แกนนำเครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพลั่นสู้ต่อหลังเจอหมายศาลค้นบ้าน

แกนนำเครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพลั่นสู้ต่อหลังเจอหมายศาลค้นบ้าน

เชียงใหม่/ป้ายลึกลับเผยรายชื่อตุลาการโผล่กลางเมืองเชียงใหม่ – ตร.โชว์หมายศาล ค้นบ้านพักแกนนำเครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ พร้อมยึดอุปกรณ์สื่อสารไปตรวจสอบ “ธีระศักดิ์” ยันไม่หยุดเคลื่อนไหว ระบุหากต้นเดือนธันวา การประชุมคณะกรรมการชุดใหญ่ไม่คืบ ยกระดับการต่อสู้แน่นอน

นายธีระศักดิ์ รูปสุวรรณ ผู้ประสานงานเครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ เปิดเผยว่า เมื่อเวลาประมาณ 09.30 น. ของวันที่ 14 พ.ย. เจ้าหน้าที่ตำรวจจากสภ.เมืองเชียงใหม่ นำโดยพ.ต.อ.ธีรศักดิ์ ศรีประเสริฐ ผกก.สภ.เมืองเชียงใหม่ ได้นำหมายศาลมาแสดงเพื่อตรวจค้นบ้าน พร้อมทั้งแจ้งว่ามีการแจ้งข้อกล่าวหาหมิ่นประมาทและโพสต์ข้อความอันเป็นเท็จ ซึ่งเชื่อว่าเกี่ยวข้องกับกรณีที่มีป้ายลึกลับบริเวณประตูท่าแพ และประตูช้างเผือก เมื่อวันที่ 8 พ.ย.ที่ผ่านมา เพราะป้ายดังกล่าวได้เปิดเผย 5 รายชื่อตุลาการที่เข้าพักบ้านอาคารชุด 9 หลัง

“ในการตรวจค้นในครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้ยึดโทรศัพท์เคลื่อนที่ และโน๊ตบุ๊คไปตรวจสอบ ซึ่งถือเป็นการคุกคามประชาชน โดยส่วนตัวเห็นว่าขัดแย้งต่อคุณธรรม จริยธรรม ของผู้พิพากษากลุ่มนี้ ที่แจ้งความเอาผิดกับประชาชน หากเรื่องเดินหน้าไปถึงการตัดสินใจชั้นศาล และผู้พิพากษาเป็นผู้ตัดสินเอง จะมีความยุติธรรมหรือไม่ ที่ผ่านมาเครือข่ายได้ปฏิเสธไปแล้วว่าไม่ได้เกี่ยวข้องหรือทราบเรื่องป้ายลึกลับโผล่ขึ้นกลางเมืองเชียงใหม่ ซ้ำเรื่องนี้เป็นความไม่พอใจของคนเชียงใหม่ทั้งจังหวัด ไม่ใช่เฉพาะคนในเครือข่ายเท่านั้น เครือข่ายจึงยืนยันไม่ทราบใครเป็นผู้ดำเนินการเรื่องนี้”ผู้ประสานงานเครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ กล่าวต่อไปด้วยว่า  การกระทำครั้งนี้ เหมือนกับอาศัยอำนาจตุลาการ เจ้าหน้าที่ตำรวจหรือใครๆ ก็เกรงกลัว แต่การส่งเจ้าหน้าที่เข้ามาคุกคามประชาชนที่บ้าน เป็นเรื่องถูกต้องแล้วหรือไม่ การรุกป่าเป็นเรื่องจริง ผู้พิพากษา 30 ครอบครัว ยังอาศัยอยู่ในอาคารชุด 9 หลัง ก็เป็นเรื่องจริง เราสู้เพื่อขอคืนผืนป่ากลับมาเท่านั้น ไม่ได้ขออะไรมากไปกว่านี้ หากสิ่งที่ท่านทำกำลังสร้างความขัดแย้งให้เกิดขึ้นในเชียงใหม่

“ไม่รู้สึกเสียกำลังใจจากเหตุการณ์ครั้งนี้ และยังยืนหยัดที่จะต่อสู้ต่อไป เพื่อความเป็นธรรม และถูกต้อง เพราะนายกรัฐมนตรีก็ออกมาระบุก่อนหน้านี้ว่าต้องไม่มีผู้พักอาศัย แต่ตอนนี้กลับยังมีคนอยู่ในอาคารชุดดังกล่าว และไม่มีการรื้อบ้านพัก ซึ่งถือว่าไม่ได้ทำตามข้อตกลงที่มีร่วมกัน ทั้งยังเป็นสิ่งที่ชาวเชียงใหม่คัดค้านมาอย่างต่อเนื่อง และจะดำเนินการคัดค้านต่อไป จนกว่าจะได้ผืนป่ากลับคืนมา โดยขณะนี้ยังไม่มีการแจ้งข้อหาทางเครือข่าย แต่หากมีการแจ้งข้อหา ก็พร้อมที่จะต่อสู้ทางกฎหมาย” นายธีระศักดิ์ กล่าวนอกจากนี้ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ร้านผลิตป้ายไวนิล ป้ายโฆษณา ของแนวร่วมเครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ ก็ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจเชิญตัวไปสอบสวน และยึดคอมพิวเตอร์ โทรศัพท์เคลื่อนที่ไปตรวจสอบเช่นกัน แต่ไม่พบการกระทำความผิดในการติดตั้งป้าย จึงแจ้งข้อหาหมิ่นประมาทและโพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กอันเป็นเท็จกับแนวร่วมของเครือข่ายฯ และพยายามนำประเด็นดังกล่าวมาเชื่อมโยงกับแกนนำ อันถือเป็นการคุกคาม และผิดจริยธรรม

ดังนั้น หลังจากนี้เครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ จะเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่องและเพิ่มความเข้มข้นมากขึ้น เพราะเป็นการทำในสิ่งที่ถูกต้อง ทำตามพระราชดำรัสของในหลวงที่ให้รักษาป่าไม้ รักษาสิ่งแวดล้อมให้กับลูกหลาน ให้กับชาวเชียงใหม่ เครือข่ายจึงยืนยันที่จะต่อสู่ต่อไปจนกว่าจะได้ผืนป่ากลับคืนมา พร้อมทั้งรอการประชุมของคณะกรรมการแก้ไขปัญหาบ้านพักข้าราชการตุลาการ ในต้นเดือนธันวาคม 2561 นี้ หากไม่มีความคืบหน้าจะยกระดับการเคลื่อนไหวให้เข้มข้นยิ่งขึ้นด้านนางคำศรีดา แป้นไทย ตัวแทนชมรมเฮาฮักเจียงใหม่ หนึ่งในแนวร่วมเครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ กล่าวว่า แนวร่วมเครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ ยังคงร่วมกันทวงคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพกลับคืนมา ซึ่งไม่ใช่การเอาชนะ แต่อยากให้เป็นแบบอย่างทางสังคมที่ต้องช่วยกันดูแลทรัพย์สมบัติของชาติ และอยากจะฝากถึงหน่วยงานราชการ อย่าใช้อภิสิทธิ์ขึ้นไปปลูกบ้าน หรือสำนักงานบนดอยอีก สิ่งที่ทางเครือข่ายดำเนินการอยู่ขณะนี้ เพราะอยากจะสร้างบรรทัดฐานให้กับสังคม ในการที่จะช่วยกันดูแลทรัพยากร

“จากเหตุการณ์ค้นบ้านแกนนำเครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพนั้น ทางเครือข่ายไม่กังวล หากจะมีการขยายผลค้นบ้านแกนนำคนอื่นเพิ่มเติม เนื่องจากไม่ได้ทำอะไรผิด ไม่ได้มีประวัติที่ไม่ดีให้ต้องกังวล” นางศรีคำดา กล่าวในตอนท้าย.

You may also like

ภาคประชาสังคมชู 7 วาระเชียงใหม่ ขับเคลื่อนการพัฒนาเมืองทุกมิติ

จำนวนผู้