6 ประเทศลุ่มน้ำโขงเปิดแผนปฏิบัติการสามเหลี่ยมทองคำ 1511

6 ประเทศลุ่มน้ำโขงเปิดแผนปฏิบัติการสามเหลี่ยมทองคำ 1511

6 ประเทศลุ่มน้ำโขงเปิดแผนปฏิบัติการสามเหลี่ยมทองคำ 1511


เมื่อวันที่ 10 มกราคม 2563 สำนักงาน ปปส.ภาค 5 โดยนายคณิศร ภาพีรนนท์ ผอ.บก. ร่วมกับ ศูนย์ประสานงานแม่น้ำโขงปลอดภัย นายโชติพันธ์ จุลเพ็ชร อัครทูตที่ปรึกษาด้านยาเสพติด ประจำ นครหลวงเวียงจันทน์ สปป.ลาว ศูนย์อำนวยการบริหารการแก้ไขปัญหายาเสพติดชายแดนภาคเหนือ ศูนย์ปฏิบัติการบริหารการแก้ไขปัญหายาเสพติดชายแดนภาคเหนือ หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงราย สถานีตำรวจภูธรเชียงแสน ตำรวจน้ำเชียงแสน ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองเชียงแสน ศุลกากรเชียงแสน ฝ่ายปกครองจังหวัดเชียงราย ฝ่ายปกครองอำเภอเชียงแสน และหน่วยงานภาคีที่เกี่ยวข้อง ร่วมพิธีเปิด แผนปฏิบัติการสามเหลี่ยมทองคำ 1511 โดยได้ปฏิบัติภารกิจลาดตระเวนร่วมตามลำแม่น้ำโขง ระหว่างไทย-สปป.ลาว เพื่อสกัดกั้นยาเสพติดและเคมีภัณฑ์ มิให้ถูกลำเลียงไปยังแหล่งผลิตยาเสพติด และการป้องกันยาเสพติด ไม่ให้ถูกกระจายออกจากพื้นที่สามเหลี่ยมทองคำ โดยมี ผู้แทนฝ่าย สปป.ลาว ประกอบด้วย พลจัตวา สีพัน พุดทะวง หัวหน้ากรมทหารชายแดน พันเอก อ่อนผิว โค้งเวียงทอง เลขาธิการ LCDC พันโท บุนเพ็ง อินทะวง รองหัวหน้ากรมตำรวจสกัดกั้นและต้านยาเสพติด มาร่วมปฏิบัติการในครั้งนี้
ปฏิบัติการดังกล่าว จะดำเนินการร่วมกันของประเทศสมาชิกทั้ง 6 ภายใต้ชื่อปฏิบัติการ “สามเหลี่ยมทองคำ 1511” เริ่มปฏิบัติการตั้งแต่เดือนธันวาคม 2562 ถึงธันวาคม 2563 ถือเป็นส่วนหนึ่งที่ สำนักงาน ป.ป.ส. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้มีการอำนวยการและประสานงานร่วมมือกับฝ่าย สปป.ลาว ในการยกระดับว่าด้วยความร่วมมือในการลาดตระเวนทางเรือร่วมกัน เพื่อการสกัดกั้นยาเสพติด สารตั้งต้น และเคมีภัณฑ์ อีกทั้ง การแก้ไขปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ ตามแนวลำแม่น้ำโขงโดยเฉพาะบริเวณรอยต่อของแต่ละประเทศได้เป็นอย่างดี
ทั้งนี้ พลจัตวา สีพัน ระบุว่าประเทศไทย และ สปป.ลาว มีความใกล้ชิดและเผชิญกับปัญหาร่วมกันอยู่เสมอ เช่นเดียวกับปัญหายาเสพติด ซึ่งความร่วมมือด้านการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในหลายปีที่ผ่านมา ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี ส่งผลให้ทางการของ สปป.ลาว สามารถสืบสวนขยายผลจับกุมเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติดข้ามชาติในห้วงปี 2562 ที่ผ่านมาได้มากถึง 65 คดี ได้ผู้ต้องหา 116 คน ยึดยาบ้าได้กว่า 33,512,556 เม็ด ไอซ์ 2,876 กก. กัญชา 248 กก. เฮโรอีน 124 กก. และสารตั้งต้นที่จะนำไปใช้ในการผลิตยาเสพติดอีกกว่า 12,000 กก. ซึ่งทางการ สปป.ลาวได้ให้ความสำคัญอย่างยิ่ง จึงเดินทางมาร่วมลงเรือลาดตระเวนจากท่าเรือบ้านมอม เมืองต้นผึ้ง แขวงบ่อแก้ว มายังน่านน้ำรอยต่อระหว่างประเทศไทย ที่อำเภอเชียงแสน เพื่อแสดงถึงความร่วมมือและความจริงใจในการสกัดกั้นยาเสพติดของกลุ่มประเทศลุ่มแม่น้ำโขงอีกด้วย


จากสภาพปัญหายาเสพติดที่ทั้งสองประเทศกำลังเผชิญอยู่ในปัจจุบัน มีแนวโน้มทวีความรุนแรงมากขึ้น ต่อเนื่องจากห้วงหลายปีที่ผ่านมา จึงจำเป็นจะต้องพัฒนาและยกระดับความร่วมมือระหว่างประเทศให้มากขึ้นในทุก ๆ ด้าน เพื่อหยุดยั้งการส่งออกยาเสพติด และการนำเข้าสารตั้งต้นรวมทั้งเคมีภัณฑ์ ที่จะนำไปสู่การผลิตยาเสพติดชนิดต่าง ๆ ในพื้นที่สามเหลี่ยมทองคำให้เป็นผลในเชิงรูปธรรมต่อไป

You may also like

“ส.ว.ก๊อง”ลั่นลงสมัครป้องกันแชมป์สมัยหน้าในนามพรรคเพื่อไทย แย้มครั้งนี้ “ทักษิณ” ขอเป็นผู้ช่วยหาเสียง พร้อมลงพื้นที่ 25 อำเภอ

จำนวนผู้