รองผวจ.เชียงใหม่ย้ำพร้อมรับมือพายุเบบินคาเตือนประชาชนอย่าตื่นตระหนกแต่ขอตระหนักอย่าทิ้งขยะลงที่สาธารณะ พร้อมฟังข่าวสารแจ้งเตือนจากทางราชการชี้ไม่มีการปิดบังข้อมูล

รองผวจ.เชียงใหม่ย้ำพร้อมรับมือพายุเบบินคาเตือนประชาชนอย่าตื่นตระหนกแต่ขอตระหนักอย่าทิ้งขยะลงที่สาธารณะ พร้อมฟังข่าวสารแจ้งเตือนจากทางราชการชี้ไม่มีการปิดบังข้อมูล

- in headline, จับกระแสสังคม

รองผวจ.เชียงใหม่ย้ำพร้อมรับมือพายุเบบินคา เผยสั่งพร่องน้ำเพื่อรองรับและระดมทั้งคน เครื่องมือขุดลอกท่อระบายน้ำในเขตเมือง ยันไม่เกิน 2 ชม.หากมีน้ำท่วมขังจะระบายให้หมด เตือนประชาชนอย่าตื่นตระหนกแต่ขอตระหนักอย่าทิ้งขยะลงที่สาธารณะ พร้อมฟังข่าวสารแจ้งเตือนจากทางราชการชี้ไม่มีการปิดบังข้อมูล

นายเมธี มหายศนันท์ ผอ.ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคเหนือ กล่าวว่า กรมอุตุนิยมวิทยา ได้มีประกาศเรื่อง พายุโซนร้อน “เบบินคา” ซึ่งคาดว่าจะเคลื่อนเข้าปกคลุมประเทศเวียดนามตอนบนในช่วงวันที่ 15 – 16 สิงหาคม 2561 โดยจะทำให้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคเหนือยังคงมีฝนตกชุกหนาแน่น และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ขอให้ประชาชนในพื้นที่ระวังผลกระทบจากฝนตกหนักและฝนตกสะสม ที่ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำล้นตลิ่ง รวมถึงดินโคลนถล่ม ตลอดจน ให้ติดตามข้อมูลสภาพอากาศและข่าวสารจากทางราชการอย่างใกล้ชิด

“ทางภาคเหนือและเชียงใหม่จะเริ่มมีฝนในวันที่ 14 ส.ค.ในช่วงบ่ายๆ แต่หลัง 3 ทุ่มจะไม่มีฝน และวันที่ 16 ส.ค.จะมีฝนในตอนค่ำ ส่วนวันที่ 17-18 ส.ค.หลังจากที่พายุเบบินคาขึ้นฝั่งที่เวียดนาม ทางบ้านเราก็จะมีฝนตกต่อเนื่อง แต่ที่ต้องระวังคือพื้นที่ที่มีฝนตกแช่ ตกซ้ำแล้ว ซ้ำอีก ซึ่งจะทำให้มีโอกาสเกิดน้ำป่าไหลหลากและดินถล่มขึ้นได้ เพราะดินอุ้มน้ำมาก”ผอ.ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคเหนือ กล่าว

ทางด้านนายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า ทางจังหวัดได้เตรียมความพร้อมในการรับมือกับพายุที่กำลังจะมา โดยได้มีการพร่องน้ำในเขื่อนขนาดใหญ่ทั้งสองเขื่อน ทั้งแม่งัดสมบูรณ์ชลและเขื่อนแม่กวงอุดมธารา แม้ว่าดูแนวโน้มปีหน้าอาจจะเจอปัญหาภัยแล้ง แต่ขอให้พ้นความเสี่ยงที่จะทำให้เกิดปัญหาน้ำท่วมก่อน โดยเฉพาะพื้นที่ทางตอนเหนือของจังหวัด ซึ่งมีการพร่องน้ำทั้งในอ่างเก็บน้ำขนาดกลางด้วย

ในส่วนของพื้นที่เขตเมืองและเป็นพื้นที่เศรษฐกิจนั้น ได้มีการดำเนินการขุดลอกท่อระบายน้ำในจุดที่เคยเกิดน้ำท่วมขังแล้ว โดยวันนี้ (14 ส.ค.2561) เวลา 14.00 น. ลงพื้นที่แยกไฟแดงบริเวณหน้าโรงเรียนยุพราชวิทยาลัย พร้อมกับหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง ทั้งสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงใหม่ ชลประทานเชียงใหม่ และเทศบาลนครเชียงใหม่ โดยได้นำเครื่องมือและเครื่องจักรกลขุดลอกท่อระบายน้ำและกำจัดสิ่งกีดขวางทางน้ำ เพื่อเพิ่มศักยภาพในการระบายน้ำรวดเร็วขึ้น

รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า จากการดำเนินงานปรับปรุงระบบท่อระบายน้ำในตัวเมืองเชียงใหม่มา 3 วัน พบว่าภายในท่อมีเศษขยะและถุงพลาสติกขนาดใหญ่อุดตันจำนวนมาก โดยได้ขอความร่วมมือประชาชนชาวเชียงใหม่และทุกภาคส่วน ไม่ทิ้งขยะ สิ่งปฏิกูล หรือของเหลือใช้ลงในแม่น้ำและท่อระบายน้ำ เพราะจะเป็นอุปสรรคต่อการไหลของน้ำ โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝนที่มีฝนตกอย่างต่อเนื่อง จนอาจเกิดน้ำท่วมขังได้ ซึ่งในวันพรุ่งนี้ (15 ส.ค.61) จะลงพื้นที่บริเวณตลาดวโรรส ที่เสี่ยงต่อการเกิดน้ำท่วมและเป็นพื้นที่ท่วมซ้ำซาก เพื่อให้ประชาชนเกิดความเชื่อมั่นว่าจะสามารถเร่งระบายน้ำหากมีเหตุฉุกเฉินได้อย่างรวดเร็ว โดยเน้นการช่วยเหลือประชาชนในด้านชีวิตทรัพย์สิน และการควบคุมสถานการณ์เป็นลำดับแรก พร้อมทั้งการประชาสัมพันธ์ให้ข้อมูลข่าวสาร เพื่อรองรับสถานการณ์ในภาวะฉุกเฉิน

“ถ้าหากเกิดน้ำท่วมขังในเขตเทศบาลนครเชียงใหม่ จะมีการระดมทั้งเครื่องมือและบุคลากรจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งระบายน้ำให้หมดภายใน 2 ชั่วโมง ทางจังหวัดไม่สามารถยืนยันได้ว่าจะไม่มีปัญหาน้ำท่วม เพราะสภาพภูมิประเทศของเราเป็นแบบนี้ ในวันที่ 17 ส.ค.นี้ก็จะมีการปล่อยชุดปฏิบัติงานที่จะไปดำเนินการติดตั้งเครื่องสูบน้ำประจำจุดที่มีน้ำท่วมขัง จุดแรกใต้สะพานป่าแดด และขอให้ประชาชนอย่าตื่นตระหนก แต่ขอให้มีความตระหนัก เราไม่อาจจะฝืนธรรมชาติได้แต่สามารถแจ้งเตือนให้เตรียมตัวและเตรียมพร้อม ขอให้ประชาชนเชื่อมั่นในทางราชการซึ่งจะมีการแจ้งข่าว ให้ข้อมูล แจ้งเตือนทุกฝ่ายโดยไม่มีการปิดบังหรือปิดข่าวอย่างแน่นอน”นายพุฒิพงศ์ กล่าว.

 

 

 

You may also like

เกษตรกร ชี้ซีพีเป็นรายเดียวเข้มนโยบายตรวจสอบย้อนกลับ ไม่รับซื้อข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ที่ไม่มีเอกสารสิทธิ์ และที่มาจากการเผา

จำนวนผู้