานที่บินดับไฟต.แม่แฝก มีปัญหาอุปสรรคเรื่องการสื่อสารระหว่างทีมนักบินกับทีมบนดิน ทำให้เกิดความคลาดเคลื่อนในจุดที่ชี้เป้าทิ้งน้ำ ซึ่งเฮลิคอปเตอร์ KA32 ขึ้นบินทั้งหมดได้ทิ้งน้ำ 11 เที่ยว  3,300 ลิตร สามารถควบคุมไฟได้ แต่อุปสรรคคือการสื่อสาร การชี้เป้าจุดทิ้งน้ำของเจ้าหน้าที่ภาคพื้นดินกับอากาศยาน ซึ่งเบื้องต้นได้ใช้ทีมโดรนมาช่วย จึงเสนอขอที่ประชุมให้เปิดช่องทางสื่อสารสำหรับกรณีใช้อากาศยานดับไฟเฉพาะผู้ปฏิบัติงานเพื่อจะลดการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงของอากาศยานด้วย

ทางด้านนายรังสรรค์ ผอ.ฝนหลวงภาคเหนือ บุศย์เมือง ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคเหนือ (ตอนบน) กล่าวว่า สำหรับพื้นที่ภาคเหนือตอนบนและล่างไม่สารถทำฝนหลวงในช่วงนี้ได้เลย เนื่องจากเกษตรกรร้องขอห้ามทำฝนหลวง เนื่องจากขณะนี้ลำไยที่กำลังติดดอก  ขณะที่แม่ฮ่องสอนไม่ต้องการฝนทั้งจังหวัดเพราะปลูกกระเทียมดังนั้นพื้นที่ที่จะทำฝนหลวงได้เป็นพื้นที่แนวต่อเชียงราย เชียงใหม่ตอนบน และพะเยาเท่านั้น ที่ฮ.ฝนหลวงจะออกปฏิบัติงานได้

ขณะที่ผศ.ดร.ชาคริต โชติอมรศักดิ์ ภาควิชาภูมิศาสตร์ ผู้พัฒนาแอพลิเคชัน “Thai Air Quality” กล่าวว่า สภาพอากาศในวันนี้(18 ก.พ.)ก็เป็นไปตามพยากรณ์ไว้ล่วงหน้า เนื่องจากลมค่อนข้างนิ่ง ซึ่งลักษณะจะเป็นแบบนี้ไปถึงวันที่ 20 ก.พ.ช่วงดึก ที่ความเร็วลมลดลง การระบายอากาศช่วงกลางวันไม่ดี กลางคืนแย่มาก แต่ในวันที่ 21 ก.พ.นี้สภาพอากาศจะระบายได้ดีในช่วงกลางวัน หากจังหวัดเห็นชอบบริหารจัดการเชื้อเพลิงตามที่เสนอขอคือพื้นที่ป่า 5,304 ไร่ และพื้นที่เกษตร 2,431 ไร่

ผศ.ดร.ชาคริต ยังกล่าวอีกว่า ในช่วง 19-20 ก.พ.ที่ไม่มีการอนุมัติให้บริหารจัดการเชื้อเพลิงอย่างเด็ดขาด จะถือเป็นการทดสอบระบบพยากรณ์ด้วยว่า ถ้าหากไม่มีจุดความร้อน ไม่มีการเผาเลย สภาพอากาศของเชียงใหม่เป็นอย่างไร เพื่อจะใช้เป็นแนงทางในการทำงานต่อไปด้วย.

You may also like

เครือข่ายแรงงานภาคเหนือลั่นสู้ พร้อมรวมพลังทวงคืนความมั่งคั่งจากนายทุน

จำนวนผู้