รมว.คมนาคมยังไม่ฟันธงพื้นที่สร้างสนามบินใหม่ ให้ผู้ว่าฯเปิดรับฟังความเห็นคนเชียงใหม่

รมว.คมนาคมยังไม่ฟันธงพื้นที่สร้างสนามบินใหม่ ให้ผู้ว่าฯเปิดรับฟังความเห็นคนเชียงใหม่

เผย 5 อำเภอทางเลือกสนามบินแห่งที่ 2 “ศักดิ์สยาม” ยังไม่ฟันธงพื้นที่สร้างสนามบินใหม่ ให้ผู้ว่าฯเปิดเวทีรับฟังความเห็นประชาชนทั้งจังหวัด ชี้สนามบินแห่งที่ 2 เกิดได้ต้องใช้เสียงชาวเชียงใหม่ ยันไม่มีของฟรีแต่ต้องเสียสละ ยอมรับการก่อสร้างจะส่งผลกระทบประชาชนที่ถูกเวนคืนที่ดิน ด้านผอ.การท่าฯแจงหากสร้าง 2 รันเวย์ต้องใช้พื้นที่เกือบ 12,000 ไร่ ระบุให้รัฐบาลออกกฎหมายเวนคืนที่ดิน

วันที่ 25 ตุลาคม 2562 เวลา 15.30 น.ที่ห้องประชุมท่าอากาศยานเชียงใหม่ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ตรวจเยี่ยมและมอบนโยบายการดำเนินงานให้แก่ท่าอากาศยานเชียงใหม่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) โดยมีนายอมรรักษ์ ชุมสาย ณ อยุธยา ผู้อำนวยการท่าอากาศยานเชียงใหม่ และผู้บริหารท่าอากาศยานเชียงใหม่,นายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่และหัวหน้าส่วนราชการในสังกัดกระทรวงคมนาคมให้การต้อนรับ
นายอมรรักษ์ ชุมสาย ณ อยุธยา ผอ.ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ได้บรรยายสรุปผลการดำเนินงานของท่าอากาศยานเชียงใหม่ว่า ในปีงบประมาณ 2562 ซึ่งมีอัตราการเติบโตของผู้โดยสารร้อยละ 4.55 หรือประมาณ 11.33 ล้านคน โดยผู้โดยสารภายในประเทศลดลงร้อยละ 1 ขณะที่ผู้โดยสารระหว่างประเทศเพิ่มขึ้นร้อยละ 19.01 เมื่อเทียบกับปีงบประมาณ 2561 ปัจจุบันมีเส้นทางบินภายในประเทศ 12 เส้นทาง และเส้นทางบินระหว่างประเทศ 28 เส้นทาง ทั้งนี้ผู้โดยสารชาวต่างชาติ 3 อันดับแรกได้แก่ จีน เกาหลีใต้ และไต้หวัน โดยเฉพาะผู้โดยสารชาวจีนมีอัตราส่วนถึงร้อยละ 43.99 จากจำนวนผู้โดยสารชาวต่างชาติทั้งหมด
ผู้อำนวยการท่าอากาศยานเชียงใหม่ ยังได้รายงานความก้าวหน้า โครงการพัฒนาท่าอากาศยานเชียงใหม่ ระยะที่ 1 (ระหว่างปี 2561-2565) ซึ่งมีวงเงินลงทุน 1.237 หมื่นล้านบาท ว่า ขณะนี้แผนโครงการพัฒนาฯ ได้ผ่านการพิจารณาของกระทรวงคมนาคมและสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) แล้ว และอยู่ระหว่างรอการพิจารณารายงานวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือนตุลาคม 2563 หลังจากนั้นจึงจะสามารถเสนอให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาอนุมัติ และคาดว่า ทอท.จะดำเนินการออกแบบและก่อสร้างแล้วเสร็จภายใน 3 ปี ซึ่งประกอบด้วยกลุ่มงานหลักๆ 5 กลุ่มงาน อาทิ การขยายพื้นที่อาคารผู้โดยสารให้รองรับผู้โดยสารได้ 16.5 ล้านคน การขยายและปรับปรุงหลุมจอดอากาศยานจาก 12 หลุมจอดเป็น 31 หลุมจอด การปรับปรุงระบบถนนและเพิ่มช่องทางจราจร การเพิ่มพื้นที่จอดรถยนต์ และการก่อสร้างทางยกระดับเพื่อแยกผู้โดยสารขาเข้าและขาออก เป็นต้น อย่างไรก็ตามในระหว่างรอการพิจารณารายงานวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม ท่าอากาศยานเชียงใหม่ได้มีโครงการบรรเทาความแออัด (ระหว่างปี 2561-2563) ได้แก่ การสร้างอาคารจอดรถยนต์สัมปทาน ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการคาดว่าจะแล้วเสร็จประมาณเดือนพฤษภาคม 2563 การสร้างอาคารอเนกประสงค์ และปรับปรุงอาคารผู้โดยสารภายในประเทศเพื่อให้สามารถรองรับผู้โดยสารได้เพิ่มขึ้น
ภายหลังการประชุมนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้ให้สัมภาษณ์ว่า การเดินทางมาเชียงใหม่ในครั้งนี้เพื่อติดตาม ตรวจเยี่ยมดูงานในส่วนของกระทรวงคมนาคมทั้งหมดทั้งทางบก ทางอากาศและทางน้ำ โดยในครั้งนี้เป็นการตรวจเยี่ยมและรับฟังแผนการดำเนินงานของท่าอากาศยานเชียงใหม่ ซึ่งทางการท่าฯได้เสนอแผน2 ส่วนๆ เดิมคือแผนพัฒนาท่าอากาศยานเดิมที่จะมีการก่อสร้างอาคารผู้โดยสารเพิ่ม มีอาคารจอดรถและอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ ซึ่งคาดว่าปีหน้าผลการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมจะเรียบร้อย โดยงบประมาณดำเนินการทางทอท.มีพร้อม และรัฐบาลก็พร้อมที่จะผลักดัน ซึ่งได้ขอให้ทางการท่าฯทำความเข้าใจกับประชาชนถึงแผนการพัฒนาท่าอากาศยานเชียงใหม่ เพื่อรองรับจำนวนผู้โดยสารและนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นด้วย
ส่วนอีกส่วนหนึ่งคือ การสร้างสนามบินเชียงใหม่แห่งที่ 2 โดยส่วนนี้ได้มีการศึกษาพื้นที่ไว้ทั้งหมด 5 แห่ง คือที่อ.แม่ริม อ.สันกำแพง อ.ดอยหล่อ อ,สันป่าตอง จังหวัดเชียงใหม่และที่อ.บ้านธิ จ.ลำพูน ซึ่งโครงการก่อสร้างสนามบินแห่งที่ 2 นี้เชื่อว่าโครงการนี้จะมีผลกระทบกับประชาชนในเรื่องของการเวนคืนที่ดิน แต่เรื่องงบประมาณในการก่อสร้างไม่มีปัญหา เพราะรัฐบาลและกระทรวงคมนาคมพร้อมที่จะผลักดันและดำเนินการ
“ผมได้มอบหมายให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ให้เข้ามาช่วยทางการท่าฯในเรื่องของการเปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นจากประชาชน เพราะประเทศไทยโดยใช้ศักยภาพทางอากาศ คือต้องการให้นักท่องเที่ยวเข้ามาทั้งประเทศเพิ่มเป็น 150 ล้านคน โดยเป็นนักท่องเที่ยวคนไทย 30 ล้านคน ตอนนี้รัฐบาลและกระทรวงคมนาคม และการท่าฯพร้อม และถ้าประชาชนพร้อมก็จะเดินหน้าทันที”รมว.คมนาคม กล่าวและชี้แจงอีกว่า
ในแต่ละพื้นที่นั้นมีความแตกต่างกันและมีศักยภาพที่ต่างกัน อย่างไรก็ตามจากการศึกษาทั้งหมดมีสองพื้นที่ที่เป็นไปได้คือรอยต่อระหว่างอ.สันกำแพงกับอ.บ้านธิ จังหวัดลำพูน ซึ่งในการศึกษานั้นทางกรมการบินพลเรือนได้เสนอครม.ชุดเก่าไปแล้ว และขณะนี้ก็รอเสนอครม.ชุดปัจจุบันว่าจะเลือกเอาจุดไหน อย่างไรก็ตามในแต่ละแปลงก็มีที่ดินของประชาชนที่เป็นเอกสารสิทธิ์จำนวนมากและเป็นโจทย์ที่จังหวัดและผู้ว่าฯต้องช่วยในการสร้างความเข้าใจกับประชาชน ซึ่งก็ต้องใช้เวลาอย่างไรก็ดีในช่วงนี้ก็ให้ดำเนินการตามแผนพัฒนาท่าอากาศยานเดิมไปก่อน และให้ดำเนินการเพื่อเตรียมการสำหรับการก่อสร้างสนามบินแห่งใหม่ไปด้วย
“ทุกเรื่องไม่มีของฟรี และต้องเสียงสละ เพราะพื้นที่ที่เสนอมาไม่มีพื้นที่สาธารณะ อย่างไรก็ตามภาครัฐพร้อมที่จะลงทุนในการพัฒนาเส้นทางคมนาคมเชื่อมต่อไปยังสนามบินแห่งใหม่ ก็มอบให้ผู้ว่าฯไปรับฟังความเห็นของประชาชนทั้งหมดว่าอยากให้สนามบินใหม่ไปอยู่ไหน เพราะถ้าทำแล้วมีผลกระทบก็ต้องมีการเยียวยาที่ดี สิ่งนี้ถึงจะเกิดขึ้นได้ แต่ตอนนี้ยังบอกไม่ได้ว่าสนามบินแห่งใหม่จะไปอยู่ที่ไหน”นายศักดิ์สยาม กล่าว
ทางด้านนายอมรรักษ์ ชุมสาย ณ อยุธยา ผอ.ท่าอากาศยานเชียงใหม่ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับการศึกษาพื้นที่ก่อสร้างสนามบินแห่งใหม่นั้น ทางกรมการบินพลเรือนเป็นผู้ดำเนินการศึกษา และทางทอท.ก็มีการศึกษาอีกทางหนึ่ง ซึ่งทั้ง 2 หน่วยได้ศึกษาและในรายงานผลการศึกษาที่ได้ก็ใกล้เคียงกัน โดยพื้นที่ที่เหมาะสมอย่างที่นำเสนอไปคือรอยต่อระหว่างอ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่กับอ.บ้านธิ จ.ลำพูน โดยพื้นที่ใช้งานประมาณ
7,000 ไร่จะได้ 1 รันเวย์ แต่ถ้าใช้พื้นที่ 11,775 ไร่จะได้ 2 รันเวย์ ทั้งนี้ทางทอท.พร้อมที่จะเข้าไปบริหารท่าอากาศยานฯ แต่ในเรื่องของการเวนคืนที่ดิน ทางทอท.ไม่มีกฎหมายรองรับ ต้องให้รัฐบาลเป็นผู้ดำเนินการ.

You may also like

“ นบ.ยส.35 ขานรับนโยบายยาเสพติด SEAL STOP SAFE เสริมกำลังเขี้ยวเล็บหัวหน้าชุดปฏิบัติการ

จำนวนผู้