เชียงใหม่ / รองหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ปลื้ม คนสนใจสมัครสมาชิกมาก ย้ำส่งผู้สมัครลงครบทุกเขตแน่นอน แต่การเมืองยุคใหม่ต้องเปลี่ยนแปลงจากเดิม ทั้งประธานสาขาพรรค-ส.ส. ต้องทำไพรมารี่โหวต ให้สมาชิกทุกคนเข้าถึง-มีส่วนร่วม
อ.ชำนาญ จันทร์เรือง รองหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ เปิดเผยว่า จะช้า จะเร็ว หรือใช้กลวิธีใดก็แล้วแต่ การเลือกตั้งก็ต้องเกิดขึ้น เพราะถือเป็นวาระแห่งชาติ และทั่วโลกก็รู้ คนก็รอกันอยู่ สังเกตได้จากการเปิดรับสมัครสมาชิกของพรรคอนาคตใหม่ มีคนให้ความสนใจเยอะมาก ที่น่าแปลกใจคือไม่ใช่แค่คนรุ่นใหม่ คนรุ่นใหญ่ก็เยอะ และหลายคนก็มาคุยด้วยว่าไม่เคยสนใจการเมืองมาก่อน เบื่อการเมืองด้วยซ้ำไป ดังนั้นเมื่อคนที่มีแรงเฉื่อยทางการเมือง กลายเป็นคนที่ตื่นตัว ก็คิดว่าบ้านเมืองต้องไปดีกว่านี้
“พรรคอนาคตใหม่ เริ่มจดทะเบียนจัดตั้ง ด้วยสมาชิก 15 คนแรก เมื่อวันที่ 15 มี.ค.61 ประชุมจัดตั้งพรรค 27 พ.ค. ยื่นต่อ กกต.21 มิ.ย. ได้เป็นพรรค 28 ก.ย. ใช้เวลาประมาณ 5-6 เดือน ถือว่าเร็วมาก ดังนั้นถ้าถามถึงความพร้อม ก็ต้องยอมรับว่าจะพร้อมหรือไม่พร้อมก็ต้องพร้อม เพราะเราไม่เคยมีประสบการณ์มาก่อน และไม่มีฐาน ไม่มีหัวคะแนนในพื้นที่เลย เป็นอาสาสมัครล้วนๆ ไม่ว่าจะเป็นรุ่นใหม่ รุ่นใหญ่ รุ่นอาวุโส ที่อายุ 80 ปีขึ้นไป ก็ถือว่าลองผิดลองถูกกันไป แต่เรื่องกำลังใจเราจะพยายามทำให้ดีที่สุด ส่งผู้สมัครทุกเขตเลือกตั้งแน่นอน” รองหัวหน้าพรรค กล่าว
สำหรับการเปิดรับสมาชิกที่ จ.เชียงใหม่ มีคนสนใจเยอะ แต่บางคนก็ยังรอดูอยู่ เนื่องจากเป็นพรรคใหม่ สถานการณ์ สถานที่ ก็ยังไม่ค่อยพร้อม อาศัยเป็นที่ทำการชั่วคราวในระหว่างหาสถานที่ใหม่ อย่างไรก็ตาม ถือว่าวันแรกมีคนมีชื่อเสียงมาเยอะพอสมควร
โดยทั่วประเทศ รับสมัครพร้อมกันวันที่ 8 ต.ค. ส่วนกลางรับสมัครวันที่ 6 ต.ค. หรือสมัครออนไลน์วันที่ 7 ต.ค. ก็พบว่ามีการสมัครทางออนไลน์มาก เพราะสะดวก ไม่ต้องเสียเวลาเดินทาง และยังจ่ายเงินในระบบออนไลน์ อินเตอร์เน็ตแบงค์กิ้งได้ด้วย นอกจากนี้ในการรับสมัครที่ส่วนกลางวันแรก พบว่า 1 ใน 3 ของคนที่มาสมัครสมาชิก สมัครแบบตลอดชีพ ถือได้ว่าการที่คนธรรมดายอมควักเงิน 2,000 บาท สมัครเป็นสมาชิกพรรคไม่ใช่เรื่องธรรมดา และแม้คำสั่ง คสช. 23/2561 จะผ่อนคลาย ไม่จำกัดจำนวนสมาชิกพรรคแล้ว แต่ก็คาดว่าในส่วนของพรรคอนาคตใหม่จะได้ตามเกณฑ์ที่กฎหมายเดิมกำหนดไว้
ด้านตัวผู้สมัครนั้น จะเปิดตัววันที่ 18 ต.ค.นี้ ให้ผู้ประสงค์จะลงสมัครเป็น ส.ส. หรือกรรมการ ประธานสาขาพรรค สมัครเข้ามา แล้วจะมีการทำไพรมารี่โหวต โดยให้คนที่สมัครเป็นสมาชิกเลือกประธานสาขาพรรค ส่วนคนที่จะสมัครเป็น ส.ส.ก็ต้องทำไพรมารี่ส่งเข้าไป แล้วจะมีกรรมการสัมภาษณ์ถึงวิสัยทัศน์ อุดมคติ อุดมการณ์ ไปกันได้กับอนาคตใหม่แค่ไหน อย่างไร ทางสมาชิกพรรคทุกคนจะได้โหวตในเขตของตน ซึ่งก็มีคนติดต่อเข้ามามาก บางคนเป็นอดีต ส.ส.หลายสมัย ก็บอกให้สมัครสมาชิก และทำไพรมารี่ด้วย เขาก็จะงงๆ ว่าประสบการณ์ขนาดนี้แล้ว ยังต้องทำไพรมารี่ด้วยหรือ
“การเมืองยุคใหม่ ต้องเปลี่ยนแปลงจากเดิม จากป้ายสีใส่ไข่ เล่นการเมืองแบบสกปรก โจมตีกัน หรือใช้เงิน เราไม่ทำแน่นอน ถ้าทำก็ไม่ใช่อนาคตใหม่ ไม่ว่าใครจะไปอ้างอะไรก็ตาม เพราะเราไม่มีหัวคะแนน แต่เรามีสมาชิก ต้องผ่านการโหวตแบบไพรมารี่ ซึ่งนั่นเท่ากับสมาชิกทุกคนเข้าถึง ผ่านทางระบบออนไลน์ คนที่ออนไลน์ไม่ได้ก็จะมีเบอร์โทรศัพท์ จะมีคนช่วย” รองหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ กล่าวย้ำ
แต่ทั้งนี้ ภาพรวมการเมืองไทยจะพลิกหน้ามือเป็นหลังมือภายในระยะเวลา 1-2 วัน ย่อมเป็นไปไม่ได้ หากตัวอย่างทางการเมืองก็มีให้เห็นแล้ว อยู่ที่เรา ว่าจะเอาแบบมาเลเซีย หรือกัมพูชา ซึ่งคิดว่าในโลกที่ติดต่อถึงกันได้ในชั่วพริบตา ย่อมเห็นกันหมดว่าที่อื่นเป็นอย่างไร มาได้อย่างไร จริงอยู่ประชาธิปไตยอาจไม่ใช่การปกครองที่ดีที่สุด ลองผิดลองถูกกันมานาน แต่ก็เป็นสิ่งที่บกพร่องน้อยที่สุด ดีกว่าระบบที่ไม่เปิดโอกาสให้คนได้แสดงความคิดเห็น ไม่เปิดโอกาสให้คนมีส่วนร่วม อย่างน้อยที่สุดก็ดุด่าว่ากล่าวได้.
