เชียงใหม่เผยผลสัมถทธิ์สูงในเรื่องการแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควันฯ ลด Hot Spotได้กว่า 84%สามารถเป็นตัวอย่างให้จังหวัดอื่นได้

เชียงใหม่เผยผลสัมถทธิ์สูงในเรื่องการแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควันฯ ลด Hot Spotได้กว่า 84%สามารถเป็นตัวอย่างให้จังหวัดอื่นได้

เชียงใหม่เตรียมพรีเซ็นต์ผลงาน “จังหวัดที่มีผลสัมฤทธิ์สูงด้านการปัองกันแก้ไขปัญหาไฟป่าฯ”ให้กับก.มหาดไทยและกรรมาธิการบริหารราชการแผ่นดิน วุฒิสภา 19 เม.ย.นี้ ชี้ทั้งกระบวนการและการทำงานชัดเจนสามารถลดจุดความร้อนได้ถึงร้อยละ 84.34 ขณะที่ผช.ปภ.จังหวัดเผยจังหวัดจะจ่ายเงินจ่ายค่าอาหารและน้ำมันเชื้อเพลิงให้ชุดลาดตระเวนเฉพาะอำเภอที่มีไฟป่ารุนแรงเท่านั้น ยันเงินจัดแข่งกอล์ฟเหลือล้านกว่าไม่พอจ่ายให้ทุกอำเภอ

เมื่อวันที่ 7 เม.ย.65 ที่ศูนย์บัญชาการไฟป่า หมอกควันและฝุ่นpm2.5 จังหวัดเชียงใหม่ อบจ.เชียงใหม่ นายนาวิน สินธุสะอาด รองนายกอบจ.เชียงใหม่เป็นประธานประชุมคณะกรรมการศูนย์ฯ โดยรับทราบการพยากรณ์อากาศของศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคเหนือใน 7 วันข้างหน้าซึ่งจากวันนี้จะเริ่มมีฝนลดลง แม้ในช่วง 2 วันนี้จะยังมีฝนบ้าง และมีลมตะวันตกกับลมใต้พัดสอบเข้ามา โดยฝนจะเริ่มลดลงในวันที่ 9 เม.ย.ส่วนช่วง 12-13 เม.ย.จะเป็นช่วงที่อากาศเริ่มแห้ง มีความร้อนปกคลุมพื้นที่

นายสมคิด ปัญญาดี ผอ.ส่วนยุทธศาสตร์ สนง.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า สำหรับการบริหารจัดการเชื้อเพลิงในพื้นที่ป่าไม่มีแล้ว ยกเว้นพื้นที่เกษตร ซึ่งจังหวัดเชียงใหม่ใช้ระบบการจองผ่านแอพไฟดีในการบริหารจัดการเชื้อเพลิง โดยมีการจองลงระบบทั้งหมด238,647.9 ไร่ มีพื้นที่รอการอนุมัติให้ดำเนินการอีก 47,268.9 ไร่ที่ยังค้างอยู่ในระบบ โดยพื้นที่ขอบริหารจัดการเชื้อเพลิงในพื้นที่ป่าทั้งป่าสงวน 97,754.2 ไร่ แต่ได้ดำเนินการจริง 8 หมื่นกว่าไร่พื้นที่ป่าอนุรักษ์ 65,204 ไร่  บริหารจัดการแล้ว 54,411 ไร่ซึ่งได้อนุมัติหมดตั้งแต่เดือนก.พ.ที่ผ่านมา ขณะที่พื้นที่ทำกินยังเหลือทีจะต้องบริหารจัดการเชื้อเพลิง 47,268.9 ไร่ เนื่องจากช่วงนี้ยังมีฝน หากพื้นที่ใดขออนุมัติดำเนินการให้ทางอำเภอพิจารณาด้วย

ผอ.ส่วนยุทธศาสตร์ สนง.ทสจ.เชียงใหม่ กล่าวอีกว่า ในวันที่ 19 เม.ย.นี้จังหวัดเชียงใหม่จะเข้าร่วมประชุมชี้แจงเรื่องผลสัมฤทธิ์ในการป้องกันแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควันและฝุ่น pm2.5 ซึ่งจังหวัดเชียงใหม่เป็นจังหวัดที่มีผลสัมฤทธิ์สูงด้วยกระบวนการ เตรียมการและการทำงานที่ชัดเจนในการแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควันฯ โดยเสนอโครงการนี้ไป ซึ่งกิจกรรมนี้กระทรวงมหาดไทยร่วมกับคณะกรรมาธิการบริหารราชการแผ่นดิน วุฒิสภา จัดขึ้นที่จังหวัดลำปาง

“จังหวัดเชียงใหม่เราประสบความสำเร็จสูงในเรื่องการป้องกันแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควันและฝุ่นpm2.5 ซึ่งมีตัวชี้วัดที่ชัดเจนคือจุดความร้อนหรือ Hot Spot ซึ่งเทียบย้อนหลัง 3 ปีจะพบว่าสามารถลดจุดความร้อนลงได้ถึงร้อยละ 84.34 โดยจุดความร้อนสะสมปี 65 เหลือเพียง 2,082 จุด ซึ่งเป็นผลจากการที่จังหวัดเชียงใหม่ใช้ระบบการบริหารจัดการเชื้อเพลิง โดยเฉพาะไฟจำเป็นที่ขณะนี้ประชาชนมีความเข้าใจและให้ความร่วมมือ จึงทำคุณภาพอากาศดีขึ้น แน่นอนว่าเรามีตัวชี้วัดชัดเจน มีการทำงานและการบริหารจัดการที่สามารถเอาไปเป็นตัวอย่างให้กับจังหวัดอื่นๆ ได้ ขณะที่ไฟไม่จำเป็นซึ่งเกิดจากการลักลอบเข้าป่า ล่าสัตว์และหาของป่าที่ยังทำให้เกิดไฟยังเป็นประเด็นปัญหาที่เราจะต้องมาถอดบทเรียนร่วมกันเพื่อหาแนวทางแก้ไขต่อไป”นายสมคิด กล่าว

ทางด้านนายนาวิน สินธุสะอาด รองนายกอบจ.เชียงใหม่ กล่าวว่า จากการเข้าร่วมประชุมกับรองผบ.ทบ.ที่ผ่านมาทราบว่านายกรัฐมนตรีชื่นชมในการบริหารจัดการเชื้อเพลิงของจังหวัดเชียงใหม่ และเข้าใจแนวทางนี้ว่าเป็นแนวทางที่ดีกว่า Zero Bernning การใช้คำสั่งห้ามเผาเด็ดขาดบางทีก็ทำให้เกิดความขัดแย้งกับวิถีของชุมชน และเห็นว่าแนวทางที่จังหวัดเชียงใหม่ใช้เป็นประโยชน์และน่าจะขยายผลไปยังจังหวัดอื่นๆ ด้วย เพราะการบริหารจัดการเชื้อเพลิงจะต้องมีการลงทะเบียนในระบบเพื่อขออนุมัติก่อน ในการอนุมัติก็จะมีการพิจารณาปัจจัยทั้งสภาพภูมิอากาศประกอบด้วย และต้องมีการควบคุมไฟไม่ให้ลุกลามและดำเนินการในเวลาที่กำหนดซึ่งจะช่วยลดปัญหาได้

รองนายกอบจ.เชียงใหม่ กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตามทางรองผบ.ทบ.ได้ให้ข้อแนะนำในเรื่องของการจับกุมผู้กระทำผิดและฝ่าฝืนคำสั่งห้ามเผา โดยให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด เพราะหากยังมีการอะลุ้มอล่วยก็จะเกิดปัญหาซ้ำซาก โดยเฉพาะการเผาในพื้นที่ป่าซึ่งโทษสำหรับผู้เผาจะมีพรบ.ป่าสงวนฯ ป่าอนุรักษ์โทษจะหนัก จำคุ 20 ปีและปรับ 1-2 แสนบาทซึ่งเป็นโทษที่ค่อนข้างสูง

ขณะที่นายมนัส คำสาย ผู้ช่วยหัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า ในเรื่องการจับกุมผู้กระทำผิดและฝ่าฝืนคำสั่งห้ามเผานั้น ขณะนี้ทางจังหวัดมีรางวัลนำจับสำหรับผู้แจ้งเบาะแส โดยแจ้งเบาะแสให้สามารถจับกุมและดำเนินคดีส่งฟ้องศาลได้จะให้รางวัลละ 5,000 บาทนอกจากนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ได้ฝากเน้นย้ำขอให้อำเภอต่างๆ จัดเตรียมชุดลาดตระเวนไว้ด้วย โดยให้บูรณาการกำลังทั้งฝ่ายปกครองและเจ้าหน้าที่หน่วยต่างๆ รวมถึงท้องถิ่นไว้ให้พร้อม สำหรับเงินรายได้จากการจัดแข่งกอล์ฟฯ 2 ล้านบาทนั้นได้จัดซื้อเครื่องเป่าลมให้ 24 อำเภอและทำประกันภัยให้กับอาสาดับไฟพันกว่าคน เหลือเงินล้านกว่าบาทซึ่งหากจัดสรรให้ทุกอำเภอสำหรับเป็นค่าอาหารและน้ำมันเชื้อเพลิงให้กับชุดปฏิบัติการอำเภอละ 22,500 บาทคงไม่พอแน่ และนโยบายของผู้ว่าฯคือเน้นการป้องปราม แต่ไม่เน้นดับไฟ

“จังหวัดจะจัดสรรเงินให้กับชุดปฏิบัติการลาดตระเวนเฉพาะอำเภอที่มีปัญหาเกิดไฟไหม้มากๆ เท่านั้น อำเภอไหนที่มีไฟป่ารุนแรงผู้ว่าฯสั่งให้จัดชุดลาดตระเวนขึ้นมา 3 ชุดๆ ละ 3 วัน โดยขอให้แต่ละอำเภอเตรียมชุดลาดตระเวนไว้ให้พร้อมเท่านั้น”ผช.หัวหน้าสำนักงานปภ.กล่าว.

You may also like

เกษตรกร ชี้ซีพีเป็นรายเดียวเข้มนโยบายตรวจสอบย้อนกลับ ไม่รับซื้อข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ที่ไม่มีเอกสารสิทธิ์ และที่มาจากการเผา

จำนวนผู้