“วิภาวรรณ”ผู้ก่อตั้งเดอะทับแขก กระบี่ บูทีค รีสอร์ทผู้น้อมนำหลักปรัชญาศก.พอเพียงมาใช้ในการดำเนินธุรกิจโรงแรม เผยเมื่อกู้เงินก็ต้องใช้คืน การทำงานต้องวางแผนงานให้สอดคล้องกับเงินที่ใช้ เตรียมลงทุนสร้างโรงแรมใหม่เจาะกลุ่มลูกค้าWellness
เมื่อวันที่ 27-29 พฤษภาคม 2561 ที่่ผ่านมา บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม(บสย.) จัดกิจกรรม MediaEducation Camp 2018 “ธุรกิจดี๊ดี…เพราะมีบสย.ค้ำประกัน”รวมพลังสื่อร่วมกิจกรรมส่งท้ายโครงการค้ำประกันสินเชื่อ PGS6 ปรับปรุงใหม่สิ้นสุด 30 มิ.ย.61 นี้ นำโดย นาย วิเชษฐ วรกุล รองผู้จัดการทั่วไป สายงานธุรกิจ บสย. นำคณะผู้บริหารจากส่วนกลาง ภาคเหนือ และภาคใต้ อาทิ นายเกรียงไกร ไชยศิริวงศ์สุข ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและพัฒนาผลิตภัณฑ์ นายชญานิน ศิริจางคพัฒนา รักษาการผู้อำนวยการฝ่ายประชาสัมพันธ์ นายเทียบจิตต์ จันทรภูติผลากร ผู้ช่วยผู้อำนวยการสำนักงานสาขาสุราษฎร์ธานี ฝ่ายกิจการสาขา และนายดำริ ขวัญสุวรรณ ผู้จัดการสำนักงานสาขาเชียงใหม่ มาเยี่ยมลูกค้าชั้นดีที่ เดอะทับแขก กระบี่ บูทีค รีสอร์ท
นางวิภาวรรณ เหล่าธนาสิน กรรมการผู้จัดการ “เดอะทับแขก กระบี่ บูทีค รีสอร์ท” เจ้าของผู้ก่อตั้งเดอะทับแขก กระบี่ บูทีค รีสอร์ทคนนี้ ถือเป็นนักธุรกิจหญิง ผู้น้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ในการดำเนินธุรกิจ เธอเล่าว่า “ชีวิตนี้ถ้าไม่มีหลักเศรษฐกิจพอเพียงอยู่ในหัวใจ เราคงไม่ได้มาจนถึงทุกวันนี้“ นับจากช่วงแรกที่เข้ามาบุกเบิกก่อสร้างโรงแรมในบริเวณนี้ซึ่งแต่เดิมมีแต่ป่าและมีข้อจำกัดมากมายหลายอย่าง แต่ก็ไม่ได้ย่อท้อต่ออุปสรรคใดๆ ไม่ว่าการก่อสร้างอาคารโรงแรมที่พักสูงได้ไม่เกิน 5 ชั้น ใช้เงินลงทุน 200 ล้านบาท
จนกระทั่งสามารถเปิดให้บริการได้ไม่ถึงปีก็เกิดสึนามิ แม้ที่เดอะทับแขก กระบี่ บูทีค รีสอร์ทแห่งนี้จะเป็นจุดเดียวที่ได้รับผลกระทบน้อยที่สุด ด้วยเพราะอยู่ในเวิ้งชายหาดที่มีภูเขากลางน้ำกลางกั้นคลื่นสึนามิในครานั้น แต่ต้องยอมรับกับสภาพเศรษฐกิจหลังเกิดสึนามิในภาคใต้ ธุรกิจบริการท่องเที่ยวในกระบี่ได้รับผลกระทบหมด
“ในช่วงนั้น โรงแรมและธุรกิจที่เกี่ยวข้องในภาคใต้ต้องฟื้นฟู แม้เราไม่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากสึนามิแต่พอดีได้ที่ดินด้านข้างที่อยู่ติดกันเพิ่ม ก็จะลงทุนเพิ่มและปรับปรุงที่เดิม โดยสร้างที่พักแบบพลูวิลลาขึ้นมาอีก 18 ห้อง เงินลงทุนอีก 200 ล้านบาท เราทำธุรกิจ ต้องอาศัยเงินกู้ เมื่อกู้มาก็ต้องรู้ว่าถึงเวลาก็ต้องคืน และต้องคืนให้ได้ เราต้องวางแผนงานให้สอดคล้องกับเงินที่ใช้ไป ก็ได้บสย.นี่แหละที่มาค้ำประกันสินเชื่อให้ และเหตุผลที่ทำพลูวิลลาติดชายหาด เพราะในกระบี่ไม่มีโรงแรมไหนทำเลยยกเว้นรายาวดี และราคาห้องพักเริ่มต้นก็สูง แต่พอเปิดให้บริการเราได้กลุ่มลูกค้าเดิมและลูกค้าใหม่ที่ยินดีจ่ายกับการมาพักผ่อนที่นี่ เดอะทับแขก กระบี่บูทิค รีสอร์ทของเราเหมาะกับกลุ่มฮันนีมูนมาก ซึ่งลูกค้าหลักก็จะเป็นแถบบยุโรปที่เข้าพักทีอย่างน้อย 5-7 วันหรือ 7-10 วันและตอนนี้ก็มีลูกค้าชาวจีนที่เข้าพัก 3-4 วัน”กรรมการผู้จัดการ “เดอะทับแขก กระบี่ บูทีค รีสอร์ท” เจ้าของผู้ก่อตั้ง กล่าวและชี้แจงอีกว่า
ที่เดอะทับแขกฯ มีห้องพักทั้งหมด 58 ห้อง เป็นพลูวิลลา 18 ห้องและห้องพักธรรมดา 58 ห้อง และตอนนี้ก็กำลังจะลงทุนทำโรงแรมเพิ่มอีก 1 แห่งในพื้นที่ไม่ไกลกันมากนัก มีเนื้อที่ประมาณ 20 ไร่ โดยจะทำเป็นโรงแรมสปอตคลับ Activity Hotel สำหรับคนรุ่นอายุ 20-30 ปีที่มีแรงเยอะมาก ได้มาเที่ยว พักผ่อนและออกกำลังกายไปด้วย โดยโรงแรมใหม่นี้ก็จะมีสระว่างน้ำโอลิมปิกให้เป็นที่เก็บตัวนักกีฬา ซึ่งจัดเป็นคนละแนวกับเดอะทับแขกฯ มีสระว่ายน้ำทั่วไป สระว่ายน้ำสำหรับเด็ก มียิมขนาดใหญ่ มีที่เล่นโยคะ เทราฟี แดนซ์ ต่อยมวย ซึ่งจะเป็นแห่งแรกของกระบี่ที่มีครบวงจรแบบนี้ เราจะปลูกผักเอง ซึ่งกลุ่มลูกค้ากลุ่มนี้มีเยอะและกลุ่มนี้เวลามาพักก็จะพักอยู่นานด้วยเป็นกลุ่มลูกค้า Wellness ที่ในช่วงไฮซีซั่น 6 เดือนสามารถรองรับกลุ่มลูกค้านี้ได้ ราคาห้องพักก็จะเริ่มต้นที่ 200 ดอลลาร์ ขณะที่เดอะทับแขก กระบี่ บูทีค รีสอร์ทเริ่มต้นที่ 350 ดอลลาร์
นางวิภาวรรณ กล่าวยด้วยว่า สำหรับรายได้ของโรงแรมเมื่อปีที่ผ่านมาอยู่ที่ประมาณ 170-180 ล้านบาท สำหรับปีนี้การเติบโตก็อาจจะใกล้เคียงกัน ซึ่งยอดเข้าพักอยู่ที่ร้อยละ 80 ซึ่งถือว่าสูงอยู่มาก เพราะที่กระบี่ปัจจุบันมีเที่ยวบินที่บินตรงจากยุโรปและจีนเข้ามามาก และในการลงทุนสร้างโรงแรมแห่งใหม่เราก็ยังจะให้บสย.ค้ำประกันสินเชื่อด้วย ชุมชนแห่งนี้ เข้มแข็ง รักใคร่สามัคคี ข้อตกลงก่อนสร้างโรงแรมนี้คือ ใช้คนจากท้องถิ่นเป็นผู้ให้บริการ เมื่อคนในชุมชนมีความสุข เราก็มีความสุข พนักงานของเราก็ต้องมีความสุข เป็นการแบ่งปันผลประโยชน์ ที่ลงตัว มีความพอเพียง เศรษฐกิจพอเพียง สอนให้เรารู้จักการเดินทางสายกลาง ทำให้ “เดอะทับแขก กระบี่ บูทีค รีสอร์ท” แห่งนี้ไม่มีอะไรที่มากเกินไปไม่น้อยเกินไป พอดีๆ เศรษฐกิจพอเพียงไม่ได้บอกว่าเราต้องมีเยอะ แค่ในปริมาณพอเหมาะพอเพียง เราก็อยู่ได้
เดอะ ทับแขก กระบี่ บูทีค รีสอร์ท สถานที่พักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติเขียวขจี ทับแขก หรืออีกนัยหนึ่งหมายถึง บ้านพักสำหรับผู้มาเยือน ตั้งอยู่บนชายหาดที่ถูกซ่อนตัวจากภายนอก เบื้องหน้าเป็นทะเลอันดามันอันสวยงามและเงียบสงบ มองเห็นหมู่เกาะทั้ง 13 เกาะที่ทอดตัวเรียงรายอยู่หน้าหาด ด้านหลังคือภูเขาหางนาค แหล่งท่องเที่ยวที่งดงามที่ยังไม่เป็นที่รู้จัก และมีภูมิทัศน์ที่อุดมสมบูรณ์ เป็นการผสมผสานที่ลงตัว เหมาะอย่างยิ่งที่จะเป็นรีสอร์ทเพื่อการพักผ่อน
เสน่ห์แห่งความงามของหาดทับแขก คือการที่มีเกาะขนาดใหญ่ 2 เกาะ คือเกาะยาวใหญ่ และ เกาะยาวน้อย ตั้งอยู่ในระยะที่เหมาะเจาะราวกับเป็นกำแพงธรรมชาติเพื่อหลบลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ จึงทำให้หาดทับแขกเป็นชายหาดที่ปลอดภัย และมีทะเลอันเงียบสงบตลอดทั้งปี และยังเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกที่สวยที่สุดอีกด้วยรีสอร์ทได้รับการออกแบบและตกแต่งภายในโดยสถาปนิก 49 ด้วยการตกแต่งที่เน้นความสะดวกสบาย ให้บรรยากาศแบบไทยๆ กลมกลืนกับสภาพแวดล้อม ล่าสุดเรามีวิลล่าพร้อมสระว่ายน้ำส่วนตัว ให้ความรู้สึกหรูหรา นอกจากนี้ยังมี L’escape Spa และร้านอาหารอิตาเลียน Di Mare ตั้งอยู่ริมชายหาดไว้ให้บริการทับแขกรีสอร์ท ได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในรีสอร์ทที่โรแมนติกที่สุดแห่งหนึ่งในกระบี่ ซึ่งทางรีสอร์ทสามารถจัดงานแต่งงาน หรือ ฮันนีมูนในสไตล์ที่ต้องการได้ เชิญมาสัมผัสด้วยตัวเองว่าทำไมทับแขกถึงถูกลิสต์ให้อยู่ใน ‘1000 Places to see Before you Die ®’ และยังได้รับรางวัล สิ่งแวดล้อมดีเด่น และด้านการออกแบบ รวมไปถึงโรงแรมที่โรแมนติกที่สุด ติดต่อกันหลายปี.
