ชลประทานที่ 1 เปิดศูนย์ปฏิบัติการน้ำ(SWOC1) ตลอด 24 ชั่วโมงเพื่อติดตามสถานการณ์น้ำ

ชลประทานที่ 1 เปิดศูนย์ปฏิบัติการน้ำ(SWOC1) ตลอด 24 ชั่วโมงเพื่อติดตามสถานการณ์น้ำ

ชลประทานที่ 1 เปิดศูนย์ปฏิบัติการน้ำ(SWOC1)  ตลอด 24 ชั่วโมงเพื่อติดตามสถานการณ์น้ำ เผยทั้งเขื่อนแม่งัดฯและแม่กวงยังรองรับน้ำได้อีกนับ 100 ล้านลบ.ม. ขณะที่น้ำในลำน้ำปิงให้จับตาช่วง 6 โมงเย็นวันนี้มีระดับสูงขึ้นแต่ไม่ล้นฝั่ง

นายจานุวัตร เลิศศิลป์เจริญ ผอ.สำนักชลประทานที่ 1 เปิดเผยว่า ขณะนี้สำนักงานชลประทานที่ 1 ได้เปิดศูนย์ปฏิบัติการน้ำ(SWOC1)  ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อติดตามสถานการณ์น้ำในเขื่อนและอ่างเก็บน้ำ รวมถึงลำน้ำสาขาต่างๆ โดยเฉพาะน้ำในแม่น้ำปิงที่จะไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ เพื่อจะได้ทำความเข้าใจและแจ้งเตือนประชาชนหากเกิดสภาวะวิกฤตน้ำล้นตลิ่ง เนื่องจากมีฝนตกหนักบริเวณทิศเหนือของจังหวัดเชียงใหม่และอิทธิพลของพายุเบบินคาที่ทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลากในหลายพื้นที่จนทำให้ประชาชนหวั่นวิตก

ผอ.สำนักชลประทานที่ 1 กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตามขอย้ำทำความเข้าใจกับประชาชนให้รับทราบปริมาณน้ำที่เก็บกักอยู่ในเขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชล อ.แม่แตงซึ่งเป็นเขื่อนขนาดใหญ่สามารถจุน้ำได้ถึง 265 ล้านลบ.ม.แต่ปัจจุบันปริมาณน้ำที่กักเก็บอยู่ที่ 117 ล้านลบ.ม.ซึ่งยังสามารถรองรับน้ำได้อีกเป็นจำนวนมาก เช่นเดียวกับที่เขื่อนแม่กวงอุดมธารา ซึ่งความจุของเขื่อนสามารถเก็บกักน้ำไว้ได้ 263 ล้านลบ.ม.แต่ปัจจุบันมีน้ำอยู่เพียง 31% ของความจุหรือประมาณ 81 ล้านลบ.ม.ซึ่งเขื่อนแม่กวงฯยังสามารถรับน้ำได้อีกจำนวนมาก

“การที่ชลประทานเปิดศูนย์ปฏิบัติการน้ำ เพราะช่วงนี้มีอิทธิพลของพายุเบบินคาที่ทำให้ภาคเหนือตอนบนของไทยได้รับผลกระทบ ทำให้มีฝนตกหนักและต่อเนื่องในหลายพื้นที่ อย่างไรก็ตามจากฝนที่ตกตั้งแต่วานนี้(17 ส.ค.)พบว่ามีปริมาณน้ำที่ไหลเข้าเขื่อนแม่งัดฯวันละ 1.3 ล้านลบ.ม.ซึ่งกรมอุตุนิยมวิทยาแจ้งว่าอิทธิพลของพายุเบบินคาจะทำให้ภาคเหนือมีฝนตกถึงตกหนักต่อเนื่อง 3 วันก็คาดว่าจะมีน้ำไหลเข้าเขื่อนขนาดใหญ่ทั้ง 2 เขื่อน สูงสุดน่าจะประมาณ 80 ล้านลบ.ม.ซึ่งก็ยังไม่ถึงจุดที่เขื่อนรับน้ำไว้มาก”นายจานุวัตร กล่าวและชี้แจงอีกว่า

อย่างไรก็ตามน้ำที่ไหลลงสู่แม่น้ำปิงและไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ซึ่งเป็นพื้นที่เศรษฐกิจที่จะทำให้เกิดน้ำท่วมไม่ได้นั้น ยังมีปริมาณน้ำที่ทางศูนย์ปฏิบัติการน้ำชลประทานที่ 1 นำมาประมวลผล วิเคราะห์ด้วยคือ น้ำจากแม่น้ำปิง ต้นน้ำจากอ.เชียงดาว น้ำจากลำน้ำแม่แตงซึ่งมาจากฝายแม่แตงและฝายแม่แฝกกับน้ำจากลำน้ำในอ.แม่ริม ซึ่งทั้ง 3 ส่วนนี้รวมกันคิดเป็นร้อยละ 80 ของน้ำที่ไหลลงสู่แม่น้ำปิง ขณะที่เขื่อนแม่งัดฯจะไหลลงแม่น้ำปิงเพียงร้อยละ 18 เท่านั้น

นายจานุวัตร กล่าวต่อไปอีกว่า ขณะนี้น้ำในลำน้ำปิงที่อ.เชียงดาวอัตราการไหลอยู่ที่ 249 ลบ.ม.ต่อวินาที ขณะที่น้ำจากฝายแม่แตงและแม่แฝกอัตราการไหล 48.7 ลบ.ม.ต่อวินาทีและน้ำในลำน้ำแม่ริมอัตราไหล 27.5 ลบ.ม.ต่อวินาที ซึ่งแต่เดิมจะใช้อัตราการไหลของน้ำที่จุดวัดน้ำ P.67 ถ้าหากอัตราการไหลของน้ำอยู่ที่ 450 ลบ.ม.ต่อวินาทีภายใน 6 ชั่วโมงปริมาณน้ำก้อนนั้นจะไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ และจะทำให้ทะลักไปตามจุดที่ลุ่มต่ำหรือจุดฟันหรอเข้าสู่พื้นที่อื่นได้ ซึ่งทางศูนย์ฯจะได้แจ้งเตือนประชาชนให้เก็บสิ่งของเครื่องใช้ไว้ที่สูงและให้จังหวัดแจ้งอพยพประชาชนไปในที่ปลอดภัย แต่ขณะนี้จากการประมวลผลปริมาณน้ำที่ไหลผ่าน P.67 ยังอยู่ที่ 314.6 ลบ.ม.ต่อวินาที

“ที่น่ากังวลคือปริมาณน้ำที่มาจากอ.แม่ริมซึ่งเยอะมากถึง 27.5 ลบ.ม.ต่อวินาทีและอยู่ต่ำกว่าจุด P.67 แม้ว่าปริมาณน้ำจากจุดวัดน้ำจุดนี้จะยังไม่ถึงขั้นที่จะวิกฤตแต่เมื่อระยะเวลาการไหลของน้ำทั้ง 3 จุดมาร่วมกันอาจจะเป็นมวลน้ำก้อนใหญ่ ด้วยเหตุนี้ทางศูนย์ฯจึงติดตาม วิเคราะห์สถานการณ์กันอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะในช่วง 6 โมงเย็นวันนี้(18 ส.ค.) อย่างไรก็ตามได้มีการเปิดประตูระบายน้ำระบายน้ำออกไปกว่า 60 ลบ.ม.ต่อวินาทีเพื่อรองรับมวลน้ำก้อนใหม่แล้ว จึงไม่อยากให้ประชาชนหวั่นวิตกจนเกินไป”ผอ.สำนักชลประทานที่ 1 กล่าวในที่สุด

ทางด้านนายเจนศักดิ์ ลิมปิติ ผอ.โครงการชลประทานเชียงใหม่ กล่าวว่า สำหรับการแจ้งสถานการณ์น้ำปิง ครั้งที่ 1 (18 สค.61 เวลา 16:00 น.) ศูนย์เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์ สำนักชลประทานที่ 1 (SWOC 1) ได้ประสานกับศูนย์ ปภ.เชียงใหม่ แจ้งเตือน ปชช. อำเภอ เมือง/สารภี/สันป่าตอง/หางดง/ดอยหล่อ/จอมทอง/ฮอด/ดอยเต่า แล้ว เนื่องจากสถานการณ์น้ำในลำน้ำแม่แตงมีปริมาณเพิ่มมากขึ้นเนื่องจากฝนตกหนัก และไหลมารวมกับน้ำปิง ส่งผลให้ปริมาณน้ำในลำน้ำปิงมากขึ้น จึงต้องบริหารจัดการน้ำให้อยู่ในเกณฑ์ที่จัดการได้ และไม่ส่งผลกระทบกับ ปชช. และสิ่งของมีค่า โดยขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ริมแม่น้ำปิงและที่ลุ่มต่ำ ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด นอกจากนี้ยังแจ้งเตือนให้ผู้เลี้ยงปลาในกระชัง ขอให้ดูแลกระชังของตนเอง โดยผูกกระชังให้มั่นคงแข็งแรง สำหรับสถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้าจากลำน้ำปิง ก็ขอให้ถอดตัวหนอนและผูกยึดแพสูบให้มั่นคงแข็งแรง และหากต้องการความช่วยเหลือสามารถแจ้งได้ที่อำเภอ/จังหวัด หรือหน่วยงานได้ทันที.

You may also like

เกษตรกร ชี้ซีพีเป็นรายเดียวเข้มนโยบายตรวจสอบย้อนกลับ ไม่รับซื้อข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ที่ไม่มีเอกสารสิทธิ์ และที่มาจากการเผา

จำนวนผู้