“เพื่อธรรม” จัดประชุมใหญ่สามัญประจำปีที่เชียงใหม่ “สมพงษ์ อมรวิวัฒน์”นั่งหัวหน้าพรรค ดร.นลินีรองหน.,ขณะที่รักษาการหน.นั่งที่ปรึกษา ยันไม่ใช่นอมินีเพื่อไทยแต่พร้อมเปิดประตูรับคนที่มีอุดมการณ์เดียวกัน ลั่นเชียงใหม่ต้องได้ที่นั่งส.ส. ประเดิมเปิดสาขาพรรคที่เชียงใหม่เป็นแห่งแรก ขณะที่เด็ก “เจ๊แดง”ทั้งประสานและดำเนินการประชุม
เมื่อวันที่ 30 กันยายน 2561 ห้องประชุมรอยัลออคิด บอลรูม โรงแรมเชียงใหม่ออคิด อ.เมือง จ.เชียงใหม่พรรคเพื่อธรรมได้จัดประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2561 โดยเปิดให้สมาชิก ซึ่งมีทั้งจากภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคกลางบางส่วน มาลงทะเบียนในช่วงสายและจัดเตรียมที่นั่งไว้จำนวน 400 ที่นั่ง จากนั้นทางพรรคได้เชิญผู้มาประชุมรับประทานอาหารกลางวัน ซึ่งจัดเตรียมไว้ที่ชั้น 1 ของโรงแรมดังกล่าว
จากนั้นการประชุมใหญ่สามัญประจำปี ได้เริ่มในเวลา 13.00 น. โดยมีพล.ต.ต.จรัญ ธิตะปัญญา รักษาการหัวหน้าพรรคเพื่อธรรม, นายไพบูลย์ โตวิริยะเวช รักษาการกรรมการบริหารพรรค, พ.ต.อ.มานัส ศัตรูลี้ รักษาการเลขาธิการพรรค และนายธวัชชัย ไทยเจียมอารีย์ รักษาการเหรัญญิกพรรค โดยมีวาระการประชุมเพื่อ รับรองรายงานการประชุมใหญ่สามัญประจำปี พรรคเพื่อธรรม พ.ศ. 2557 วันพฤหัสบดี ที่ 27 มีนาคม 2557 และพิจารณาเรื่องแก้ไขข้อบังคับพรรค และจัดทำคำประกาศอุดมการณ์ทางการเมืองและนโยบายของพรรคเพื่อธรรม พร้อมเลือกตั้งคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ โดยมีมี พ.ต.ท.ปกรณ์กฤษณ์ ใหญ่โต พนักงานการเลือกตั้ง (ชำนาญการ) ปฏิบัติหน้าที่หัวหน้างานพรรคการเมือง สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จังหวัดเชียงใหม่เข้าร่วมสังเกตการณ์ประชุมดังกล่าวด้วย
พ.ต.อ.สนธยา แสนเภา อดีตสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) สรรหา 2 สมัย ในฐานะตัวแทนภาคอีสาน ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมว่า พล.ต.ต.จรัญ หัวหน้าพรรคได้เชิญมาประชุมใหญ่ดังกล่าว ส่วนตัวยังไม่ได้เป็นสมาชิกพรรค แต่ได้นำตัวแทนภาคอีสานจากสุรินทร์ สกลนคร อุบลราชธานี เข้าประชุมกว่า 20 คน ส่วนหัวหน้าพรรคคนใหม่ คงต้องฟังเสียงจากดูไบ หรืออังกฤษ แต่พรรคเพื่อธรรมน่าจะเป็นพันธมิตรพรรคเพื่อไทยมากกว่านอมินี ส่วนตนเองจะลง ส.ส.ในระบบบัญชีรายชื่อ และเหตุที่เลือกสมัครสมาชิกพรรคเพื่อธรรม เนื่องจากรัฐธรรมนูญ ปี 2550 ถูกทำลายไป จากนั้น คสช.ก็เข้ามาบริหารประเทศ ช่วงแรกๆก็ดูสดชื่นแจ่มใส แต่อยู่ไปนานๆ ผู้ที่เข้ามาดูแลประเทศได้เปลี่ยนแปลงแนวคิดจะหันมาเล่นการเมืองด้วย จึงเห็นว่าไม่เป็นระบบประชาธิปไตย พวกเราจึงมีแนวคิดว่าเราเองก็สนใจการเมืองและตั้งใจจะเข้ามารับใช้ประชาชนและชาติบ้านเมือง โดยการลงสมัคร ส.ส.ในเขตต่างๆ
พ.ต.อ.สนธยา กล่าวอีกว่า สำหรับการเลือกตั้ง ส.ส.ครั้งหน้า ทั่วประเทศ มี ส.ส.ได้ 350 เขต คาดว่าพรรคเพื่อธรรมส่งผู้สมัครลงครบทุกเขต ส่วนการแข่งขัน ต้องดูว่าประชาชนพิพากษาให้พรรคไหน ให้ใครเพราะอำนาจอยู่ในมือประชาชน ไม่สามารถคาดเดาได้ แต่ตั้งสมมุติฐานว่าเพื่อไทย และเพื่อธรรม อย่างน้อยเป็นพันธมิตร ถ้าอยู่ในระบอบประชาธิปไตย สองพรรคนี้เป็นหลัก หากชนะเลือกตั้งมีโอกาสจัดตั้งเป็นรัฐบาล ส่วนพรรคหรืออีกขั้วหนึ่งต้องคิดหนัก เพราะบริหารราชการแผ่นดินมา 4 ปีกว่าเป็นอย่างไร สำหรับพรรคเพื่อธรรม ตั้งอยู่บนพื้นฐานของประชาชน ทำงานให้ประชาชนและเพื่อประชาชน ได้ลงพื้นที่ทุกภูมิภาคในฐานะภาคประชาสังคม เศรษฐกิจย่ำแย่ ร้านค้า ผู้บริโภคไปไม่ได้แล้ว
จากนั้นพรรคเพื่อธรรมได้จัดประชุมสมาชิกและเลือกตั้งคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ โดยปิดห้องไม่ให้บุคคลภายนอกเข้าไปสังเกตการณ์ โดยใช้เวลากว่า 3 ชั่วโมงจึงเปิดให้สื่อมวลชนเข้าไปถ่ายภาพและสัมภาษณ์ โดยนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ อดีตส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทยและอดีตรองนายกรัฐมนตรีและรมว.ต่างประเทศในสมัยนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ เป็นนายกรัฐมนตรีพร้อมด้วย ดร.นลินี ทวีสิน รองหัวหน้าพรรค,นายพงศกร อรรณนพพร เลขาธิการพรรค,นายไพบูลย์ โตวิริยะเวช รองเลขาธิการพรรค,นายธวัชชัย ไทยธรรมอารีย์เหรัญญิก,ว่าที่ร.ต.หญิงจุฑามาศ ทิดดี นายทะเบียนพรรค,ดร.เอราวัณ ทับพลี โฆษกพรรค,พล.ต.อ.จรัญ ธิตะปัญญา และพ.ต.อ.มานัส ศัตรูลี้ เป็นที่ปรึกษาพรรค ได้ร่วมกันแถลงข่าว
นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อธรรม กล่าวว่า ทั้งหมดนี้เป็นไปตามข้อกำหนดและมติของที่ประชุม โดยอนาคตข้างหน้าจะเพิ่มได้อีกไม่เกิน 15 ท่าน ทั้งนี้อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงได้เมื่อมีการประชุมใหญ่ของพรรคเมื่อได้กรรมการบริหารครบ 15 คน ซึ่งการเมืองก็มีการพลิกผัน ตำแหน่งก็อาจจะมีการสับเปลี่ยนกัน ซึ่งพรรคเพื่อธรรมมีความมุ่งมั่น ตั้งใจพอสมควรในการสรรหาบุคลากรมาร่วมทีมกับพรรค ซึ่งความพร้อมของพรรคมีมานานโดยเฉพาะในการเลือกตั้งที่จะมีขึ้น
“อย่างไรก็ตามเพื่อนฝูงที่มีอุดมการณ์เดียวกัน และเชื่อว่าทุกคนจะมีความพร้อม ส่วนที่จะมีคนมองว่าเราเป็นนอมินีเพื่อไทยนั้น การที่มาประชุมที่จังหวัดเชียงใหม่เพราะสมาชิกพรรคเพื่อธรรมมีถึง 800 กว่าคนซึ่งมากที่สุดในประเทศและเป็นการอำนวยความสะดวกให้กับสมาชิกด้วย โดยสมาชิกพรรคก็เปิดรับไปเรื่อยๆ และมีกระจายทั้งภาคอีสาน และภาคใต้ แต่ที่เลือกที่เชียงใหม่เพราะสมาชิกมาจากแม่ริม แม่แตง สันกำแพงและสารภี”
ส่วนที่ตนรับเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อธรรมแล้วลูกชายอยู่พรรคเพื่อไทย ก็ถือว่าต่างคน ต่างทำงาน เพราะลูกชายก็โตแล้ว และการที่ตนกลับมาทำงานการเมืองเพราะคุยกันมานาน 3-4 ปีก่อนแล้วยิ่งพอรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ออกมาเห็นว่าการกำหนดการเลือกตั้งที่ออกมามันผิดแปลกไป และตนและพ.ต.อ.จรัญซึ่งรักใคร่กันมานาน และตนก็ทำงานการเมืองมากว่า 30 ปีจึงขันอาสามาทำงานอีกครั้ง โดยการเลือกตั้งครั้งต่อไปพรรคเพื่อธรรมจะพยายามส่งผู้สมัครลงให้ครบเกือบ 350 เขตซึ่งก็จะมีอดีตส.ส.ด้วย แต่ยืนยันจะไม่มีการดูดจากพรรคอื่นมา เพื่อไทยก็ทำงานของเพื่อไทยไป ส่วนเพื่อธรรมก็จะทำตามคนที่มีอุดมการณ์เดียวกัน ต่างคนต่างทำ ส่วนแนวทางการเมืองจะคล้ายคลึงกันหรือไม่ขอให้ดูต่อไป เราไม่เอาเผด็จการ แต่ยึดมั่นประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข
หัวหน้าพรรคเพื่อธรรม ยังกล่าวอีกว่า พรรคเพื่อธรรมจะไม่เป็นพรรคสำรองของใคร แต่เราจะรับหากใครจะย้ายมาอยู่กับเรา นโยบายของพรรคก็จะให้พี่น้องประชาชนได้มีส่วนร่วมกับพรรคด้วย ส่วนกรณีนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นั้นขอยืนยันนายสมชายยังเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยและวันนี้ที่มีการประชุมก็ยังไม่ได้เห็นหรือเจอกัน และนายสมชายไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับพรรคเพื่อธรรมเลย อีกทั้งนางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ ภรรยานายสมชายก็วางมือไม่ยุ่งเกี่ยวกับการเมืองแล้ว
“ที่เชียงใหม่จะเป็นสาขาพรรคเพื่อธรรม สาขาแรก ต่อไปที่ภาคกลา ภาคอีสานและภาคใต้ ส่วนการเลือกตั้งครั้งหน้าพรรคเพื่อธรรมจะไม่ยิ่งหย่อนกว่าพรรคใดแน่ๆ โดยเฉพาะจังหวัดเชียงใหม่มั่นใจว่าจะได้ที่นั่งส.ส.อย่างแน่นอน ส่วนที่มีการพูดว่าพรรคเราสำรองหากจะมีการยุบพรรคเพื่อไทย ซึ่งหากเป็นจริงก็น่าสงสารถ้าลงสมัครแล้ว ได้เบอร์แล้วมีคำพิพากษายุบพรรคออกมา 350 คนที่สมัครก็เคว้ง ก็คงต้องถามคนที่จะลงเพื่อไทยจะย้ายมาหาเรามั้ย แต่เพื่อไทยและเพื่อธรรมเป็นพันธมิตรกันได้ ทางพรรคเพื่อธรรมยืนยันไม่เอาเผด็จการอย่างแน่นอน”นายสมพงษ์ กล่าว
ทางด้าน ใครมีอุดมการณ์ตรงกัน เพื่อประชาชน เพื่อประชาธิปไตยเราจะรับเข้าสู่พรรคหมด มาจากพรรคไหนไม่ว่า ตอนนี้หัวหน้าพรรคเป็นคนภาคเหนือ เลขาธิการพรรคเป็นคนอีสาน รองหัวหน้าพรรคมาจากภาคกลาง โฆษกพรรคมาจากภาคกลางไปทางตะวันออก ซึ่งก็ถือว่าสมบูรณ์แบบ พรรคเราจัดตั้งตามกระบวนการที่ถูกต้อง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับสมาชิกพรรคเพื่อธรรมที่ปรากฏตัวในครั้งนี้ ส่วนใหญ่เป็นนักการเมืองท้องถิ่นและเป็นลูกหม้อเก่าและคนสนิทของนางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ อาทิ นางศุภกานต์ สุประการ ส.อบจ.เชียงใหม่เขตสารภี,นายมนูญ บูรณะพัฒนา นายกเทศมนตรีตำบลยางเนิ้ง,นางสาวอนรรฆวี จำรัสวุฒิกุล นายจรัส ไชยา อดีตนายกเทศมนตรีเมืองเมืองแกนพัฒนา คนสนิทของนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ นอกจากนี้ยังมีนายเศวต เวียนทอง อดีตผู้สมัครส.ส.พรรคเพื่อนเกษตรกรไทยและเป็นอดีตส.จ.เชียงใหม่,ดร.ชินชัย แก้วเรือน อดีตผู้สมัครส.ส.เพื่อนเกษตรกรไทย ด้วย.
