รัฐมนตรีกระทรวงทรัพย์ฯนั่งหัวโต๊ะประชุมหน.ส่วนราชการในสังกัด เพื่อติดตามการแก้ปัญหาบุกรุกป่า ขยะและน้ำเสีย เผยสั่งดำเนินคดีขรก.เอี่ยวรุกพื้นที่ป่าอุทยานดอยสุเทพฯ
เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 4 ก.ย.60 ที่ห้องประชุม 3 อาคารอำนวยการศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ พลเอกสุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นประธานประชุมหัวหน้าส่วนราชการสังกัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่และลำพูน โดยก่อนการประชุม รมว.ทรัพย์ฯ เปิดเผยว่า การลงพื้นที่ทั้งลำพูนและเชียงใหม่ ในครั้งนี้เพื่อติดตามผลการดำเนินการปราบปรามการบุกรุกป่า ซึ่งได้เน้นย้ำและสั่งการให้เจ้าหน้าที่ดำเนินคดีเด็ดขาดกับนายทุนที่บุกรุกพื้นที่ป่าต้นน้ำ พร้อมจะดำเนินการยึดทรัพย์นายทุน
“วันนี้จะมาฟังเรื่องของการดำเนินการ เกี่ยวกับการบุกรุกพื้นที่ป่าโดยเฉพาะอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย ซึ่งได้ส่งเจ้าหน้าที่จากส่วนกลางมาร่วมดำเนินการ โดยเฉพาะชุดพญาเสือและพยัคฆ์ไพร มีการบุกรุกป่าโดยมิชอบ ซึ่งทำไปทำมาปรากฏว่ามีคนของเราเข้าไปทำผิดด้วย ก็ให้มีการแจ้งความดำเนินคดีคนของเราซึ่งทำผิดมานานตั้งแต่ปี 2547 แนวเขตไม่ตรง และเป็นบทเรียนเมื่อเจ้าหน้าที่ทำผิดก็ต้องรับโทษเช่นกัน”
รมว.ทรัพย์ฯ กล่าวอีกว่า เชียงใหม่เป็นจังหวัดใหญ่ มีปัญหาในด้านต่างๆ มากมาย ทั้งเรื่องของป่าไม้ สังคมเมือง ปัญหาสิ่งแวดล้อม การแก้ไขปัญหาน้ำเสียและขยะ ที่จะมีแนวทางการแก้ไขอย่างไร ที่ให้ปัญหาต่างๆ ได้เกิดบรรลุผลอยางเป็นรูปธรรมของพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ โดยปี 2561 งบประมาณด้านแก้ไขขยะได้ถ่ายโอนให้กระทรวงมหาดไทยเป็นผู้บริหารจัดการได้รวดเร็วขึ้น
“สำหรับแนวทางแก้ไขปัญหา การบุกรุกในพื้นที่ป่าสงวนกับป่าอนุรักษ์นั้น ซึ่งป่าสงวนฯ ก็เป็นอำนาจของอธิบดีกรมอุทยานฯ ซึ่งมีโครงการ จัดสรรที่ดินทำกินให้ชุมชน(คทช.) ส่วนป่าต้นน้ำนั้นมีการพูดคุยกับพี่น้องประชาชนให้อยู่ร่วมกันกับป่าให้มีความสัมพันธ์ จะสร้าง จะทำอะไรก็ต้องมีข้อกำหนดร่วมกัน เกื้อกุลกับธรรมชาติ ไม่อย่างนั้นเราก็ไม่ให้อยู่ เพราะว่าเป็นสมบัติของคนทั้งชาติ ”พล.อ.สุรศักดิ์ กล่าวและชี้แจงอีกว่า
สำหรับป่าต้นน้ำในเขตอุทยานนั้น ให้อำนาจอธิบดีกรมอุทยานฯแต่ป่าอนุรักษ์เรายังไม่มีกฎหมายฯรองรับ แต่ขณะนี้กฎหมายฉบับนี้เรากำลังแก้ และผ่านคณะรัฐมนตรีแล้วรอเข้าสภาฯถ้ากฎหมายฉบับนี้ผ่านแล้วก็จะให้อำนาจอธิบดีกรมอุทยานฯให้คนที่อยู่มาก่อนซึ่งมีประมาณ 2,700 ชุมชน ที่อาศัยอยู่กับป่า ก็จะอยู่อย่างเกื้อกูล
ส่วนโครงการประชารัฐนั้น ภาคเอกชนและภาครัฐต้องทำงานร่วมกัน เพราะให้คนอยู่กับป่า ทั้งป่าอนุรักษ์ ป่าสงวนและป่าในเมือง ล่าสุดทางกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เตรียมทำป่าในเมืองเพื่อให้ประชาชนเข้าไปใช้ประโยชน์ได้โดยตรง ให้เป็นห้องเรียนห้องศึกษาของคนทั้งประเทศ และได้สัมผัสธรรมชาติในเมืองหลวง โดยจะนำร่องในพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี ห่างจากศาลากลางจังหวัด 2 กม.และจังหวัดระยอง ส่วนพื้นที่เชียงใหม่นั้นมีในส่วนของสวนพฤษศาสตร์ฯเนื้อที่ 390 ไร่ ส่วนปัญหาหลักคือการบุกรุกพื้นที่ทำสวนยาง ของนายทุนที่จากการสำรวจพบว่ามีการบุกรุกมากถึง 1.3 ล้านไร่นั้น จากพื้นที่มีบุกรุก 8 กว่าล้านไร่ทั่วประเทศ ทางเจ้าหน้าที่จะเริ่มลดพื้นที่หลังจากนั้นก็จะเข้าดำเนินการเข้าขอคืนพื้นที่หากยังมีการฝ่าฝืนและไม่ยอมโค่นล้มต้นยางคืนพื้นที่ให้ป่า ทางเจ้าหน้าที่ก็จะเข้าดำเนินการอย่างเด็ดขาด.
