สถานกงสุลใหญ่สหรัฐฯจัดงานฉลองครบรอบ 243 ปีและเลี้ยงอำลา “เจนนิเฟอร์ ฮาร์ไฮ” อุปทูตสหรัฐฯแสดงความยินดีที่ไทยรับบทบาทผู้นำในภูมิภาคอาเซียน ชี้การเลือกตั้งที่ผ่านมาแสดงถึงพลังสนับสนุนของคนไทยต่อการจัดตั้งรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง ตอกย้ำขอให้ตรวจสอบข้อร้องเรียนเกี่ยวกับการจัดการเลือกตั้งให้ทำด้วยความโปร่งใส แจงสหรัฐฯต้องการภาคีหุ้นส่วนที่เข้มแข็งในประเทศไทย ยันจะร่วมกับรัฐบาลไทยที่มาจากการเลือกตั้งใหม่ เพื่อส่งเสริมค่านิยมความเป็นประชาธิปไตย มั่นคงและเจริญรุ่งเรืองต่อกัน
เมื่อค่ำวันที่ 12 มิ.ย.62 นายปีเตอร์ เอ็ม.เฮย์มอนด์ อุปทูตสหรัฐอเมริกา ประจำประเทศไทย กล่าวเปิดงานฉลองครบรอบ 243 ปี แห่งการประกาศอิสรภาพของสหรัฐอเมริกา ซึ่งสถานกงสุลใหญ่สหรัฐอเมริกา ประจำจังหวัดเชียงใหม่จัดขึ้น โดยมีนางเจนนิเฟอร์ ฮาไฮ กงสุลใหญ่สหรัฐอเมริกา ประจำเชียงใหม่ นายศุภชัย เอี่ยมสุวรรณ ผวจ.เชียงใหม่,นายอรรษฐษิฐ สัมพันธรัฐ ผวจ.ลำพูน พล.ต.ต.มนตรี สัมปุณณานนท์ ผบช.ภ.5และพล.ต.ต.พิเชษฐ จีระนันตสิน ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ เข้าร่วมพร้อมแขกรับเชิญทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศจากหลากหลายสาขา อาชีพ
นายปีเตอร์ เอ็ม.เฮย์มอนด์ อุปทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย กล่าวว่า ค่ำคืนนี้เป็นการฉลองโอกาสสำคัญหลายโอกาส ลำดับแรกคือการฉลองครบรอบ 243 ปีแห่งการประกาศอิสรภาพของสหรัฐอเมริกา นอกจากนี้ยังเฉลิมฉลองมิตรภาพอันแน่นแฟ้นระหว่างสหรัฐฯกับไทยอีกด้วย
“ผมทำหน้าที่ผู้แทนสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทยมาเกือบ 3 ปีรู้สึกภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่ได้ทำหน้าที่รักษาการเอกอัครราชทูตสหรัฐฯเพื่อดูแลการดำเนินงานต่างๆ รัฐบาลสหรัฐฯในประเทศไทย และภารกิจดังกล่าวไม่อาจบรรลุได้หากปราศจากนางเจนนิเฟอร์ ฮาร์ไฮ กงสุลใหญ่ซึ่งเป็นผู้นำความร่วมมือต่างๆ ระหว่างสถานกงสุลสหรัฐฯกับประชาชนทางภาคเหนือของไทย ทั้งผมและเจนิเฟอร์กำลังจะครบวาระ 3 ปีแห่งการปฏิบัติหน้าที่ในประเทศไทย เราจึงขอถือโอกาสนี้ย้อนรำลึกถึงประสบการณ์อันทรงคุณค่าตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมา ซึ่งทำให้เราได้กลายเป็นที่รักของผู้คนในประเทศอันงดงามนี้”อุปทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย กล่าวและว่า
ปีที่แล้วเราได้เฉลิมฉลองของขวัญแห่งมิตรภาพด้วยการย้อนรำลึก ถึงสัมพันธภาพอันยาวนาน 200 ปีระหว่างไทยสหรัฐฯ ซึ่งในเดือนพฤษภาคม หน่วยงานรัฐบาลสหรัฐฯในประเทศไทยได้กราบบังคมทูลพระกรุณาแสดงความยินดีแด่พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลพระราชพิธีบรมราชาภิเษก และเนื่องในโอกาสพระราชพิธีราชาภิเษกสมรสกับสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินี
ในเดือนมี.ค.พลเมืองไทยหลายล้านคนเข้าร่วมใช้สิทธิออกเสียงเลือกตั้ง ซึ่งต่างรอคอยเวลานี้มายาวนานเพื่อแสดงถึงพลังสนับสนุนอันเข้มแข็งของคนไทยต่อการจัดตั้งรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง ผมทราบว่ายังมีข้อร้องเรียนเกี่ยวกับกระบวนการเลือกตั้ง ซึ่งกำลังอยู่ในขั้นตอนการตรวจสอบ ผมหวังว่าข้อเรียนเหล่านี้จะได้รับการพิจารณาด้วยความโปร่งใส และช่วยให้ประชาชนชาวไทยมีความใกล้ชิดกันมากขึ้น เพราะเราต้องการภาคีหุ้นส่วนที่เข้มแข็งในประเทศไทย
สหรัฐฯยินดีที่จะได้ทำงานร่วมกับรัฐบาลไทย ที่มาจากการเลือกตั้งใหม่นี้เพื่อส่งเสริมค่านิยมที่จะช่วยหลอมรวมประเทศของเราทั้งสองให้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ค่านิยมนั้นรวมถึงความเป็นประชาธิปไตย ความมั่นคงและความเจริญรุ่งเรืองของเราทั้งผอง ด้วยความร่วมมือองทั้ง 2 ประเทศเราจึงปลอดภัยยิ่งกว่าเดิม เมื่อเดือนมีนาคมได้มีโอกาสเดินทางไปสามเหลี่ยมทองคำ เพื่อสังเกตการณ์การทำงานร่วมกันระหว่างหน่วยงานปราบปรามยาเสพติดของสหรัฐฯและไทยเพื่อหยุดยั้งการค้ายาเสพติดในประเทศไทยความร่วมมือนี้เป็นเพียงตัวอย่างเดียวของความร่วมแรง ร่วมใจกันของสหรัฐฯและไทยเพื่อบรรลุเป้าหมายที่มีร่วมกัน เช่น ความมั่นคงระดับภูมิภาค การค้าและการลงทุน การสาธารณสุข การสู้กับอาชญากรรมข้ามชาติ ตลอดจนการช่วยเหลือผู้ลี้ภัยและผู้พลัดถิ่น
อุปทูตสหรัฐฯประจำประเทศไทย กล่าวอีกว่า ในปีนี้ เราทราบว่าประเทศไทยจะทำหน้าที่เป็นประธานอาเซียน เราขอแสดงความยินดีกับประเทศไทยสำหรับบทบาทผู้นำภูมิภาคในครั้งนี้ ประเทศไทยอยู่ในกลางภูมิภาคอาเซียน อีกทั้งมีความสำคัญในฐานะศูนย์กลางของภูมิภาคอย่างแท้จริง สหรัฐฯจะยังคงเป็นพันธมิตรที่เข้มแข็ง เชื่อถือได้และมุ่งมั่นจริงจังต่ออาเซียนต่อไป เรามีความตั้งใจที่จะสนับสนุนบทบาทไทยในฐานะผู้นำเพื่อพัฒนาความมั่นคงและความเจริญรุ่งเรืองในภูมิภาคเอเซียตะวันออกเฉียงใต้และอินโดนี-แปซิฟิกให้ยั่งยืนสืบไป
“การเป็นหุ้นส่วนกับมิตรประเทศถือเป็นหัวใจสำคัญของการแสวงหาความร่วมมือกับเอเชียอย่างกว้างขวางยิ่งขึ้น ยุทธศาสตร์อินโด-แปซิฟิก แสดงถึงความตั้งใจของสหรัฐฯในการสนับสนุนเอเชียและประเทศพันธมิตรอย่างไทย เพื่อคงไว้ซึ่งภูมิภาคที่ทุกประเทศมีอำนาจอธิปไตย มีความมั่นคงและประสบผลสำเร็จ”อุปทูตปีเตอร์ เอ็ม.เฮย์มอนด์ กล่าวและกล่าวอวยพรกงสุลใหญ่เจนนิเฟอร์ ฮาร์ไฮ รวมทั้งการจัดงานฉลองครบรอบ 243 ปี ซึ่งสหรัฐฯก็เหมือนประเทศไทยที่มี 4 ภาคและแต่ละภาคมีความแตกต่างทางลักษณะและภาษาถิ่นที่ไม่เหมือนกัน มีอาหาร วัฒนธรรมและอุมยานแห่งชาติที่เป็นเอกลักษณ์ของตนด้วย
ขณะที่นางเจนนิเฟอร์ ฮาร์ไฮ กงสุลใหญ่สหรัฐฯประจำเชียงใหม่ กล่าวว่า ตลอด 3 ปีที่ทำหน้าที่กงสุลใหญ่ได้เรียนรู้เป็นอย่างมากเกี่ยวกับความสำคัญของประวัติศาสตร์ ตำแหน่งกงสุลใหญ่สหรัฐฯในเชียงใหม่ด้รับเกียรติให้มีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมมิตรภาพระหว่างชาวอเมริกันและชาวล้านนา นับตั้งแต่ปีพ.ศ.2493 ช่วงเวลาทำงานที่นี่ถือเป็นช่วงเวลาแห่งประวัติศาสตร์ที่สำคัญ และรู้สึกเศร้าเสียใจกับชาวไทยต่อการสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชฯซึ่งทรางครองราชย์มากว่า 70 ปีซึ่งตรงกับช่วงเวลาของรัฐบาลสหรัฐฯถึง 12 สมัย ขณะเดียวกันก็รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้มาอยู่ที่มีในโอกาสพระราชพิธีบรมราชาภิเษกในหลวงรัชกาลที่ 10
“เมื่อปีที่แล้วสหรัฐฯรู้สึกภาคภูมิใจที่ได้มีส่วนร่วมในการปฏิบัติการที่เหมือนปาฏิหารย์ในการช่วยชีวิต 13 หมูป่าภายใต้การนำของประเทศไทย ในช่วงการเลือกตั้งครั้งประวัติศาสตร์ของทั้งไทยและสหรัฐฯ ดิฉันอยู่ที่เชียงใหม่ ประเทศทั้งสองของเราที่น่าภาคภูมิใจ มีเสรีภาพและอิสรภาพ ต่างก็ต้องการรัฐบาลที่เป็นไปตามความประสงค์ของประชาชน”กงสุลใหญ่สหรัฐฯประจำเชียงใหม่ กล่าวในตอนหนึ่ง.
