รองผวจ.เชียงใหม่เผยได้เพิ่มกำลังลงพื้นที่เชียงดาว พร้าวและแม่แจ่มหลังพบจุดความร้อนเพิ่ม พร้อมเร่งทุกอำเภอจัดพื้นที่ปลอดภัยให้กลุ่มเสี่ยง แต่ยังขาดอุปกรณ์ตั้งเป้า 1 พันจุด ขณะที่สหรัฐฯมาเยี่ยมชมพื้นที่ปลอดภัยฝุ่น
เมื่อเวลา 09.30 น.วันที่ 5 เม.ย. 62 ที่ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษาจังหวัดเชียงใหม่ นายคมสัน สุวรรณอัมพา รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ แถลงคืบหน้าการแก้ไขปัญหาหมอกควันและไฟป่าในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ โดยกล่าวว่า วันนี้พบจุดความร้อนในพื้นที่จำนวน 75 จุด อำเภอที่พบมากที่สุดคือ อำเภอเชียงดาว รองลงมาคืออำเภอพร้าว และแม่แจ่ม ขณะนี้มีเจ้าหน้าที่เข้าไปดำเนินการแล้ว ซึ่งอำเภอเชียงดาวนั้น มีทั้งหมด 7 ตำบล แต่มีพื้นที่เสี่ยงอยู่ 4 ตำบลที่เกิดเพลิงไหม้ป่าและการลักลอบเผาป่า คือ ต.ทุ่งข้าวพวง, ต.เมืองนะ , ต.แม่นะ และ ต.เมืองงาย ส่วนมาตรการทางกฎหมายก็จับกุมผู้กระทำความผิดได้อีก 2 ราย เมื่อวันที่ 4 เม.ย. เป็นชาย 1 ราย และหญิง 1 ราย ในพื้นที่ อ.แม่อาย เป็นการตัดต้นไม้ และจุดไฟเผาป่า ซึ่งทั้งสองคนไม่มีสัญชาติไทย ได้นำตัวดำเนินคดีแล้วทั้งสองราย ขณะที่มีเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแม่ตะไคร้ ได้เข้าไปดำเนินการดับไฟที่อ่างเก็บน้ำแม่ผาแดง อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ และได้รับบาดเจ็บ ก็ได้ให้นายอำเภอและเจ้าหน้าที่เข้าไปดูแลช่วยเหลือแล้ว
“ตอนแรกดูสถานการณ์เหมือนว่าจะลดลง แต่กลับมีจุดความร้อนเพิ่มมากขึ้นมาอีก ตอนนี้ต้องสอบถามข้อมูลจากกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ทั้ง 84 ตำบลของจังหวัดเชียงใหม่ ที่เป็นตำบลเสี่ยงการลักลอบเผาป่า เพื่อให้ทราบสาเหตุที่แท้จริงว่า การเผานั้นเกิดจากอะไร ไม่ว่าจะเป็นการเผาป่าล่าสัตว์, การเผาเพื่อการเกษตร หรือเผาเพื่ออะไร เพราะพื้นที่ถูกลักลอบเผาเป็นพื้นที่ป่าที่ไม่ใช่พื้นที่ทำการเกษตร จะเป็นการบุกรุกพื้นที่ป่าเพื่อทำการเกษตรหรือไม่ เมื่อทราบปัญหาแล้วก็จะต้องนำมาหาแนวทางแก้ไข และนำกลุ่มเหล่านี้มาทำการอบรม สร้างเสริมอาชีพ ส่งเสริมอาชีพให้ปลูกพืชเชิงเดี่ยวที่ไม่ต้องเผา ซึ่งทางจังหวัดไม่ได้มองแค่เรื่อง 61 วันห้ามเผาที่จะสิ้นสุดวันที่ 30 เม.ย.นี้ แต่มองในระยะยาวว่าพอหมดช่วงห้ามเผาแล้วจะเป็นอย่างไร ต้องคิดไว้เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาการลักลอบเผาป่าขึ้นในห้วงดังกล่าว และทำให้สถานการณ์การลักลอบเผาลดลงหรือไม่ให้เกิดขึ้นเลย แต่ตรงนั้นต้องตอบโจทย์ของชาวบ้านในพื้นที่ต่างๆ ให้ได้ว่า ถ้าไม่ให้เขาเผา จะให้เขาทำอะไร บางพื้นที่การนำเครื่องมือเครื่องจักรเข้าไป ไม่สามารถทำได้ด้วยข้อจำกัดของพื้นที่ในการเดินทาง”รองผวจ.เชียงใหม่ กล่าวและชี้แจงอีกว่า
ในขณะนี้สำหรับพื้นที่ทางการเกษตรนั้น ก่อนหน้านี้มีปัญหาด้านฟางข้าวที่เหลือจากการเก็บเกี่ยว ตอนนี้ไม่มีปัญหาแล้ว แต่ที่มีปัญหาคือเรื่องของข้าวโพด ซึ่งซังข้าวโพดได้นำมาทำผลิตภัณฑ์ชีวมวลแล้ว คงเหลือลำต้นข้าวโพดที่ต้องหาแนวทางว่าจะดำเนินการอย่างไร และนำเอามาทำอะไรได้บ้าง สำหรับพื้นที่ที่ยังพบการเผารุนแรงนอกเหนือจากที่อำเภอเชียงดาวแล้ว ขณะนี้ก็มีพื้นที่อำเภอแม่แจ่ม, อำเภอพร้าว ที่ต้องเข้าไปดำเนินการ
สำหรับดัชนีคุณภาพอากาศที่เกินค่ามาตรฐานทั้งหมด 3 พื้นที่คือ ต.ช้างเผือก, ต.ศรีภูมิ อำเภอเมืองเชียงใหม่ และ ต.ช่างเคิ่ง อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่และมีผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน ขณะนี้ทางจังหวัดได้แจกจ่ายหน้ากากอนามัยไปแล้ว 1.8 แสนชิ้น และได้มอบให้กับทางอำเภอทั้ง 25 อำเภอดำเนินการแจก ส่วน อปท. ก็ได้มอบหมายให้ดำเนินการจัดซื้อและนำแจกจ่ายให้กับประชาชนแล้ว ซึ่งจะเป็นหน้ากากที่ป้องกัน PM2.5 ได้มากขึ้น ขณะที่ทางคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้เข้ามาช่วยเหลือในการประดิษฐ์เครื่องฟอกอากาศราคาถูก ทางจังหวัดก็ได้ขอรับบริจาคโดยตั้งเป้าไว้จำนวน 1,000 ชุดแรกก่อน เพื่อจะนำไปมอบให้กับโรงเรียนที่มีเด็กเล็ก โรงเรียนที่ดูแลเด็กพิเศษ และโรงพยาบาลสุขภาพตำบล ขณะนี้ก็มีการติดต่อมาจากภาคเอกชนเข้ามา เพื่อขอบริจาคอุปกรณ์เครื่องฟอกอากาศจำนวน 700 ชุด คงเหลืออีก 300 ชุด ตอนนี้ก็มีการสั่งซื้ออุปกรณ์ต่างๆ อยู่ และค่อนข้างจะหายาก เนื่องจากขาดตลาด แต่เมื่อได้มาแล้ว ก็จะนำแจกจ่ายทันที
ทางด้านนายวรพจน์ คุณาวิวัฒนางกูร หัวหน้าเวรพยากรณ์อากาศ ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคเหนือ กล่าวว่า ขณะนี้มีคลื่นกระแสลมฝ่ายตะวันตกจากประเทศ เมียนมาร์ได้เคลื่อนเข้าปกคลุมภาคเหนือ และภาคตะวันออก เฉียงเหนือ ตอนบน ทำให้บริเวณบริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนองกับมีลมกระโชกแรงเกิดขึ้นในบางแห่ง โดยมีฝนหรือฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ในช่วงระหว่างบ่ายและค่ำ
ในห้วงวันที่ 5 – 7 เม.ย. นี้จะมีกระแสลมตะวันตกเข้ามา ทำให้เกิดพายุฝนหรือฝนฟ้าคะนองในพื้นที่ ขอให้ประชาชนระมัดระวังอันตราย โดยการหลีกเลี่ยง อยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้น ไม้ใหญ่ สิ่งปลูกสร้าง และป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง รวมไปถึงอันตรายจาก ฟ้าผ่า เกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ ด้วย
ต่อมาทางด้าน นาย Timothy Scherer ผู้ประสานงานสถานกงสุลสหรัฐอเมริกา ได้เดินทางมาที่ห้องเซฟตี้โซน ภายในประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษา อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ โดยมีนายคมสัน สุวรรณอัมพา รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ให้การต้อนรับและนำเยี่ยมชม ซึ่งการมาเยี่ยมชมครั้งนี้ไม่ได้ให้สัมภาษณ์สื่อแต่อย่างใด เพียงแต่ให้ข้อมูลสั้นๆ ว่า การเดินทางมาเพื่อจะได้ทราบข้อมูลปัญหาเรื่องหมอกควันและไฟป่าในพื้นที่เชียงใหม่ จะดำเนินการแก้ไขอย่างไร มีการดูแลประชาชนอย่างไรบ้าง ก็พบว่าจังหวัดเชียงใหม่มีการเตรียมห้องสำหรับดูแลประชาชนและนักท่องเที่ยวไว้เป็นอย่างดี.
