เชียงใหม่เริ่มสืบพบต้นตอแพร่โควิดระลอกใหม่หลังทีมสอบสวนกทม.ส่งข้อมูลหญิงสาวติดโควิดจากสถานบันเทิงและสัมผัสคนติดเชื้อมาเที่ยวสถานบันเทิงที่เชียงใหม่ ขณะที่ผู้ป่วยรายใหม่พนักงานรัฐติดจากเพื่อนที่ไปวอร์มอัพ ส่วนอีกรายติดจากสถานบันเทิง ทีมสอบสวนโรคเผยตัวเลขเสี่ยงสูงวอร์มอัพทั้งหมด 1,010 ราย เหลือ 63 รายผลออกคืนนี้
เมื่อวันที่ 8 ม.ค.64 ที่ศูนย์ข้อมูลข่าวสารเฉพาะกิจจังหวัดเชียงใหม่ นายวีระพันธ์ ดีอ่อน รองผวจ.เชียงใหม่พร้อมด้วยนายแพทย์จตุชัย มณีรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่และดร.ทรงยศ คำชัย ผช.นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ หัวหน้างานควบคุมโรคติดต่อ ได้ร่วมกันแถลงข่าวสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด19 ของจังหวัดเชียงใหม่
นายวีระพันธ์ ดีอ่อน รองผวจ.เชียงใหม่ กล่าวว่า คณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ได้ประชุมต่อเนื่องซึ่งมีความคืบหน้าของการดำเนินงานด้านสาธารณสุข ด้วยความห่วงใยของผวจ.เชียงใหม่ขอให้ประชาชนใช้ชีวิตอย่างระมัดระวัง และสร้างการรับรู้ที่ถูกต้อง
ด้านนพ.จตุชัย กล่าวว่า ซึ่งจังหวัดเชียงใหม่สำหรับคลัสเตอร์ผู้ป่วยยังมีผู้ป่วยจากระยอง ชลบุรีรวม 13 รายอยู่นครพิงค์ 10 ราย สันทราย 2 รายและรพ.กรุงเทพฯ1 ราย ซึ่งทุกรายมีอาการปานกลางถึงเล็กน้อยและต้องติดตามไปเรื่อยๆ จนกว่าจะปลอดภัย
ทางเชียงใหม่ได้รับประสานจากกทม.ว่ามีผู้ป่วยโควิดฯมีประวัติมาเชียงใหม่และเที่ยวจุดที่ระบาดของเชียงใหม่ ซึ่งช่วงที่มายังไม่มีอาการและกลับไปถึงมีอาการซึ่งบ่งบอกว่าเป็นระยะแพร่เชื้อ และมีประวัติสัมผัสผู้ติดโควิดที่กทม.มาก่อนถึง 5 วันและน่าจะเป็นรายที่แพร่เชื้อโควิดในสถานบันเทิงและเป็นต้นตอของการระบาดในระลอกนี้
สำหรับสองรายวันนี้ได้สืบสวนไทม์ไลน์ ซึ่งต้องใช้เวลาในการปฏิบัติงานเพื่อสังเคราะห์ข้อมูล ทางด้านสาธารณสุขจึงต้องใช้เวลาในช่วงเย็นมาแจ้งประชาชนทราบ
ดร.ทรงยศ คำชัย หัวหน้ากลุ่มงานควบคุมโรคติดต่อ กล่าวว่า ไทม์ไลน์รายที่ 58 หญิงอายุ 27 ปี ภูมิลำเนาอ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่อาชีพพนักงานของรัฐสนง.ทท.ฯ ประวัติไม่ได้ไปวอร์มอัพแต่ได้สัมผัสใกล้ชิดผู้ป่วยโควิดฯสองรายก่อน( 55,56) ของจังหวัดเชียงใหม่ เริ่มมีอาการไข้ ไอเล็กน้อย เมื่อ 6 ม.ค.จมูกไม่ได้กลิ่นและได้เข้ารับการรักษาที่ห้องความดันลบ รพ.สันทรายแล้ว ซึ่งรายนี้วันสิ้นปีอยู่กับครอบครัวและไม่ได้ไปวอร์มอัพ
อีกรายเป็นรายที่ 59 เป็นชายอายุ 42 ปี ภูมิลำเนาอ.เมืองเชียงใหม่ มีประวัติเดินทางไปวอร์มอัพในคืน 31 ธ.ค.ซึ่งไม่มีอาการและตอนนี้ได้เข้ารับการรักษาที่รพ.นครพิงค์แล้ว โดยประวัติไปวอร์มอัพจากนั้นไปหมูกะทะช้างเผือก วันต่อมาอยู่บ้าน และวันที่สองไปซื้อเฟอร์นิเจอร์ บ้านม้า จ.ลำพูนและร้านจันทร์เฟอร์นิเจอร์ ผู้ติดเชื้อไปตลาดนัดตองกายแต่สวมหน้ากาก และวันที่ 4 ม.ค.มารับการตรวจเพราะมาเที่ยววอร์มอัพและวันที่ 8 ม.ค.ผลตรวจออกว่าติดเชื้อ
นอกจากนี้มีข้อมูลเพิ่มเติมว่า ทางทีมสอบสวนโรคสนง.สาธารณสุขเชียงใหม่ได้รับข้อมูลจากกทม.ว่าผู้ติดเชื้อที่กทม.มีอาการ 1 ม.ค.แต่เมื่อ 28 ธ.ค.ได้ไปสถานบันเทิงที่กทม.และสัมผัสผู้ติดเชื้อโควิดที่สถานบันเทิงกทม.และวันที่ 30 ธ.ค.มาเที่ยวสถานบันเทิงเชียงใหม่ อย่างไรก็ตามทางทีมสอบสวนโรคก็ยังค้นหาต้นตอการระบาดอยู่
การตรวจคัดกรองผู้สัมผัสของผู้ป่วยโควิดฯ ของจังหวัดเชียงใหม่ที่เชื่อมโยงกับสถานบันเทิง พบผู้สัมผัสเสี่ยงสูงคือร้านวอร์มอัพทั้งหมด 830 ราย จากทั้งหมด 1,010 ราย ซึ่งอีก 63 รายผลจะออกในคืนนี้ ส่วนอีก 285 รายเป็นผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำ
นายวีระพันธ์ กล่าวว่า นับตั้งแต่มีการระบาดระลอกใหม่ ซึ่งมีผู้ได้รับผลกระทบจากมาตรการควบคุมโรค โดยเฉพาะขณะนี้ปรากฏว่ามีพนักงานที่ต้องหยุดงานเนื่องจากมาตรการปิดสถานบันเทิง สถานบริการ แต่กลับถูกเจ้าของหอพักไล่ออกจากบ้าน ซึ่งสังคมไทยต้องเอื้ออาทร ช่วยเหลือกันเพราะคนเหล่านี้ไม่ได้เป็นผู้ติดเชื้อแต่ต้องหยุดงานเพราะที่ทำงานปิด
นอกจากนี้ยังมีการแชร์และสร้างข่าวลวง ข่าวปลอมออกมาเผยแพร่ ซึ่งทางคณะกรรมการฯกำลังรวบรวมข้อมูลเพื่อที่จะแจ้งความดำเนินคดีตามกฎหมาย ขอเรียนให้ประชาชนทราบว่าเจ้าหน้าที่ทำงานกันอย่างเข้มข้น จึงขอให้ประชาชนให้ความร่วมมือตามที่ราชการร้องขอ และอย่าแชร์หรือสร้างข่าวลวงที่ไปสร้างผลกระทบหรือความเดือดร้อนให้กับคนอื่น แต่เราควรจะหันมาร่วมมือกันเพื่อฝ่าฟันปัญหาอุปสรรคในครั้งนี้ให้ได้.
