“ยี่เป็งเชียงใหม่”ยื่นขอปล่อยโคมลอยเกือบ 6 หมื่นลูก โคมควันแตะ 700 ลูก สายการบินยกเลิก 148 เที่ยวบินเปลี่ยนแปลงเวลา 88 ไฟล์ท

“ยี่เป็งเชียงใหม่”ยื่นขอปล่อยโคมลอยเกือบ 6 หมื่นลูก โคมควันแตะ 700 ลูก สายการบินยกเลิก 148 เที่ยวบินเปลี่ยนแปลงเวลา 88 ไฟล์ท

- in headline, จับกระแสสังคม

“ยี่เป็งเชียงใหม่”ปี้นี้ขออนุญาตปล่อยโคมลอย 58,683 ลูก โคมควัน 693 ลูก แม่ริมมากที่สุดรองลงมาสันทราย เมืองและดอยสะเก็ด ล้วนอยู่ในแนวขึ้น-ลงเครื่องบิน ปลัดจังหวัดเชียงใหม่ย้ำทุกอำเภอเร่งประชาสัมพันธ์ปล่อยได้ 2 วันเฉพาะที่ยื่นขออนุญาตแล้วเท่านั้น พร้อมบูรณาการกำลังออกลาดตระเวนยันหากพบยึดของกลางห้ามวางขายเร่ ด้านการท่าฯเผย 148 เที่ยวบินขอยกเลิกอีก 88 เที่ยวเปลี่ยนแปลงเวลา ขณะที่วิทยุการบินเตรียมพร้อมรับสถานการณ์ฉุกเฉิน

วันที่ 13 พ.ย.61 ที่จวนผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ นายศุภชัย เอี่ยมสุวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยถึงมาตรการดูแลความปลอดภัยในช่วงเทศกาลลอยกระทง หรือประเพณียี่เป็งเชียงใหม่ว่า จังหวัดเชียงใหม่ได้ออกประกาศจังหวัดเชียงใหม่ เรื่องมาตรการป้องกันและการรักษาความปลอดภัยและการดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยของประชาชนในการจุดและปล่อยโคมลอย โคมไฟ โคมควันหรือว่าวฮม หรือวัตถุอื่นใดที่คล้ายคลึงกันขึ้นไปสู่อากาศ ลงวันที่ 7 ตุลาคม 2559 ซึ่งยังคงยึดประกาศฉบับดังกล่าวในการควบคุมวัน เวลา สถานที่และมาตรฐานของโคมลอย โดยปีนี้ได้มีการเน้นย้ำกับหน่วยงานและผู้รับผิดชอบไปแล้ว ซึ่งประกาศดังกล่าวจะควบคุมดูแลทั้งผู้ขาย ผู้ใช้โคมลอยและการควบคุมพื้นที่ ทั้งนี้จะต้องเร่งสร้างการรับรู้แก่ประชาชนให้มากที่สุด

ด้านนายศรัณยู มีทองคำ ปลัดจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวอีกว่า สำหรับโคมลอยตามประกาศจังหวัดเชียงใหม่จะปล่อยได้เพียงวันกระทงเล็กและกระทงใหญ่กับวันส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่เท่านั้น สำหรับช่วงเทศกาลลอยกระทงหรือยี่เป็งเชียงใหม่ปีนี้ มีผู้มายื่นขออนุญาตปล่อยโคมลอยและโคมควันจากนายอำเภอทั้ง 25 อำเภอ โดยแยกเป็นโคมลอย 58,683 ลูกและโคมควัน 693 ลูก

สำหรับอำเภอที่มีการยื่นขออนุญาตปล่อยโคมลอยมากที่สุดคืออำเภอแม่ริม จำนวน 18,615 ลูก และโคมควัน 30 ลูก โดยแยกเป็นที่ลานเนินนุ่ม 6,000 ลูกและที่ศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง 12,000 ลูก ส่วนโคมควันทางวัดป่าดาราภิรมย์ขออนุญาตปล่อย 30 ลูก รองลงมาคือที่ อ.สันทราย ยื่อขออนุญาตปล่อยโคมลอย 12,600 ลูก โคมควัน 50 ลูก แยกเป็นธุดงคสถาน 4,000 ลูก เทศบาลตำบลสันทรายหลวง 4,000 ลูกและที่สวนประเพณีเชียงใหม่ 1,500 ลูก

อ.เมืองยื่นขออนุญาตปล่อยโคมลอย 10,865 ลูก โดยมากที่สุดจำนวนที่ละ 1,000 ลูกคือที่โรงแรมแอทพิงคนครริเวอร์ไซด์ ลานอนุสาวรีย์พระเจ้ากาวิละและที่ลานอเนกประสงค์หมู่ 8 ขณะที่โรงแรมดาราเทวียื่นขออนุญาตปล่อยโคมลอย 100 ลูก บ้านพักผู้พิพากษาภาค 5 จำนวน 150 ลูก นอกนั้นยื่นขอไม่เกิน 100 ลูก ส่วนที่อ.สันป่าตองยื่นขออนุญาตปล่อยโคมลอย 50 ลูกโคมควัน 20 ลูก อ.จอมทองโคมลอย 120 ลูก โคมควัน 10 ลูก อ.สะเมิงโคมลอย 1,215 ลูก โคมควัน 42 ลูก

สำหรับอ.ดอยสะเก็ด ยื่นขออนุญาตปล่อยโคมลอย 9,560 ลูก โคมควัน 139 ลูก โดยแยกเป็นที่หนองบัวพระเจ้าหลวง 5,000 ลูก พื้นที่เปล่าข้างร้านดอยสะเก็ด ม.6 จำนวน 1,200 ลูก สะพานแขวน 2,000 ลูก อ.แม่แตงโคมลอย 330 ลูก อ.สันกำแพงโคมลอย 1,690 ลูก โคมควัน 37 ลูก อ.ไชยปราการโคมลอย  260 ลูก อ.ฮอด 20 ลูก อ.สารภีโคมลอย 800 ลูก โคมควัน 30 ลูก อ.พร้าวโคมลอย 319 ลูก โคมควัน 30 ลูก และอ.หางดอง 1,099 ลูก โคมควัน 200 ลูก อ.ดอยหล่อ โคมลอย 100 ลูก เช่นเดียวกับอ.แม่อายโคมลอย 105 ลูก

มีอำเภอที่ไม่มีผู้ยื่นขออนุญาตปล่อยโคมลอยและโคมควันจำนวน 9 อำเภอคือ อ.ฝาง กัลป์ยาณิวัฒนา เวียงแหง แม่ออน แม่แจ่ม ดอยเต่า อมก๋อย เชียงดาวและแม่วาง ทั้งนี้ทางฝ่ายปกครอง อำเภอจะบูรณาการกำลังร่วมกับตำรวจ ทหาร เทศกิจ ทสปช.และอส.ในการออกตรวจตราการจำหน่ายประทัดและการปล่อยโคมตามบริเวณสถานที่จัดงานต่างๆ เพื่อดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน โดยเน้นย้ำว่าผู้ที่จะปล่อยโคมลอยจะต้องได้ยื่นขออนุญาตแล้วเท่านั้น

ปลัดจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวด้วยว่า จะมีการควบคุมสถานที่จำหน่ายประทัดและโคมลอย ซึ่งจะเร่ขายไม่ได้โดยหากเจ้าหน้าที่ตรวจพบก็จะยึดไว้ทั้งหมด โดยใช้พ.ร.บ.ควบคุมและรักษาความสะอาดรวมทั้งกฎหมายที่เกี่ยวข้อง นอกจากนี้ยังจะได้เน้นย้ำไปทุกอำเภอในการประชาสัมพันธ์เสียงตามสายถึงเรื่องการจุด การปล่อยโคมลอย โคมไฟที่ต้องขออนุญาตและต้องได้มาตรฐานด้วย โดยขณะนี้หมดช่วงระยะเวลาการยื่นขออนุญาตแล้ว

ทางด้านนายพงษ์ชัย มูลรินทร์ ผอ.ศูนย์ควบคุมการบินเชียงใหม่ กล่าวว่า ในช่วงเทศกาลลอยกระทงทางวิทยุการบินได้บริหารจัดการการบินและจัดมาตรการให้มีความปลอดภัย รวมทั้งเพิ่มความระมัด ระวังเป็นพิเศษโดยให้เจ้าหน้าที่สังเกตหากพบโคมลอยหรือโคมควันในแนวขึ้นลงของอากาศยานให้รีบแจ้งนักบิน และติดตามข่าวอินโนแทมด้วยและหากพบโคมลอยตกในพื้นที่รันเวย์ก็จะได้รีบแจ้งระงับการขึ้นลงของอากาศยาน เพราะที่เชียงใหม่เคยประสบปัญหาเมื่อปี 2559 ที่มีโคมลอยตกในเขตรันเวย์และหลุดเข้าไปในเครื่องยนต์ ซึ่งครั้งนั้นโชคดีที่ยังไม่ได้ขึ้นบิน นอกจากแจ้งเตือนและควบคุมแล้ว ยังได้เตรียมพร้อมรับสถานการณ์ฉุกเฉินเพื่อรองรับไว้อีกทางหนึ่งด้วย

ขณะที่เรืออากาศโทธนันท์รัฐ ประเสริฐศรี รองผู้อำนวยการท่าอากาศยานเชียงใหม่ กล่าวว่า ในช่วงเทศกาลยี่เป็ง ระหว่างวันที่ 21-23 พฤศจิกายน 2561 (ข้อมูล ณ วันที่ 8 พฤศจิกายน 2561)  มีเที่ยวบินที่ยกเลิกและเปลี่ยนแปลงเวลาการบิน รวมทั้งสิ้น 148 เที่ยวบิน คิดเป็นร้อยละ 22 ของเที่ยวบินที่ทำการบินทั้งหมด ในช่วงเวลาดังกล่าว โดยมีเที่ยวบินที่ยกเลิก จำนวน 60 เที่ยวบิน แบ่งเป็นเที่ยวบินในประเทศ 44 เที่ยวบิน และเที่ยวบินระหว่างประเทศ 16 เที่ยวบิน

นอกจากนี้ยังมีเที่ยวบินที่เปลี่ยนแปลงเวลาทำการบินจำนวนทั้งสิ้น 88 เที่ยวบิน เป็นเที่ยวบินภายในประเทศ 69 เที่ยวบิน และเที่ยวบินระหว่างประเทศ 19 เที่ยวบิน ซึ่งการเปลี่ยนแปลงและยกเลิกเที่ยวบินดังกล่าว เชื่อว่าไม่ส่งผลกระทบต่อการให้บริการประชาชน เนื่องจากสายการบินได้ประชาสัมพันธ์ให้ผู้โดยสารและนักท่องเที่ยวทราบล่วงหน้า เพื่อวางแผนการเดินทางที่เหมาะสมแล้ว พร้อมกันนี้ ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ได้เข้มงวดมาตรการรักษาความปลอดภัย เพิ่มความเข้มข้นในการดำเนินการรักษาความปลอดภัย อาทิ เพิ่มวงรอบการ ตรวจการณ์ ทั้งภายในอาคารผู้โดยสาร และบริเวณพื้นที่รอบท่าอากาศยาน ตั้งจุดสุ่มตรวจยานพาหนะ ที่ผ่านเข้ามาในพื้นที่ท่าอากาศยานเป็นระยะ สุ่มตรวจสัมภาระและผู้โดยสารตามมาตรฐานที่กำหนด สุ่มตรวจสภาพความพร้อมของพนักงานที่ปฏิบัติงานในเขตการบิน รวมทั้งห้ามจอดยานพาหนะบริเวณชานชาลาหน้าอาคารผู้โดยสารอย่างเด็ดขาด เพื่อความปลอดภัยและลดปัญหาด้านการจราจร 

รองผอ.การท่าอากาศยานเชียงใหม่ กล่าวอีกว่า        สำหรับการรณรงค์เรื่องการปล่อยโคมลอยให้ปลอดภัย ก่อนหน้านี้ท่าอากาศยานเชียงใหม่ได้มีหนังสือขอความร่วมมือไปยังหน่วยงานราชการและเอกชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รวมถึงวัด สถานศึกษาและชุมชน                    ที่อยู่ในเขตความปลอดภัยในการเดินอากาศ ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรับทราบถึงแนวทางการปฏิบัติเกี่ยวกับการปล่อยโคมลอยที่เหมาะสมในช่วงเทศกาลลอยกระทง

โดยเน้นย้ำให้ปฏิบัติตามประกาศจังหวัดเชียงใหม่ ในเรื่อง การปฏิบัติเกี่ยวกับการจัดทำและการปล่อยโคมควันโคมลอยอย่างเคร่งครัด คือห้ามปล่อยโคมลอยโคมควันในเขตพื้นที่ความปลอดภัยในการเดินอากาศ ยกเว้นแต่เป็นการปล่อยตามประเพณียี่เป็ง (ลอยกระทง) ในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 12 และวันแรม 1 ค่ำ เดือน 12 ซึ่งในปีนี้ตรงกับวันที่ 22 และ 23 พฤศจิกายน 2561 โดยต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไข คือ ให้ปล่อยโคมลอย/โคมไฟ ระหว่างเวลา 19.00-01.00 น. ส่วนโคมควันสามารถปล่อยได้ในวันที่ 22 พฤศจิกายน 2561 ระหว่างเวลา 10.00-12.00 น. และในระหว่างวันที่ 21-23 พฤศจิกายน 2561

นอกจากนั้นท่าอากาศยานเชียงใหม่ จะเพิ่มรอบความถี่ในการตรวจทางวิ่งทางขับจากเดิมวันละ 4 ครั้ง เป็น 10 ครั้ง และเพิ่มรอบการตรวจลานจอดอากาศยานจากเดิมวันละ 6 ครั้ง เป็น 10 ครั้ง   เพื่อตรวจเก็บซากโคมที่อาจถูกกระแสลมพัดมาตกในพื้นที่เขตการบิน พร้อมจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังการเก็บโคมลอยและโคมควัน โดยพร้อมออกไปเก็บซากโคมลอยได้ทันที หากได้รับแจ้งจากหอบังคับการบินหรือจากนักบิน อย่างไรก็ตาม จากการที่ทุกฝ่ายได้ร่วมกันรณรงค์ในเรื่องการปล่อยโคมลอยโคมควันมาอย่างต่อเนื่อง พบว่าสถิติโคมลอยที่พัดเข้ามาตกในเขตการบินมีจำนวนลดลง โดยมีสถิติสูงสุดเมื่อปี 2556 จำนวน 1,425 ลูก และปีที่ผ่านมามีจำนวน 108 ลูก

เรืออากาศโทธนันท์รัฐ กล่าวด้วยว่า ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ต้องการเป็นส่วนหนึ่งในการส่งเสริมและสืบสานประเพณีลอยกระทง ซึ่งเป็นประเพณีที่ดีงามของไทย พร้อมจะทำหน้าที่ในการเป็นประตูต้อนรับนักท่องเที่ยวที่จะมาเยือน ด้วยการอำนวย                               ความสะดวกและดูแลความปลอดภัยในการเดินทางของนักท่องเที่ยวให้ดีที่สุด โดยปัจจุบันมีผู้โดยสารเดินทางผ่านท่าอากาศยานเชียงใหม่วันละประมาณ 30,000 คน .

 

 

You may also like

เกษตรกร ชี้ซีพีเป็นรายเดียวเข้มนโยบายตรวจสอบย้อนกลับ ไม่รับซื้อข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ที่ไม่มีเอกสารสิทธิ์ และที่มาจากการเผา

จำนวนผู้