เชียงใหม่เนื้อหอมตรุษจีนเพิ่มเที่ยวบินเข้าเชียงใหม่รวม 88 เที่ยวคาดผู้โดยสารกว่า 13,000 คน

เชียงใหม่เนื้อหอมตรุษจีนเพิ่มเที่ยวบินเข้าเชียงใหม่รวม 88 เที่ยวคาดผู้โดยสารกว่า 13,000 คน

- in headline, ท่องเที่ยว, เศรษฐกิจ

ช่วงตรุษจีนเชียงใหม่ยังเนื้อหอม สายการบินขอเพิ่มเที่ยวบินเข้าเชียงใหม่ 88 เที่ยวบินใน 8 เส้นทาง โดยมีเส้นทางใหม่จากชิงเต่า หนานซาง เยียนไถ ซีอาน เวินโจว และเหอเฟย์ คาดนักท่องเที่ยวจีนเข้ามากว่า 13,000 คน

นาวาอากาศตรี มณธนิก รักงาม ผู้อำนวยการท่าอากาศยานเชียงใหม่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทชม.ทอท.) กล่าวว่า ในช่วงเทศกาลตรุษจีนซึ่งเป็นช่วงวันหยุดของชาวจีน ระหว่างวันที่ 4 กุมภาพันธ์- 3 มีนาคม 2561  มีสายการบินต่างๆ ขอเพิ่มเที่ยวบินเพื่อมาลงที่ท่าอากาศยานเชียงใหม่จำนวนทั้งสิ้น 88 เที่ยวบิน ใน 8 เส้นทาง

ทั้งนี้มีเส้นทางบินใหม่ที่ไม่ใช่เส้นทางบินประจำ จำนวน 6 เส้นทาง ได้แก่         ชิงเต่า หนานซาง เยียนไถ ซีอาน เวินโจว และเหอเฟย์ ซึ่งสายการบินที่ขอเพิ่มเที่ยวบินพิเศษมากที่สุดคือ สายการบินไชน่าอีสเทอร์น แอร์ไลน์ จำนวน 50 เที่ยวบิน สายการบินแอร์ไชน่า จำนวน 12 เที่ยวบิน สายการบินนิวเจน จำนวน 12 เที่ยวบิน และสายการบินไทยไลอ้อนแอร์ จำนวน 14 เที่ยวบิน ประมาณการผู้โดยสารที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นจำนวน 13,200 คน

นอกจากนี้ยังมีสายการบินประจำ ที่ทำการบินตรงไปยังจีนแผ่นดินใหญ่และเขตปกครองพิเศษของจีนอีก 15 สายการบิน ใน 14 เส้นทาง และตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2561 เป็นต้นมา มีผู้ใช้บริการท่าอากาศยานเชียงใหม่เฉลี่ยวันละเกือบ 35,000 คน หรือประมาณวันละ 223 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้วร้อยละ5 เฉพาะผู้โดยสารชาวจีนเฉลี่ยวันละ 6,000 คน

ผอ.ท่าอากาศยานเชียงใหม่ กล่าวอีกว่า  สำหรับเที่ยวบินพิเศษที่เพิ่มขึ้นทั้งหมด จะทำการบินเข้าออกก่อนเวลา 24.00 น. ตามเวลาเปิดให้บริการของท่าอากาศยานเชียงใหม่ และเพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกแก่ผู้โดยสาร และผู้ใช้บริการในช่วงเวลาดังกล่าว ท่าอากาศยานเชียงใหม่ได้จัดเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานเต็มอัตรา กำลัง โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือผู้โดยสารภายในอาคารผู้โดยสาร นอกจากนี้ยังได้เข้มงวดมาตรการรักษาความปลอดภัย ทั้งการตรวจค้นผู้โดยสารและสัมภาระ การตรวจอาคารผู้โดยสารและบริเวณโดยรอบท่าอากาศยาน ของเจ้าหน้าที่ตระเวนระงับเหตุ การจัดระบบการจราจร และตรวจสอบความสมบูรณ์ของกล้องโทรทัศน์วงจรปิดให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน รวมทั้งเพิ่มรอบการตรวจ FOD หรือวัตถุแปลกปลอมในเขตการบิน ทั้งนี้เพื่อให้ผู้โดยสารผู้ใช้บริการได้รับความสะดวกและเกิดความปลอดภัยสูงสุดในการมาใช้บริการ ซึ่งจะส่งผลดีต่อภาวะเศรษฐกิจโดยรวมของจังหวัดเชียงใหม่และประเทศชาติต่อไป

นาวาอากาศตรี มณธนิก กล่าวด้วยว่า อย่างไรก็ตามเนื่องจากปัจจุบันท่าอากาศยานเชียงใหม่มีผู้ใช้บริการจำนวนมาก ประกอบกับท่าอากาศยานเชียงใหม่ได้ใช้มาตรการรักษาความปลอดภัยที่สูงกว่าระดับปกติ ซึ่งต้องตรวจสิ่งของและสัมภาระทุกชนิดก่อนเข้าไปในอาคารผู้โดยสาร (Terminal Screening) อาจทำให้มีแถวยาวในช่วงเวลาที่ผู้โดยสารเดินทางมาถึงพร้อมกัน หรือมีเที่ยวบินออกในเวลาไล่เลี่ยกันจึงขอให้ผู้โดยสารเผื่อเวลาในการเดินทาง เพื่อผ่านกระบวนการต่างๆ โดยอย่างน้อยควรเดินทางมาถึงสนามบิน ตามเงื่อนไขการเดินทางที่สายการบินกำหนด เพื่อป้องกันการพลาดเที่ยวบิน.

You may also like

builds มช. ขนทัพสตาร์ทอัพนักศึกษาคับคั่ง พิสูจน์ความสำเร็จ ตั้งบริษัทจริงระหว่างเรียน

จำนวนผู้