แพร่ – ชาวสะเอียบแห่ร่วมกิจกรรมวันหยุดเขื่อนโลก เผาพริก เผาเกลือ สาปแช่ง คนหนุนสร้างอ่างเก็บน้ำเตาปูน ย้ำกระทบป่าสักทอง พร้อมขึ้นป้ายห้ามบุคคล-หน่วยงาน ที่ผลักดันสร้างเขื่อนเข้าพื้นที่
นายสมมิ่ง เหมืองร้อง ประธานคณะกรรมการคัดค้านเขื่อน ต.สะเอียบ อ.สอง จ.แพร่ เปิดเผยว่า เช้าวันนี้ (14 มี.ค.63) ซึ่งเป็นวันหยุดเขื่อนโลก ชาวบ้าน ต.สะเอียบ ได้ออกมารวมตัวกันบริเวณศาลเจ้าพ่อหอแดง สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำตำบล หน้าโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลสะเอียบ เพื่อทำกิจกรรมวันหยุดเขื่อนโลก โดยมีการอ่านแถลงการณ์วันหยุดเขื่อนโลก ใจความว่า
ผู้ได้รับความเดือดร้อนจากการสร้างเขื่อนทั่วโลก หลายสิบล้านคน ได้ร่วมกันบอกกล่าวความทุกข์ยากที่เกิดขึ้นจากการสร้างเขื่อนว่า “หมดยุคสมัยของการสร้างเขื่อนแล้ว จงใช้ปัญญาและความรู้ที่เคารพต่อธรรมชาติ สู่ยุคการพัฒนาที่ยั่งยืน” เพราะเขื่อนได้กลายมาเป็นสัญลักษณ์ ของความล้าสมัย ทำลายทรัพยากรธรรมชาติ ป่าไม้ วิถีวัฒนธรรมและชุมชน
ประเทศที่พัฒนาแล้วทั่วโลก ได้ตระหนักและเรียนรู้ผลกระทบของการสร้างเขื่อน จนนำไปสู่การรื้อเขื่อนหลายต่อหลายเขื่อนแล้ว แต่ประเทศไทยและภูมิภาคนี้ยังไม่ตระหนัก ส่วนประชาชนคนต้นน้ำไม่ยินยอมให้มีการสร้างเขื่อนอีกต่อไปได้ เพราะพื้นที่เหล่านั้นเป็นที่อยู่อาศัยที่จะกระทบต่อชุมชนและป่าต้นน้ำ
ควรหาการจัดการน้ำและมีทางเลือก ให้มีการดูแลป่าต้นน้ำและคืนธรรมชาติให้ลำน้ำ ได้เป็นทางไหลของน้ำอย่างอิสระ หาแหล่งเก็บน้ำใต้ดิน เพื่อนำไปสู่การจัดการอย่างยั่งยืนต่อไป
ชุมชนชาวตำบลสะเอียบ ขอยืนหยัดในการต่อสู้เรื่องการสร้างเขื่อน การผันน้ำที่ฝืนธรรมชาติทุกรูปแบบ และขอประณามทุกผู้ทุกคนที่ยังสนับสนุนให้มีการสร้างเขื่อน ไม่ว่าจะเรียกนามว่า อ่างเก็บน้ำ ฝาย ประตุระบายน้ำ อะไรก็ตามที่สุดท้ายมันคือเขื่อน
สุดท้ายนี้ ขอประณาม หน่วยงานราชการ นักการเมือง และทุกคนที่ยังสนับสนุนการสร้างเขื่อน ให้มีอันเป็นไปทุกคน และขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองพี่น้องชาวสะเอียบ และพี่น้องเราทุกพื้นที่ ลุกขึ้นปกป้องทรัพยากรของตัวเอง ให้คงอยู่ต่อไปชั่วลูกชั่วหลานต่อไปด้วยเทอญ
ขณะเดียวกัน ยังได้อ่านคำประกาศชาวสะเอียบ เนื้อหา ได้กล่าวถึงการที่นายพรมงคล ชิดชอบ ผู้แทนกรมชลประทานได้เสนอแผนการจัดการน้ำลุ่มน้ำเจ้าพระยา ต่อคณะอนุกรรมาธิการบริหารจัดการน้ำการน้ำลุ่มน้ำเจ้าพระยา ซึ่งมีนายวีระกร คำประกอบ สส.จังหวัดนครสวรรค์ เป็นประธาน ให้สร้างเขื่อนเตาปูน (เขื่อนยมล่าง) โดยกำชับว่าอย่าเรียกว่าเขื่อน ให้เรียกว่าอ่างเก็บน้ำเตาปูน
ข้อเท็จจริงคือ อ่างเก็บน้ำเตาปูน ก็คือเขื่อนยมล่างที่ลดระดับการกักเก็บน้ำลงมาให้เหลือ 400 ล้านลูกบาศก์เมตร และย้ายสันเขื่อนมาอยู่ในเขตตำบลเตาปูน ห่างจากเขต ต.สะเอียบลงมา 5 กิโลเมตร และห่างจากจุดที่จะสร้างเขื่อนแก่งเสือเต้นลงมา 10 กิโลเมตร ซึ่งน้ำจะท่วมเข้ามาในเขตอุทยานแห่งชาติแม่ยมแอ่งป่าสักทองเหมือนเดิม เพราะอ่างเก็บน้ำเตาปูน หรือเขื่อนเตาปูน ใหญ่กว่าเขื่อนลำตะคอง ที่มีความจุน้ำถึง 360 ล้าน ลบ.ม. ถือเป็นการวางแผนกันในห้องแอร์แล้วมาทำลายป่า ทำร้ายชุมชน
ชาวสะเอียบ ขอยืนยันว่า จะร่วมกันคัดค้านเขื่อนเตาปูน อ่างเก็บน้ำเตาปูน หรือเขื่อนยมล่าง ที่จะทำลายป่าสักทองจนถึงที่สุด และขอเรียกร้องให้ยุติแผนการสร้างเขื่อนแผนการทำลายป่า ไม่ต้องมาศึกษา ไม่ต้องมาทำ EIA ที่ผ่านมาก็มีการหากินกับงบประมาณแผ่นดินโดยการศึกษา หรือทำ EIA มาหลายร้อยล้านบาทแล้ว และไม่ว่าจะเรียกชื่อเขื่อนยมล่าง เขื่อนเตาปูน อ่างเก็บน้ำ ประตูระบายน้ำ (ปตร.) เขื่อนยมบน เขื่อนแก่งเสือเต้น เขื่อนห้วยสัก ฯลฯ ย้ายหัวงานวนไปวนมาอยู่แถวนี้ แล้วเกิดผลกระทบต่อป่าสักทอง อุทยานแห่งชาติแม่ยม และชุมชนสะเอียบ เรายืนยันที่จะคัดค้านโครงการเหล่านี้จนถึงที่สุด
ในช่วงท้าย กลุ่มชาวบ้านได้ทำพิธีเผาหุ่น เผาพริก เผาเกลือ สาปแช่งผู้เกี่ยวข้องทั้ง 2 ราย ก่อนจับดวงวิญญาณใส่หม้อถ่วงน้ำ พร้อมขึ้นป้ายขนาดใหญ่ บริเวณทางเข้าหมู่บ้าน ห้ามบุคคลและหน่วยงาน ที่สนับสนุนและผลักดัน เขื่อนแก่งเสือเต้น เขื่อนยมบน เขื่อนยมล่าง หรือ เขื่อนเตาปูน อ่างเตาปูน ประตูระบายน้ำเตาปูน อาคารกักเก็บน้ำ หรือโครงสร้างเตาปูน เข้าพื้นที่โดยเด็ดขาด เราจะไม่ให้ความร่วมมือใดๆ ทั้งสิ้น.
