รัฐมนตรี”อนุชา”เผยใช้งบ 160 ล้านจัดกิจกรรมสร้างกระแสกระตุ้นการท่องเที่ยวไนท์ซาฟารี

รัฐมนตรี”อนุชา”เผยใช้งบ 160 ล้านจัดกิจกรรมสร้างกระแสกระตุ้นการท่องเที่ยวไนท์ซาฟารี

รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรีชื่นชมเชียงใหม่ไนท์ซาฟารีพยุงองค์กรโดยไม่พึ่งงบประมาณจากรัฐ เชื่อภายใน 1-2 ปีโลกปรับตัวกับสถานการณ์โควิดได้ เชื่อมั่นกิจกรรมสร้างกระแสการท่องเที่ยวไนท์ซาฟารี จะดึงนักท่องเที่ยวทั้งไทย-ต่างชาติมามากขึ้น

เมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2565 ที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี สำนักงานพัฒนาพิงคนคร (องค์การมหาชน)  นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดการแถลงข่าว เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี กับกิจกรรมกระตุ้นการท่องเที่ยว ภายใต้โครงการ “กิจกรรมสร้างกระแสการท่องเที่ยวไนท์ซาฟารี” โดยมี นายศักดิ์ชัย คุณานุวัฒน์ชัยเดช รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ รศ.ดร.ณอคุณ สิทธิพงศ์ ประธานคณะกรรมการสำนักงานพัฒนาพิงคนคร (องค์การมหาชน) นายสายสิทธิ์ เจตสิกทัต ปฏิบัติหน้าที่แทน ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาพิงคนคร (องค์การมหาชน)นางสาวฐิติรัตน์ ต๊ะวันวงค์ ผู้อํานวยการ สํานักงานเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี  และคณะผู้บริหาร เข้าร่วมด้วย ณ เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีให้การต้อนรับ


นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ขึ้นชื่อแห่งหนึ่งของจังหวัดเชียงใหม่ จึงขอชื่นชมก่อนว่าเป็นองค์กรที่มีความพยายามในการช่วยเหลือตัวเองจนผ่านวิกฤตต่างๆ มาได้ โดยไม่พึ่งเงินจากรัฐ แสดงให้เห็นถึงศักยภาพในการบริหาร และยังเป็นสวนสัตว์ที่มีความแตกต่างจากสวนสัตว์อื่น มีความชัดเจนในแง่ของการกระตุ้นเศรษฐกิจ และช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจในพื้นที่ให้เจริญรุ่งเรือง สร้างรายได้ให้กับประเทศ
ทั้งนี้ ได้เห็นควรให้เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเตรียมพัฒนาแผนการท่องเที่ยวให้มีกิจกรรมที่น่าสนใจ เป็นการเตรียมความพร้อมในการต้อนรับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ โดยให้มีการพัฒนาปรับปรุงพื้นที่และเพิ่มกิจกรรมการให้บริการ ในปี 2565 หลากหลายกิจกรรม อาทิ โครงการปรับปรุงภูมิทัศน์บริเวณสระน้ำ Swan Lake, โครงการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวโลกเสมือนจริง, กิจกรรม Cowboy Show, กิจกรรม Rapter Flying แหล่งเรียนรู้และศึกษานกนักล่าสายพันธุ์ต่างๆ และกิจกรรมการปั่นจักรยานชมวิวเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี โดยใช้งบประมาณจำนวน 160 ล้านบาท ซึ่งกิจกรรมนี้จะเป็นการสร้างการรับรู้ให้แก่นักท่องเที่ยว อีกทั้งยังเป็นการสร้างกระแสการท่องเที่ยวให้มีความน่าสนใจ และเป็นการกระตุ้นการตัดสินใจของนักท่องเที่ยว ในการเลือกใช้บริการของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี ต่อไป

รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยังกล่าวด้วยว่า ในช่วง 2 ปีที่นานาชาติประสบกับการแพร่ระบาดของโควิด 19 ซึ่งเชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเองก็ได้รับผลกระทบถึง 100% อย่างไรก็ตามขณะนี้หลายประเทศก็เริ่มปรับตัวที่จะอยู่กับโควิด ซึ่งเชื่อว่าไม่เกินปลายปีนี้หรือ 1-2 ปี นานาประเทศก็จะปรับให้เป็นโรคประจำถิ่นและอยู่ร่วมกันไปเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้เดินหน้าต่อไป ด้วยเหตุนี้จึงเชื่อมั่นว่ากิจกรรมกระตุ้นการท่องเที่ยวภายใต้โครงการสร้างกระแสการท่องเที่ยวเชียงใหม่ไนท์ซาฟารีจะทำให้คนไทยหันมาเที่ยวกันมากขึ้น.

You may also like

SUN และ EXE มอบอาหารช่วยผู้ลี้ภัยชายแดนเมียนมา

จำนวนผู้