เร่งรวบรวมรายชื่อประชาชน 8 จังหวัดยื่นเสนอร่างกม.ภาคประชาชนว่าด้วยอากาศสะอาด

เร่งรวบรวมรายชื่อประชาชน 8 จังหวัดยื่นเสนอร่างกม.ภาคประชาชนว่าด้วยอากาศสะอาด

สมาชิกวุฒิสภาร่วมกับกกร./หอการค้าภาคเหนือและนักวิชาการถกร่างกฎหมายว่าด้วยอากาศสะอาดรอบ 2 ก่อนที่จะเปิดเวทีและรวบรวมลายชื่อประชาชนใน 8 จังหวัดเพื่อส่งร่างกฎหมายให้หอการค้าไทยทำสมุดปกขาวเสนอนายกรัฐมนตรีและประธานรัฐสภาภายในเดือนธ.ค.นี้ รองปธ.คณะกรรมการวุฒิสภาวอนทุกภาคส่วนร่วมกันเพื่อส่งต่ออากาศที่ดีให้กับลูกหลานในอนาคต

วันที่ 10 พฤศจิกายน 2562 ที่โรงแรมฮาโมไนซ์  เชียงใหม่ พลเอกสกนธ์ สัจจานิตย์ รองประธานคณะกรรมการสมาชิกวุฒิสภา เป็นประธานที่ประชุม,นายยงยุทธ สาระสมบัติ สมาชิกวุฒิสภา,นายปรีชา บัวริรัตน์เลิศ สมาชิกวุฒิสภา ,อาจาร์ยไพสิฐ พาณิชย์กุล คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่,นางวิภาวัลย์ วรพุฒิพงค์ ประธานหอการค้าภาคเหนือตอนบน,นายวิทยา ครองทรัพย์ คณะทำงานร่างกม.สะอาด คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน(กกร.)จังหวัดเชียงใหม่,นายดำรง องอาจ นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวเชียงใหม่ ตัวแทนหน่วยงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดเชียงใหม่,สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่และตัวแทนนักวิชาการจากสถาบันการศึกษา ตัวแทนภาคเอกชนและประชาชนเข้าร่วมประชุมเพื่อพิจารณาการนำเสนอร่างกฎหมายอากาศสะอาด (ร่างที่ 2)

นายยงยุทธ สาระสมบัติ สมาชิกวุฒิสภา กล่าวถึงขึ้นตอนการนำเสนอร่างกฎหมายว่า ตามกฎหมายรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันประชาชนมีสิทธิเสนอร่างกฎหมายได้โดยเข้าชื่อพร้อมแนบสำเนาบัตรประชาชน 1 หมื่นรายชื่อ ซึ่งถือเป็นร่างกฎหมายฉบับประชาชน ทั้งนี้ตามที่ได้มีการประชุมหารือรอบแรกไปแล้วและทางอ.ไพสิฐ พานิชย์กุล อาจารย์คณะนิติศาสตร์ มช.ได้ช่วยร่างกฎหมายครั้งแรกและทางหอการค้าจ.เชียงราย พะเยา แพร่และน่านได้มีการรวบรวมรายชื่อ ในครั้งนี้เป็นการเสนอร่างครั้งที่ 2 และต่อไปก็จะเป็นขั้นตอนในการดำเนินการตามหลักของการเสนอกฎหมาย

ขณะเดียวกันก็จะมีการกำหนดรับฟังความเห็นร่างกฎหมายครั้งที่ 3 ที่ม.พะเยา จากนั้นก็จะมีการรวบรวมรายชื่อประชาชนแต่ละจังหวัดเพื่อจัดส่งร่างกฎหมายให้ม.หอการค้าและจัดทำรายชื่อผู้ริเริ่มเสนอกฎหมายและจัดทำรายชื่อผู้แทนของผู้เสนอ จัดทำเอกสารเพื่อเสนอต่อนายกรัฐมนตรีและประธานรัฐสภาต่อไป

ด้านพลเอกสกนธ์ สัจจานิตย์ รองประธานคณะกรรมการสมาชิกวุฒิสภา  เปิดเผยว่า คณะรัฐบาลได้มีมติให้สมาชิกวุฒิสภาลงพื้นที่ในการรับฟังความคิดเห็นของพี่น้องประชาชนทั้งประเทศ ซึ่ง โดยตนและคณะได้รับมอบหมายให้มารับฟังความคิดเห็นของ ประชาชนภาคเหนือตอนบน 8 จังหวัด ซึ่งจากการลงพื้นที่ตลอด 3 เดือน  พบว่าปัญหาหลักของภาคเหนือตอนบนคือเรื่องของหมอกควัน และมลพิษทางอากาศโดยเฉพาะฝุ่นขนาดเล็ก ที่เรียกว่า PM 2.5  ซึ่งเป็นปัญหาในภาคเหนือทั้ง 8 จังหวัด ที่เป็นผู้รับเคราะห์ และถูกกล่าวหาว่า เป็นผู้สร้างปัญหาขึ้นมา

รองประธานคณะกรรมการวุฒิสภา กล่าวอีกว่า จากการที่ได้รับฟังทั้งจากภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชน ปัญหาที่รับทราบคือ ผู้ขับเคลื่อนในการขจัดปัญหาดังกล่าว มีเพียงภาครัฐเท่านั้น ในข้อเท็จจริงปัญหาต่างๆ มาจากประชาชนและเอกชนร่วมด้วยกัน เมื่อได้รับฟังปัญหาแล้วต้องมาร่วมกันคิดและแก้ไขปัญหาดังกล่าว

“จากการได้ร่วมพูดคุยกับทางหอการค้า ฯ จังหวัดต่างๆ ในภาคเหนือตอนบน มีความเห็นตรงกันว่า ภาคเอกชน ต้องเป็นผู้ริเริ่มในการแก้ไขปัญหาร่วมกับภาครัฐ  เพื่อให้มีอากาศที่สะอาด จากการที่มองเห็นว่าหลายประเทศมีการใช้เรื่องของกฎหมายอากาศสะอาดแล้ว  แต่ประเทศไทยมีกฏหมายฉบับเดียว คือ กฎหมายสิ่งแวดล้อม ซึ่งไม่ครอบคลุมในกฎหมายอากาศสะอาด”พลเอกสกนธ์ กล่าวและชี้แจงอีกว่า

ทางหอการค้า มหาวิทยาลัย และสมาชิกวุฒสภา ได้ร่วมกันคิดว่าต้องมีกฎหมายอากาศสะอาดขึ้นมาเพื่อชาวภาคเหนือ ซึ่งคณะกรรมการจัดทำในการขับเคลื่อนปัญหาเหล่านี้ มีภาครัฐและเอกชนร่วมกัน ดั้งนั้น โดยทางหอการค้าไทยก็มติในเรื่องนี้ รัฐบาลก็ขานรับส่วนหนึ่ง   และได้มีการพูดคุยกับมหาวิทยาลัยต่างๆ ในภาคเหนือ   จึงได้ร่วมกันร่างกฎหมายดังกล่าวขึ้นมา  โดยจะมีการนัดพบปะพูดคุยกันในครั้งที่ 2  เพื่อหารือว่าอากาศสะอาดนั้นควรมีลักษณะเป็นอย่างไร และในวันที่ 23 พฤศจิกายน 2562 ผู้ร่างและผู้เกี่ยวข้องจะมีการจัดกิจกรรมร่วมรับฟังความคิดเห็นครั้งที่ 3 ที่มหาวิทยาลัยพะเยา พร้อมทั้งมีการขอความร่วมมือลงลายชื่อจากประชาชนอย่างน้อย 10,000  รายชื่อ   เมื่อเรียบร้อยแล้วจะจัดทำเป็นหนังสือส่งให้ทางหอการค้าไทย (กรุงเทพฯ) เพื่อรวบรวมเป็นหนังสือปกขาว นำเสนอให้กับคณะรัฐมนตรี ต่อไป

พลเอกสกนธ์ กล่าวด้วยว่า คาดว่าภายในเดือนพฤศจิกายนนี้ การร่างกฎหมายอากาศสะอาดจะออกมาอย่างสมบูรณ์แบบ   และส่งถึงมือพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและประธานรัฐสภา  เพื่อดำเนินการไปตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป ทั้งนี้หวังว่า คณะทำงาน และผู้ที่อยู่ในภาคเหนือตอนบนจะเป็นผู้ร่างกฎหมายช่วยกัน เพื่อเป็นการส่งต่ออากาศที่ดีถึงลูกหลานในอนาคต.

You may also like

 รมช.คมนาคมเปิดการทดลองเดินรถโดยสารHOP&GO เชื่อมโยงโครงข่ายสาธารณะไปยัง 7 แหล่งท่องเที่ยวในเชียงใหม่

จำนวนผู้