“ศุภชัย”ขานรับข้อเสนอภาคเอกชน สร้างเครือข่ายทำงานร่วมกันเพื่อแก้ไขปัญหาหมอกควันและไฟป่า รับเป็นแม่งานคุยกัน 9 จังหวัดที่ได้รับผลกระทบ เพื่อแก้ไขปัญหาระยะยาว
วันที่ 27 มี.ค.62 ที่ห้อง POC อาคารอำนวยการศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ นายศุภชัย เอี่ยมสุวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมด้วยนายสรัชชา ณ อยุธยา ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดเชียงใหม่ นพ.วรัญญู จำนงประสาทพร รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ นพ.วรเชษฐ์ เตชะรัก ผอ.โรงพยาบาลนครพิงค์และนพ.ชาญชัย พงมานวิพุธ รองผอ.ฝ่ายการแพทย์ ได้ร่วมกันแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนถึงการแก้ไขปัญหาหมอกควันและไฟป่าของจังหวัดเชียงใหม่
ผวจ.เชียงใหม่ กล่าวว่า เมื่อวานนี้ได้ประชุมร่วมกับภาคเอกชนและนักวิชาการบางส่วน ซึ่งมีการเสนอแนะเกี่ยวกับการทำงานเพื่อแก้ไขปัญหาหมอกควันและไฟป่าว่าต้องเชื่อมโยงกับหลายพื้นที่ ด้วยเหตุนี้ตนจะเป็นแม่งานหลักก่อนที่จะเชิญตัวแทนจาก 8 จังหวัดภาคเหนือตอนบนและจังหวัดตากมาร่วมหารือเพื่อวางแนวทางทำงานร่วมกัน เป็นการวางแผนเพื่อแก้ไขปัญหาในระยะนี้ และป้องกันปัญหาระยะยาวไม่ให้เกิดปัญหาซ้ำซ้อนอีกในปีต่อไป
“สิ่งที่ต้องทำมากคือการเร่งสร้างจิตสำนึกให้กับประชาชนและเพิ่มมาตรการและความเข้มข้นกับผู้ที่ลักลอบเผาป่าหรือผู้ที่ยังฝ่าฝืนมาตรการตามกฎหมาย ซึ่งมีผู้เสนอแนวคิดเกี่ยวกับสิงคโปร์โมเดลที่มีการควบคุมพื้นที่ในกณีที่จะเกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งเรื่องนี้จะนำเข้าสู่การหารือร่วมกันของ 9 จังหวัดที่ไดรับผลกระทบจากปัญหาหมอกควันไฟป่า และมีการสร้างเครือข่ายการทำงานเพื่อรวมพลังให้เกิดผลอย่างมีประสิทธิภาพ โดยจะมีการตั้งคณะทำงานซึ่งประกอบไปด้วยตัวแทนจากฝ่ายราชการ เอกชนและนักวิชาการ โดยทางมหาวิทยาลัยเชียงใหม่เองก็มีการพูดคุยเบื้องต้นแล้วที่จะให้นักวิชาการมาช่วย ส่วนสถานที่ทำงานที่เป็นวอร์รูมร่วมนี้จะมีการพิจารณาอีกครั้งหนึ่งว่าจะใช้ที่มช.หรือของส่วนราชการ”นายศุภชัย กล่าวและชี้แจงอีกว่า
ได้เน้นย้ำไปทางอำเภอที่มีหอกระจายข่าวและวิทยุชุมชน ให้ความรู้แก่ประชาชนในการดูแลป้องกันผลกระทบจากหมอกควันและไฟป่า รวมทั้งแจกจ่ายหน้ากากอนามัย โดยให้ทางสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดประสานสาธารณสุขอำเภอและอสม.ในพื้นที่ สำหรับเรื่องหน้ากากอนามัยที่แจกจ่ายไปแล้ว 5.7 แสนชิ้นนั้นก็ยังไม่ครอบคลุม ขณะนี้ได้ประสานและรับแจ้งจากทางอบจ.เชียงใหม่แล้วว่ากำลังดำเนินการจัดซื้อหน้ากากแบบ N95 อีก 2 แสนชั้นและอบต.กับเทศบาลในจังหวัดเชียงใหม่อีก 2.7 แสนชิ้นที่จะแจกจ่ายให้กับพี่น้องประชาชนและให้โรงพยาบาลนครพิงค์กับโรงพยาบาลประจำอำเภอเปิดให้บริการประชาชนที่มีผลกระทบสุขภาพจากหมอกควันด้วย
นายศุภชัย กล่าวด้วยว่า สำหรับการฉีดพ่นละอองน้ำเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นและดักฝุ่นที่ฟุ้งกระจายในอากาศก็มีการปรับแผนมอบหมายให้แต่ละหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยถนนในเขตเทศบาลนครเชียงใหม่ 23 สายจะมีส่วนราชการที่รับผิดชอบฉีดพ่นน้ำ อย่างของสำนักชลประทานที่ 1 เชียงใหม่ซึ่งสามารถฉีดพ่นได้ทุกชั่วโมงเพื่อให้อากาศไหลเวียนได้ดีและเพิ่มความชุ่มชื้นในอากาศซึ่งจะทำให้โอกาสทำฝนหลวงได้มากขึ้นด้วย และทางประปาส่วนภูมิภาคก็จะติดตั้งม่านน้ำที่บริเวณประตูเมืองเพิ่มอีก 2 จุด ซึ่งมาตรการเหล่านี้จะดำเนินต่อไปอย่างเข้มข้นจนกว่าสถานการณ์จะดีขึ้น.
