รื้ออีกรายศาลาเก๋งจีนทรงแปดเหลี่ยมของนายทุนบนม่อนแจ่ม รัฐมนตรี”ท็อป”ลงพื้นที่กำกับเอง

รื้ออีกรายศาลาเก๋งจีนทรงแปดเหลี่ยมของนายทุนบนม่อนแจ่ม รัฐมนตรี”ท็อป”ลงพื้นที่กำกับเอง

“วราวุธ”ลงพื้นที่ดูการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างบนม่อนแจ่ม เผยจากการสำรวจพบ 113 รายเปิดเป็นรีสอร์ท ที่พักไม่ใช่ทำการเกษตร ตรวจยึดดำเนินคดีกับนายทุน 30 ราย  ยันไม่ได้รังแกประชาชน ชี้หลักฐานชัดใช้พื้นที่ป่าผิดวัตถุประสงค์

วันที่ 19 ต.ค. 63 นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมด้วยนายธเนศพล ธนบุณยวัฒน์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และนายอดิศร นุชดำรงค์ อธิบดีกรมป่าไม้ ลงพื้นที่ติดตามการแก้ไขปัญหาการบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าแม่ริม บริเวณม่อนแจ่ม โดยวันนี้นายกมล นวลใย ผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ ที่ 1 (เชียงใหม่) ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ป่าไม้ ตำรวจ ฝ่ายปกครอง กว่า 200 นาย เข้าดำเนินการรื้อถอนรีสอร์ท “ไร่นาย” ซึ่งถูกดำเนินคดีเนื่องจากตรวจสอบพบว่า มีนายทุนรายใหญ่ทั้งในและต่างประเทศทำการลงทุนก่อสร้างที่พักและศาลาเก๋งจีนทรงแปดเหลี่ยมเพื่อเตรียมให้บริการนักท่องเที่ยว โดยได้ทำการซื้อที่ดินมาจากชาวบ้าน ซึ่งถือเป็นการเข้าครอบครองพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติโดยผิดกฎหมาย

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า ในรายที่มีการรื้อถอนในครั้งนี้ ทางสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ ที่ 1 (เชียงใหม่) ได้สนธิกำลังเจ้าหน้าที่ชุดเฉพาะกิจปราบปรามพิเศษ (พยัคฆ์ไพร) กรมป่าไม้ ดำเนินคดีผู้ครอบครองพื้นที่ดังกล่าวในข้อหายึดถือครอบครองหรือทำประโยชน์ในพื้นที่ป่าโดยมิชอบด้วยกฎหมาย พร้อมทั้งได้ออกคำสั่งทางปกครองให้ผู้ครอบครองรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างออกจากพื้นที่ภายในวันที่ 10 ต.ค. 63 แต่ปรากฎว่าผู้ครอบครองไม่ดำเนินการรื้อถอนตามคำสั่งดังกล่าว สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ ที่ 1 (เชียงใหม่) จึงได้บูรณาการกำลังเข้ารื้อถอนสิ่งปลูกสร้างต่างๆในพื้นที่ดังกล่าวออกจากพื้นที่เพื่อเตรียมฟื้นฟูให้กลับสู่สภาพป่าดังเดิม

“สำหรับรายนี้ดูแนวการปรับที่ิ่ดินจะเห็นว่าเป็นพื้นที่ป่าสงวน ซึ่งอยู่ในเขตพื้นที่ป่าอย่างชัดเจน ไม่ใช่ที่ของเอกชนหรือพื้นที่อื่นใดและเมื่อทางรัฐตรวจสอบแน่ชัดแล้วว่าเจ้าของผู้ครอบครองดำเนินการโดยไม่เป็นไปตามเงื่อนไขก็ต้องยึดคืน และรายนี้เป็นการเปลี่ยนมือครั้งที่ 3 แล้ว และยังมีอีก 14 แห่งที่จะดำเนินการเช่นเดียวกัน ดังนั้นหากเจ้าของพื้นที่หรือผู้ดำเนินการายใดที่สามารถพิสูจน์สิทธิ์ในที่ดินที่ครอบครองได้ก็ให้ดำเนินการตามกฎหมาย ทางกระทรวงฯไม่ได้มีการแบ่งแยกว่าจะเป็นที่ดินของคนยากจนหรือของใคร แต่หากตรวจพบว่าผิดเงื่อนไขและอยู่ในพื้นที่ป่าก็ต้องดำเนินการ ทางกระทรวงฯมีหน้าที่ในการดูแลทรัพยากรธรรมชาติให้เป็นไปตามกฎหมาย ถ้าเป็๋นพื้นที่เกษตรหรือทำผิดวัตถุประสงค์ก็ต้องดำเนินการ อย่าลืมว่าพื้นที่ม่อนแจ่มเป็นป่าต้นน้ำ หากปล่อยให้มีการทำลายป่าต้นน้ำแล้วทำที่พัก ทำขั้นบันไดหากวันใดที่ฝนตกหนักและดินถล่มจะเกิดความเสียหายใหญ่หลวง เราไม่ต้องการให้เกิดปัญหาไม่อยากให้เป็นกรณีวัวหายแล้วล้อมคอก พื้นที่ต้นน้ำจะต้องคงไว้ซึ่งความอุดมสมบูรณ์”นายวราวุธ กล่าวและชี้แจงอีกว่า

กระทรวงทรัพย์ต้องแก้ปัญหาระยะยาวต่อไป สำหรับพื้นที่ที่เหลือก็ได้ให้นโยบายกับทางเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายขอให้ยึดตามกฎหมาย และทำความเข้าใจกับประชาชนในพื้นที่ การดำเนินการไม่ใช่ใช้อำนาจรัฐรังแกชาวบ้าน แต่เป็นการฟื้นฟู ป้ัองกันควบคู่ไปกับการแก้ไขปัญหาเพื่อให้เกิดความยั่งยืนในอนาคต


สำหรับพื้นที่ม่อนแจ่ม เป็นพื้นที่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่ริม เป็นพื้นที่ชั้นคุณภาพลุ่มน้ำชั้นที่ 1 เป็นพื้นที่ต้นน้ำลำธาร และมีความอ่อนไหวต่อระบบนิเวศเป็นอย่างมาก กรมป่าไม้ได้ดำเนินการสำรวจพบมีการเปิดบริการที่พัก รีสอร์ท จำนวนทั้งหมด 113 ราย ปัจจุบันสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ ที่ 1 (เชียงใหม่) ได้ทำการประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนจนผู้ประกอบการได้ปิดกิจการไปแล้ว 26 ราย ตรวจยึดพื้นที่ดำเนินคดี กับนายทุนผู้ครองครองพื้นที่ 30 ราย โดยได้ดำเนินการรื้อถอน ตามมาตรา 25 พรบ.ป่าสงวนแห่งชาติแล้วจำนวน 7 ราย ส่วนที่เหลืออยู่ระหว่างการพิจารณาจัดระเบียบของคณะกรรมการตามคำสั่งจ.จังหวัดเชียงใหม่ซึ่งมีสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่1 เชียงใหม่เป็นฝ่ายเลขานุการคณะนี้ คาดว่าการดำเนินการจะแล้วเสร็จประมาณเดือนพฤศจิกายนนี้.

You may also like

SUN และ EXE มอบอาหารช่วยผู้ลี้ภัยชายแดนเมียนมา

จำนวนผู้