เผาพริกเกลือแช่ง จี้รัฐบาลเร่งย้ายผู้อาศัยบ้านพักศาลออก-หยุดยื้อปัญหา

เผาพริกเกลือแช่ง จี้รัฐบาลเร่งย้ายผู้อาศัยบ้านพักศาลออก-หยุดยื้อปัญหา

เชียงใหม่ / “ขบวนแม่น้ำร้อยสาย” เดินเท้าทวงคืนผืนป่าดอยสุเทพ เครือข่ายฯ ระบุเกือบ 4 เดือน สถานการณ์ยังอึมครึม แม้ ก.บ.ศ.มีมติย้ายที่ทำการศาลอุทธรณ์ภาค 5 และบ้านพักไปที่ จ.เชียงราย แต่หวั่นหน่วยงานใหม่ขอใช้พื้นที่แทน วอนรัฐบาลเร่งประสานงานย้ายผู้เข้าพักอาศัยออก เพื่อฟื้นฟูป่าก่อนปัญหายืดเยื้อ-รุนแรง เมื่อเวลา 08.00 น. ขบวนแม่น้ำร้อยสายจาก 4 ทิศ ได้เดินเท้ามุ่งสู่ข่วงประตูท่าแพ โดยทิศเหนือ เริ่มจากลานประตูช้างเผือก ทิศใต้เริ่มจากลานประตูเชียงใหม่ ทิศตะวันออก เริ่มจากสวนสาธารณะริมแม่น้ำปิง ตรงข้ามคริสตจักรที่ 1 ทิศตะวันตก เริ่มจากหน้าวัดสวนดอก ทุกสายจะถือป้ายผ้า ธง และผืนผ้าสีเขียว รณรงค์ให้ประชาชนชาวเชียงใหม่ ตลอดจนนักท่องเที่ยวร่วมกิจกรรมทวงคืนผืนป่าดอยสุเทพ กระทั่งเวลาประมาณ 09.30 ทุกขบวนจึงเดินทางมาถึงจุดหมาย โดยมีประชาชนเข้าร่วมทั้งหมดกว่า 1,000 คน นายจำเหลาะ สมจิตต์ ปราชญ์ล้านนา ได้กล่าวต้อนรับประชาชนที่มาร่วมกิจกรรม ขณะที่ประชาชนบางกลุ่มช่วยกันตัดผ้าสีเขียว เพื่อแจกผู้ร่วมกิจกรรม และผู้สัญจรผ่านไปมาในบริเวณดังกล่าว กิจกรรมบนเวทีเป็นการแสดงดนตรีเพื่อป่าดอยสุเทพ สลับกับการปราศรัยของตัวแทนเครือข่ายแม่น้ำร้อยสาย และตัวแทนเครือข่ายจากทั่วประเทศ ต่อมา น.ส.นลี อินทรนันท์ หรือครูเบลล่า ได้เป็นตัวแทนของเครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ อ่านแถลงการณ์ ขอให้รัฐบาลเร่งรัดให้เกิดความชัดเจนในการดำเนินการตามข้อตกลง เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม 2561 เพราะถึงขณะนี้ผ่านระยะเวลาเกือบ 4 เดือนยังไม่มีผลชัดเจน มิหนำซ้ำยังส่อว่าข้อตกลงบางข้อก็ไม่สามารถปฏิบัติได้จริง  การที่กรรมการบริหารศาลยุติธรรม (ก.บ.ศ.) มีมติให้ย้ายที่ทำการศาลอุทธรณ์ภาค5 กับบ้านพักไปยังจังหวัดเชียงราย เป็นความความคืบหน้าสำคัญหนึ่ง ซึ่งสมควรจะทำให้สถานการณ์เป็นไปในทางดี แต่ทว่ากลับนำมาซึ่งความอึมครึมยิ่งกว่าเดิม เพราะมีข่าวว่าอาจจะมีหน่วยงานอื่นเข้าไปใช้พื้นที่บ้านพักและอาคารชุดแทน ดังนั้นเพื่อป้องกันไม่ให้มีการเข้าสวมแทน ในการชุมนุมครั้งนี้ทางเครือข่ายจึงทำพิธีสาปแช่งผู้ที่จะเข้าไปอยู่อาศัยในพื้นที่บ้านพัก 45 หลังและอาคารชุดที่กันแนวเขตไว้ และขอให้รัฐบาลเร่งประสานงานกับสำนักงานเลขาธิการศาลยุติธรรม เพื่อย้ายผู้เข้าพักอาศัยในอาคารชุด 9 หลังลงมาอยู่ในอาคารชุดบนพื้นราบนอกเขตที่รัฐบาลประกาศมิให้มีผู้อยู่อาศัยเพื่อจะสามารถดำเนินการฟื้นฟูสภาพสิ่งแวดล้อมต่อไป  ขณะนี้ เหลือแต่เพียงการตัดสินใจของรัฐบาล ที่ต้องเร่งตัดสินใจรื้อย้ายอาคารบ้านพักส่วนที่ล้ำเข้าไปในแนวป่าเชิงดอยสุเทพตามที่กันแนวไว้โดยเร็ว เพราะยิ่งยืดเยื้อ ปมปัญหานี้อาจจะยกระดับขึ้นกลายเป็นความขัดแย้งรุนแรงในอนาคตอันใกล้

ด้านนายธีระศักดิ์ รูปสุวรรณ ผู้ประสานงานเครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ ย้ำว่า การรวมตัวครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งสุดท้าย กลุ่มคนรักป่า และเครือข่ายที่มีอยู่ทั่วประเทศ พร้อมที่จะออกมาต่อสู้ให้ถึงที่สุด จนกว่าจะมีการรื้อถอนบ้านพักตุลาการ และฟื้นฟูป่า รวมถึงสภาพแวดล้อมในบริเวณดังกล่าวอย่างเป็นรูปธรรม ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ในช่วงท้ายของกิจกรรม มีการทำพิธีเผาพริกเผาเกลือ และบ้านป่าแหว่งจำลอง โดยก่อนหน้านี้ภายในงานได้เปิดโอกาสให้ผู้ร่วมกิจกรรมได้เขียนข้อความ คำสาปแช่งต่างๆ ลงในกระดาษ แล้วนำมาเผาในพิธีครั้งนี้ด้วย.

You may also like

builds มช. ขนทัพสตาร์ทอัพนักศึกษาคับคั่ง พิสูจน์ความสำเร็จ ตั้งบริษัทจริงระหว่างเรียน

จำนวนผู้