“ศุภชัย”ยิ้มทั้งน้ำตาอำลาชีวิตราชการ อ้อนเจอหน้าขออย่าเรียก “ลุง”

“ศุภชัย”ยิ้มทั้งน้ำตาอำลาชีวิตราชการ อ้อนเจอหน้าขออย่าเรียก “ลุง”

          “ศุภชัย”ยิ้มทั้งน้ำตาอำลาชีวิตราชการ อ้อนเจอหน้าขออย่าเรียก “ลุง” เผยความรู้สึกสำนึกบุญคุณทุกฝ่ายที่ช่วยงานให้สำเร็จลุล่วง ความสำเร็จยกให้เป็นผลงานทุกคน ส่วนความผิดพลาดขอแบกรับไว้คนเดียว ย้ำขอร่วมกันสร้างความมั่งคั่ง และยั่งยืนให้ประชาชน ให้กับเมืองเชียงใหม่

วันที่ 27 ก.ย.62 ที่ห้องประชุมหอเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา ในช่วงท้ายของการประชุมหัวหน้าส่วนราชการประจำเดือนกันยายน นายศุภชัย เอี่ยมสุวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่พร้อมด้วยนายมนัส ขันใส รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้กล่าวอำลาเนื่องในโอกาสเกษียณอายุราชการในวันที่ 30 กันยายนนี้ โดยมีนายคมสัน สุวรรณอัมพา รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นตัวแทนหัวหน้าส่วนราชการในจังหวัดเชียงใหม่ได้มอบภาพเรือใบที่กำลังแล่นจะถึงฝั่ง หลังจากฝ่าคลื่นลมในทะเลมายาวนาน ทั้งนี้นายศุภชัยได้มอบหนังสือชีวิตและผลงานกับโปสการ์ดเป็นที่ระลึกและขอบคุณหัวหน้าส่วนราชการที่ได้ร่วมงานกันมาตลอด 15 เดือนในตำแหน่งผวจ.เชียงใหม่ ขณะที่นายมนัส ขันใส รองผวจ.เชียงใหม่ได้กล่าวขอบคุณเช่นเดียวกันพร้อมกับมอบน้ำผึ้งบริสุทธิ์ให้เป็นที่ระลึก

นายศุภชัย เอี่ยมสุวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า ตลอดระยะเวลา 15 เดือนของการทำงานในตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ต้องขอบคุณทุกภาคส่วน แม้นว่าก่อนหน้านั้นจะเคยทำงานที่เชียงใหม่ในตำแหน่งหัวหน้าสำนักงานจังหวัดและรองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่มาก่อน แล้วเข้าไปทำงานที่ส่วนกลาง ไม่คิดว่าจะได้กลับมาทำงานที่นี่แต่สุดท้ายก็ได้กลับมาทำงานที่เชียงใหม่ กลับมาพื้นที่และทำงานจนเกษียณอายุราชการ และจะขอเป็นชาวเชียงใหม่ เป็นพลเมืองที่นี่ต่อไป

“เป็นธรรมดาในชีวิตราชการ แต่ส่วนหนึ่งที่อยากจะบอกคือ ผมสำนึกถึงบุญคุณทุกฝ่าย โดยเฉพาะฝ่ายปกครอง นายอำเภอต่างๆ ที่มาช่วยทำงานของผมและเหล่ากาชาดจังหวัด แม่บ้านมหาดไทยที่ลงพื้นที่ทั้ง 25 อำเภอ บุญคุณนี้ผมน้อมนำไว้ในหัวใจ ในการทำงานที่เชียงใหม่นี้มีหลายเรื่อง หลายประเด็นที่อ่านได้ในหนังสือที่แต่แรกผมว่าจะไม่พิมพ์แล้ว แต่ก็เขียนจดๆ ไว้และมาตัดสินใจพิมพ์ในสุดท้ายก็ฝากไว้ เพื่ออยากให้เห็นว่าในบางเรื่องที่พวกเราทำ และบางเรื่องสามารถเอาไปต่อยอดได้ แต่อย่างไรก็ตาม 15 เดือนในเชียงใหม่ผมมีความสุขทุกครั้งที่ทำงาน ภรรยาผมบอกว่าผมโชคดี ช่วงที่เชียงใหม่มีวิกฤตปัญหาหมอกควันทำให้คนรู้จักผมทั้งประเทศ  ให้กำลังใจผมว่าคนรู้จักผมทั้งประเทศ ขอบอกว่าในการทำงานนั้นจะมีความสำเร็จบ้าง ผิดพลาดบ้าง ผมขอบอกว่าความสำเร็จที่เกิดขึ้นได้เกิดจากทุกๆ คนร่วมมือไม่ใช่มาจากผมคนเดียว แต่สิ่งไหนที่ผิดพลาด มีปัญหาขึ้น ผมพร้อมที่จะแบกรับไว้บนบ่าทั้ง 2 ข้างนี้ด้วยตนเอง เพราะผมถือว่ากลไกในการทำงานนั้น เป็นกลไกการทำงานต้องมีผู้กล้ารับผิด รับชอบ ซึ่งงานที่ผ่านมาทุกคนได้ทุ่มเทมากโดยเฉพาะงานของอำเภอเป็นงานที่เหนื่อยยาก งานส่วนต่างๆ จะลงที่อำเภอหมด แต่หลังจากนี้ก็ยังต้องเหนื่อยอีกเพราะงานไม่มีวันหมด แต่ระยะเวลาราชการมันมีวันหมด”ผวจ.เชียงใหม่ กล่าวและว่า

30 กันยายนนี้มีความหมายกับผมว่า ชีวิตราชการมาถึงเส้นทางสุดท้ายแล้ว แต่ต่อไปนี้สิ่งที่จะดูแลคือสุขภาพร่างกาย แต่ผมยังผูกพันกับทุกคนและใช้ชีวิตที่เชียงใหม่ อยากเจอก็โทรมา เจอกันก็ขอให้ทักทายกันบ้าง แต่ที่สำคัญขออย่าเรียกผมว่า ลุง เลย กลัวมาก ที่สำคัญในการทำงานที่เชียงใหม่นั้นถือเป็นแบบอย่างที่ดี ในการรวมพลังของพลเรือน ตำรวจและทหาร ทั้งหน่วยงานตรวจสอบ กระบวนการยุติธรรม ทุกหน่วยงานให้ความร่วมมือและให้ความสำคัญ และในช่วงที่ผ่านมาการทำงานของผมและประชุมกันมาจะรู้ว่าอันไหนใช่ ไม่ใช่ขอให้พูดมาตรงๆ เพราะอยากให้เกิดความชัดเจน และอาจจะมีการกระทบกระทั่งบ้าง ก็ขออโหสิกรรม และอันไหนที่เกิดประโยชน์กับพี่น้องประชาชนก็ขอให้ช่วยกันทำและขอขอบคุณแทนนายกเหล่ากาชาด แม่บ้านมหาดไทยที่ทุกท่านได้ร่วมกันทำงานมาด้วยความจริงใจ ด้วยความเคารพอย่างสูง

ทั้งนี้ก่อนหน้านั้น ผวจ.เชียงใหม่ ได้จัดงาน”Chiang Mai Showcase 2019″ ที่ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษา จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อวันที่ 23-24 กันยายน 2562 ที่ผ่านมา   เป็นการรวบรวมผลงานของหน่วยงานภาครัฐ 20 กระทรวง ในจังหวัดเชียงใหม่ องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ และมหาวิทยาลัยในพื้นที่ และเป็นการแถลงผลงานตลอดช่วง 15 เดือนของการดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่

นายศุภชัย กล่าวว่า 15 เดือนภายใต้ยุทธศาสตร์เชียงใหม่ได้ดำเนินการไปหลายด้าน 1.ด้านของความมั่นคง เชียงใหม่ มีพื้นที่ชายแดน  5 อำเภอ ที่ติดเขตชายแดน โดยเฉพาะปัญหายาเสพติด ทุกอำเภอทำงานเต็มที่  ซึ่งการแก้ปัญหาที่ผ่านมา ถือว่าประสบความสำเร็จ ทั้งนี้ การพัฒนาเชียงใหม่มีหลายโครงการ ที่กำลังเร่งขับเคลื่อน โดยเฉพาะโครงการที่ได้นำเสนอ ครม.สัญจร ที่จังหวัดลำปาง เมื่อวันที่ 15 มกราคม 2562 มีโครงการสำคัญ ได้แก่ Smart City ทำอย่างไร ให้มีการเดินทางด้วยระบบขนส่งมวลชนมีความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สินของประชาชนในเมือง การพัฒนา Free Wifi หรือ Application ต่างๆ ทุกอย่างกำลังเร่งขับเคลื่อน และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง โครงการนำสายไฟลงดิน ที่ถนนนิมมานเหมินทร์ต้องใช้ความร่วมมือ ทั้งกรมทางหลวง การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การประปา ด้วยงบประมาณราว 470 ล้านบาท เป็นโครงการ ที่ต้องขับเคลื่อน ให้บรรลุสำเร็จ

นอกจากนี้ คือ โครงการขุดลอกคลองชลประทานแม่แตงใช้งบประมาณราว 500 ล้านบาท เพื่อป้องกันปัญหาน้ำท่วม เชียงใหม่ ขณะที่ โครงการเชียงใหม่เมืองสุขภาพ จะมีโครงการศูนย์บริการให้คำปรึกษาทางการแพทย์ ที่อยู่ระหว่างการขับเคลื่อน รวมถึงการปรับปรุงท่าอากาศยานเชียงใหม่ การนำเสนอทางเลี่ยงเมือง การทำวงแหวนรอบ 4 โดย โดยเป็นการวางทิศทาง การพัฒนาเศรษฐกิจเชียงใหม่ เชื่อมโยงกับภูมิภาคต่างๆ

“เวลามองเศรษฐกิจ ไม่มองเฉพาะเชียงใหม่ แต่ต้องเชื่อมโยงกับภูมิภาค การมองหรือการพัฒนาเศรษฐกิจไม่ใช่แค่เฉพาะในเมือง ไม่เพียงพอ ต้องมองถึงเศรษฐกิจฐานราก ให้ประชาชนพึ่งตนเองได้ จังหวัดเชียงใหม่ใช้เศรษฐกิจพอเพียงในการขับเคลื่อน 100% ซึ่งขณะนี้มีหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียงจำนวน 2,066 หมู่บ้าน 210 ตำบล ที่ยึดโยงฐานเศรษฐกิจพอเพียงในการดำเนินชีวิต จุดนี้จะเป็นภูมิคุ้มกันให้ประชาชนคิดอย่างมีเหตุ มีผล ให้อยู่ได้  ให้ชุมชนเข้มแข็งพึ่งตนเองได้ ซึ่งการใช้เศรษฐกิจพอเพียงเป็นการดูแลประชาชนให้มีอยู่ มีกิน มีการดำรงชีวิตที่เหมาะสม”ผวจ.เชียงใหม่ กล่าวและว่า

ส่วนในด้านสังคม ในช่วงที่ผ่านมาเชียงใหม่มีกิจกรรมค่อนข้างมาก มีเรื่องร้องเรียนผ่านศูนย์ดำรงธรรมไม่น้อยแต่ 80% ได้มีการแก้ไขแล้ว ซึ่งปัญหาสังคมทุกหน่วยงานใช้คนที่มีความรู้ ความสามารถในการลงพื้นที่ทำงานเต็มที่ ทางด้านสิ่งแวดล้อม เชียงใหม่มีพื้นที่ป่าประมาณ 10 ล้านไร่ หลายพื้นที่มีปัญหาบุกรุกทำลายป่า ก็ต้องดูแลรักษาไว้ และอีกหนึ่งประเด็นสำคัญ คือปัญหาหมอกควัน โดยได้เปลี่ยนการวัดและเตือนประชาชนโดยใช้ค่าPM2.5  ซึ่งขณะนี้ทุกหน่วยงานได้ถอดบทเรียนไว้หมดแล้ว  โดยตนได้ขอความร่วมมือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ให้เตรียมงบประมาณทำแผนระยะสั้น ระยะกลางและระยะยาว รับมือกับปัญหาหมอกควันในปีต่อไป ซึ่งยุทธศาสตร์สำคัญของการแก้ปัญหาหมอกควัน จะต้องเน้น การป้องกันเป็นหลัก โดยระหว่างวันที่ 23-26 กันยายน 2562 จะมีผู้เชี่ยวชาญจากประเทศจีน มาดูงานที่เชียงใหม่ เกี่ยวกับปัญหาฝุ่นควัน พร้อมทั้งหาเครื่องมือต่างๆ ในการป้องกันฝุ่นควัน การดูแลปัญหาฝุ่นควันปีนี้ยืนยันว่า ขณะนี้เชียงใหม่ มีความพร้อมสูงและต่อเนื่องจากปีที่แล้วในการดูแลสุขภาพของพี่น้องประชาชน

นายศุภชัย กล่าวด้วยว่า ในวันนี้ ผมมองว่า เราต้องสร้างความมั่งคั่ง และยั่งยืนให้ประชาชน ให้กับเมืองเชียงใหม่ ตลอด 15 เดือน จนถึงวันนี้ การพัฒนาด้านต่างๆ มีความคืบหน้าโดยประมาณ และยังมีความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ ที่พวกเรา ทุกหน่วยงาน ทุกองค์กร ทุกภาคส่วน ต้องร่วมมือกัน มันเป็นงานที่ท้าทายการทำงานและจะผ่านไปให้ได้ ด้วยใจที่รักเชียงใหม่.

 

 

You may also like

เกษตรกร ชี้ซีพีเป็นรายเดียวเข้มนโยบายตรวจสอบย้อนกลับ ไม่รับซื้อข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ที่ไม่มีเอกสารสิทธิ์ และที่มาจากการเผา

จำนวนผู้