สั่งเพิ่มกำลังทหารลงเสริม 3อำเภอของเชียงใหม่ที่จุดความร้อนพุ่ง

สั่งเพิ่มกำลังทหารลงเสริม 3อำเภอของเชียงใหม่ที่จุดความร้อนพุ่ง

รองแม่ทัพภาคที่ 3 ประสานผู้ว่าฯให้เพิ่มกำลังชุดปฏิบัติการฝังตัวในพื้นที่เพิ่ม 3 อำเภอ เชียงดาว พร้าวและแม่แจ่ม หลังพบจำนวนจุดความร้อนเพิ่มขึ้น ขณะที่แม่ฮ่องสอนยังสูงสุดในกลุ่มภาคเหนือ ด้านแม่ทัพน้อยที่ 3 เผยส่งกำลังร่วม 5 พันนายลงพื้นที่ทั้งเฝ้าระวังและลาดตระเวน

สถานการณ์ไฟป่าและหมอกควันภาคเหนือคุณภาพอากาศยังส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน แม้ว่าจำนวนจุดความร้อนหรือ Hot Spot จะลดลงอย่างต่อเนื่องภายหลังจากที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องขึ้นเชียงใหม่มาประชุมร่วมกับแม่ทัพภาคที่ 3 ผู้ว่าราชการจังหวัดทั้ง 9 จังหวัด หน่วยงานที่รับผิดชอบและส่งการให้ดำเนินการแก้ไขปัญหาโดยลดจำนวนจุดความร้อนลงให้ได้ภายใน 7 วัน ซึ่งเมื่อวานนี้(4 เม.ย.)นายกรัฐมนตรีได้ชื่นชมการปฏิบัติงานของทุกฝ่ายที่ทำให้ปริมาณจุดความร้อนลดลงกว่า 2 พันจุด

รายงานการตรวจพบจุดความร้อน Hotspot  จากข้อมูลดาวเทียม Suomi NPP ระบบ VIIRS ของวันที่ 5 เม.ย 62      เวลา 00.40 น.ดาวเทียมไม่สามารถตรวจพบจุดความร้อน แต่ต่อมาในเวลา 02.20 น.ได้ตรวจพบจุดความร้อนใน 9 จังหวัดภาคเหนือรวม 446 จุด   แยกเป็น เชียงราย  จำนวน  39 จุด พะเยา จำนวน   7 จุด น่าน จำนวน   1 จุด แม่ฮ่องสนอน จำนวน 295 จุด         เชียงใหม่ จำนวน  75 จุด แพร่ 2 จุด ลำปาง 13 จุด ตาก 14 จุด มีเพียงจังหวัดลำพูนที่ไม่พบจุดความร้อน

พล.ต.บัญชา ดุริยพันธ์ รองแม่ทัพภาคที่ 3 ซึ่งรับผิดชอบพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ได้สั่งการในกลุ่มไลน์ควบคุมสถานการณ์หมอกควันไฟป่าภาคเหนือ กองทัพภาคที่ 3 ว่า สำหรับ Action Plan เร่งด่วนวันนี้ในการแก้ไขปัญหา จุด Hotspot เพิ่มขึ้นของอำเภอเชียงดาว อำเภอพร้าว อำเภอแม่แจ่มของจังหวัดเชียงใหม่ จึงขอประสานผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ พิจารณาเพิ่มเติมกำลัง เข้าไปในพื้นที่ ที่สามารถเข้าได้โดยการเดินเท้า เพื่อไป protect พื้นที่นั้นๆ ส่วนพื้นที่ที่ไม่สามารถเข้าด้วยการเดินเท้า ขอชี้จุดแน่ชัดเพื่อวางแผนว่าจะใช้เฮลิคอปเตอร์ mi 17 ทิ้งน้ำดับไฟได้หรือไม่ ทั้งนี้ ต้องมีแหล่งน้ำ ขนาดใหญ่ให้ mi 17 ตักน้ำเพื่อนำไปทิ้ง ณ จุดเกิดเหตุให้ได้ด้วย ซึ่งอีกกรณีหนึ่งก็คือใช้เฮลิคอปเตอร์ของกระทรวงทรัพย์ฯซึ่งมีขนาดเล็กเข้าทำงานจะมีความคล่องตัวกว่าในการหาแหล่งน้ำ

ในส่วนของ ผู้กำกับสถานีตำรวจภูธร เชียงดาว สถานีตำรวจภูธรแม่แจ่ม สถานีตำรวจภูธรพร้าว ขอให้ช่วยบังคับใช้กฎหมายอย่างเต็มกำลังในพื้นที่ด้วย นอกจากนี้ยังแจ้งให้ ผู้บังคับกองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 7 ให้จัดชุดเพิ่มเติมกำลัง เข้าไปทำงานช่วยเหลือผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ และนายอำเภอพร้าวและ นายอำเภอ เชียงดาวในการแก้ไขปัญหาจุด Hotspot ของอำเภอพร้าวและอำเภอเชียงดาวให้เร่งวางแผนและส่งแผนให้พิจารณาก่อนเที่ยงวันนี้ สำหรับอำเภอแม่แจ่มก็เช่นกัน ให้กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยจังหวัดเชียงใหม่ ประสานกับ พล.ร.7เพิ่มเติมกำลังเข้าพื้นที่วิกฤตของจุด Hotspot เพื่อ protect พื้นที่..สรุปผล การเพิ่มเติมกำลังและการปฏิบัติ ให้ เสร็จและเป็นแผนได้ก่อนเที่ยงวันนี้แล้วรายงานด้วย

ทางด้านพล.ท.สุภโชค   ธวัชพีระชัย แม่ทัพน้อยที่ 3  เปิดเผยว่า ขณะนี้ใน 9 จังหวัดภาคเหนือได้ประกอบกำลังลงพื้นที่แล้ว 226  ชุดปฏิบัติการใน 56 อำเภอ เสี่ยงต่อการเกิดไฟป่าโดยใช้กำลังทั้งหมด จำนวน 4,156 คน เป็นกำลังทหาร จำนวน 1,119 นาย เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง จำนวน 1,303 นาย เจ้าหน้าที่ป่าไม้ 787 นาย เจ้าหน้าที่ตำรวจ299 นาย และขณะนี้มีจิตอาสาเข้าร่วมปฏิบัติการลงพื้นที่กับชุดปฏิบัติการแล้ว จำนวน 648 นาย ลงพื้นที่บูรณาการเพื่อเฝ้าระวังการเกิดไฟและลาดตระเวนสร้างการรับรู้ให้ประชาชน.

You may also like

SUN และ EXE มอบอาหารช่วยผู้ลี้ภัยชายแดนเมียนมา

จำนวนผู้