แนะเลี่ยงปล่อยโคมสีขาว ฟ้าและคราม ระบุสีกลมกลืนน่านฟ้าอาจทำให้นักบินหลบไม่ทัน

แนะเลี่ยงปล่อยโคมสีขาว ฟ้าและคราม ระบุสีกลมกลืนน่านฟ้าอาจทำให้นักบินหลบไม่ทัน

- in headline, จับกระแสสังคม

ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ย้ำการปล่อยโคมลอย/โคมควัน ในช่วงเทศกาลยี่เป็ง ห้ามปล่อยเด็ดขาดในพื้นที่ 5 อำเภอ ซึ่งอยู่ในเขตปลอดภัยในการเดินอากาศ ขณะที่วิทยุการบินยันปีที่ผ่านมานักบินยังเจอโคมควัน ในระประชิด 29 โคม ชี้เลี่ยงโคมสีขาว ฟ้าและคราม ระบุสีกลมกลืนน่านฟ้าอาจทำให้นักบินหลบไม่ทัน

นายกฤษฎา พุกะทรัพย์ รองผู้อำนวยการท่าอากาศยานเชียงใหม่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงแนวทางในการปฏิบัติเพื่อป้องกันผลกระทบจากการปล่อยโคมลอย โคมไฟ โคมควัน (ว่าวฮม) ในเทศกาลลอยกระทงหรือประเพณียี่เป็ง ว่า ขอให้ยึดปฏิบัติตาม พระราชบัญญัติการเดินอากาศ (ฉบับที่ 14) ซึ่งปรับปรุงใหม่เมื่อปี พ.ศ.2562 โดยในมาตรา 33 ได้เพิ่มความตามมาตรา 59/1 แห่งพระราชบัญญัติการเดินอากาศ พ.ศ.2497 และรัฐบาล ได้ประกาศมาตรการป้องกันรักษาความปลอดภัยและการดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยของประชาชนในการจุดและ ปล่อยโคมลอย โคมไฟ โคมควัน (ว่าวฮม) หรือวัตถุอื่นใดที่คล้ายคลึงกันขึ้นไปสู่อากาศ เมื่อวันที่ 9 กันยายน 2562 โดยอ้างอิงตามประกาศจังหวัดเชียงใหม่ ไม่อนุญาตให้มีการจุดและปล่อยโคมลอย โคมไฟ โคมควัน (ว่าวฮม) หรือวัตถุ อื่นใดที่คล้ายคลึงกันขึ้นไปสู่อากาศ ในเขตปลอดภัยในการเดินอากาศอย่างเด็ดขาดในพื้นที่ 5 อำเภอ ได้แก่
1. อำเภอเมืองเชียงใหม่ ครอบคลุมทุกตำบล
2. อำเภอหางดง ครอบคลุมทุกตำบล
3. อำเภอสารภี ใน 4 ตำบล ได้แก่ ตำบลขัวมุง ดอนแก้ว ท่าวังตาล และหนองผึ้ง
4. อำเภอแม่ริม ใน 3 ตำบล ได้แก่ ตำบลดอนแก้ว ริมใต้ และแม่สา
5. อำเภอสันทราย 1 ตำบล คือ ตำบลหนองหาร
ซึ่งพื้นที่ทั้ง 5 อำเภอในเขตปลอดภัยการในเดินอากาศดังกล่าว มีระยะห่างจากกึ่งกลางทางวิ่ง (runway)
ไปทางทิศตะวันออกกับทิศตะวันตกขนานกับทางวิ่งข้างละ 6 กิโลเมตร และแนวขึ้นลงทางวิ่ง ด้านทิศเหนือกับทิศใต้ ห่างจากหัวทางวิ่งไปข้างละ 15 กิโลเมตร โดยความกว้างของแนวตามมาตรฐานกำหนดมีรูปร่างคล้ายกรวยน้ำ เมื่อกำหนดรูปร่างออกมาแล้วจะมีลักษณะคล้ายห่อลูกอมหรือเรียกง่ายๆ ว่า Toffy zone ส่วนพื้นที่ที่ไม่ได้อยู่ในเขตปลอดภัยในการเดินอากาศขอให้ปฏิบัติตามประกาศจังหวัดเชียงใหม่ ในเรื่องมาตรการป้องกันและการรักษาความปลอดภัยและการดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยของประชาชนในการจุดและปล่อยโคมลอย โคมไฟ โคมควัน (ว่าวฮม) หรือวัตถุอื่นใดที่คล้ายคลึงกันขึ้นสู่อากาศ พ.ศ.2559 โดยมีสาระสำคัญเช่น การกำหนดพื้นที่ห้ามปล่อยโคม กำหนดชนิด ขนาด และจำนวน และกำหนดระยะเวลาในการจุดหรือปล่อย คือ ในช่วงเทศกาลลอยกระทงหรือยี่เป็ง ให้ปล่อยได้ในคืนวันลอยกระทงเล็กและ วันลอยกระทงใหญ่ ระหว่างเวลา 19.00-01.00 น. ซึ่งปีนี้ตรงกับวันที่ 31 ตุลาคม และวันที่ 1 พฤศจิกายน 2563 โดยต้องแจ้งขออนุญาตจากนายอำเภอท้องที่ก่อน 15 วัน หลังจากได้รับอนุญาตจากนายอำเภอท้องที่ ต้องแจ้ง ท่าอากาศยานเชียงใหม่หรือศูนย์ควบคุมการบินเชียงใหม่ก่อน 7 วัน เพื่อจะได้ออกประกาศเตือนนักบิน (NOTAM) ต่อไป

สำหรับการรณรงค์เรื่องการปล่อยโคมลอยให้ปลอดภัย ก่อนหน้านี้ ท่าอากาศยานเชียงใหม่ได้มีหนังสือ ขอความร่วมมือไปยังหน่วยงานราชการและเอกชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น วัด สถานศึกษาและชุมชนที่อยู่ในเขต ความปลอดภัยในการเดินอากาศ ประชาสัมพันธ์แก่ประชาชนให้รับทราบถึงแนวทางการปฏิบัติเกี่ยวกับการปล่อยโคมลอย ในช่วงเทศกาลลอยกระทง รวมทั้งได้ประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อมวลชนและ Social Media โดยเปิดช่องทางให้สอบถาม และตรวจสอบพื้นที่ปล่อยโคมลอยในจังหวัดเชียงใหม่ ผ่านเพจ Facebook/Chiang Mai International Airport-CNX

ขณะเดียวกันยังได้เพิ่มรอบความถี่ในการตรวจสอบบริเวณพื้นที่ของสนามบินทั้งภายในเขตการบินและนอกเขตการบิน โดยเฉพาะในเขตการบินหรือ Airside จะมีการออกตรวจทางวิ่งทางขับจากเดิมวันละ 4 ครั้ง เป็น 10 ครั้ง เพื่อตรวจเก็บซากโคมที่อาจถูกกระแสลมพัดมาตกในพื้นที่เขตการบิน พร้อมจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังการเก็บโคมลอยและโคมควัน โดยพร้อมออกไปเก็บซากโคมลอยได้ทันที หากได้รับแจ้งจากหอบังคับการบินหรือจากนักบิน
นอกจากนี้ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ยังได้ขอความร่วมมือสายการบินต่างๆ พิจารณาปรับเปลี่ยนเวลา ทำการบินในช่วงเทศกาลลอยกระทงเพื่อลดความเสี่ยงและหลีกเลี่ยงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากการปล่อยโคมลอย โดยระหว่างวันที่ 31 ตุลาคม ถึง 1 พฤศจิกายน 2563 (ข้อมูล ณ วันที่ 14 ตุลาคม 2563) มีเที่ยวบินที่แจ้งยกเลิกและเปลี่ยนแปลงเวลาการบิน รวมทั้งสิ้น 38 เที่ยวบิน คิดเป็นร้อยละ 15.83 ของเที่ยวบินที่ทำการบินทั้งหมดในช่วงเวลาดังกล่าว เป็นเที่ยวบินยกเลิกจำนวน 16 เที่ยวบิน และเที่ยวบินที่เปลี่ยนแปลงเวลาทำการบินจำนวน 22 เที่ยวบิน ซึ่งถึงแม้ว่าเที่ยวบินที่ทำการบินตามตารางเวลาปกติ สายการบินจะทำการยกเลิกเที่ยวบินในช่วงเวลาดังกล่าวแล้ว แต่สนามบินเชียงใหม่ก็ยังเป็นสนามบินที่ใช้สำรองให้อากาศยานที่มีเหตุขัดข้องจำเป็นต้องขอลงจอดฉุกเฉิน ตลอด 24 ชั่วโมง ดังนั้นจึงไม่สามารถปล่อยโคมลอยในเขตปลอดภัยในการเดินอากาศโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืนปล่อยโคมลอยในเขต Toffy Zone ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ท่าอากาศยานเชียงใหม่ พร้อมเป็นส่วนหนึ่งในการส่งเสริมและสืบสานประเพณีลอยกระทง ซึ่งเป็นประเพณี ที่ดีงามของไทย ขณะเดียวกันก็จำเป็นต้องคำนึงถึงความปลอดภัยต่อผู้โดยสารและอากาศยาน ซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญ ของการบินและจะส่งผลต่อความเชื่อมั่นจากนานาชาติ ดังนั้นจึงขอความร่วมมือจากทุกภาคส่วนยึดปฏิบัติตามพระราชบัญญัติการเดินอากาศ (ฉบับที่ 14) พ.ศ.2562 และประกาศจังหวัดเชียงใหม่ปี 2559 อย่างเคร่งครัดต่อไป

ทางด้านพันจ่าโทสาคร ปีกอง ผู้จัดการควบคุมจราจรทางอากาศเขตประชิดสนามบินภูมิภาค กล่าวว่า แม้ว่าจะมีการรณรงค์กันอย่างต่อเนื่องในเรื่องการปล่อยโคมลอยและโคมควันในช่วงเทศกาลลอยกระทง และจำนวนโคมลอยหรือโคมควันที่ขออนุญาตปล่อยและอยู่ในกำหนดช่วงเวลาที่อนุญาตคือเวลา 10.00-12.00 น.ในวันขึ้น 15 ค่ำหรือวันลอยกระทงใหญ่ แต่นักบินก็ยังพบเห็นโคมลอยอยู่ในเส้นทางการบินหลังเวลา 12.00 น.เป็นจำนวนมาก เนื่องจากโคมควันและโคมลอยสามารถลอยอยู่ในอากาศได้นานและสูง โดยปีที่ผ่านมาได้รับรายงานจากนักบินว่าพบเห็นโคมลอยทั้งใต้เครื่องบิน ข้างเครื่องขณะบิน หน้าเครื่่องบินและยังเห็นที่ลอยอยู่สูงกว่าเครื่องบินด้วย ซึ่งพบในเขตปลอดภัยทางอากาศในเขตจังหวัดเชียงใหม่(อำเภอหางดง เมืองและแม่ริม)จำนวน 17 โคมหรือลูก ในเขตจังหวัดลำพูน 11 ลูก และพบระหว่างรอยต่อจังหวัดเชียงใหม่และลำพูน 1 ลูก รวมทั้งหมด 29 ลูก

ผู้จัดการควบคุมจราจรทางอากาศเขตประชิดสนามบินภูมิภาค กล่าวอีกว่า จะขอความร่วมมือประชาชนที่ประดิษฐ์โคมควันหรือโคมลอย ให้หลีกเลี่ยงการใช้กระดาษสีฟ้า สีคราม และสีขาว ขอให้เป็นสีที่ฉูดฉาด เพื่อให้นักบินสามารถมองเห็นได้ในระยะไกล เพราะหากเป็นสีที่กลมกลืนกับท้องฟ้าบางครั้งกว่านักบินจะมองเห็นก็ในระยะประชิดซึ่งอาจเป็นอันตรายได้หากโคมดังกล่าวถูกดูดเข้าไปในใบพัดหรือติดกับเครื่องบินได้

You may also like

อาดิดาสเปิดตัว ADIDAS OUTLET CENTRAL CHIANGMAI AIRPORT พร้อมส่งโปรฯ แรง ฉลองสาขาใหม่ใหญ่สุดในภาคเหนือ มอบส่วนลดกว่า 60% ให้เหล่าขาช้อป

จำนวนผู้