ผู้ว่าฯให้ตั้งศูนย์ที่ค่ายทหารพิชิตปรีชากรหลังสถานการณ์เชียงดาวยังคุกรุ่น

ผู้ว่าฯให้ตั้งศูนย์ที่ค่ายทหารพิชิตปรีชากรหลังสถานการณ์เชียงดาวยังคุกรุ่น

ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ สั่งตั้งศูนย์บัญชาการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองฯ (ส่วนหน้า) ที่อำเภอเชียงดาว ภายใต้ภารกิจ “Set Zero” โดยจะระดมสรรพกำลังปูพรมและลาดตระเวนทั้งภาคพื้นดินและทางอากาศ ตั้งเป้า 10 มี.ค.นี้ ต้องไม่มีจุดความร้อนเด็ดขาด

เมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2563 นายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เรียกประชุมคณะทำงานของศูนย์บัญชาการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 จังหวัดเชียงใหม่ โดยด่วน เพื่อติดตามและประเมินสถานการณ์ในพื้นที่ที่เกิดจุดความร้อน ซึ่งในวันนี้เกิด Hotspot (รอบเช้า เวลา 01.47 น.) จำนวน 218 จุด ในพื้นที่ 21 อำเภอ 47 ตำบล อยู่ในพื้นที่ป่าสวนแห่งชาติ 55 จุด ป่าอนุรักษ์ 157 จุด เขต สปก. 2 จุด เขตชุมชนและอื่นๆ 4 จุดโดยเฉพาะบริเวณดอยหลวง ตำบลเมืองนะ อำเภอเชียงดาว โดยตรวจสอบแล้ว เกือบทั้งหมดเป็นเกิดในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ และยังมีการลุกลามจากจุดเดิม เนื่องจากเป็นป่าที่มีสภาพแห้งแล้ง มีเศษกิ่งไม้ ใบไม้แห้งทับถมกันในพื้นที่ป่าจำนวนมาก และกลายมาเป็นเชื้อเพลิงอย่างดีที่ทำให้ติดไฟง่ายและลุกลามไปอย่างรวดเร็ว อีกทั้งพื้นที่เกือบทั้งหมดเป็นภูเขาสูง ยากต่อการที่หน่วยดับไฟภาคพื้นดินจะเข้าถึงได้ ต้องใช้การเดินทางเท้าเข้าพื้นที่จุดเกิดเหตุ จึงควบคุมไฟได้ด้วยความยากลำบาก

ทั้งนี้ ทาง warroom ศูนย์บัญชาการฯ จังหวัด ได้ส่งกำลังทหาร เหยี่ยวไฟ และตำรวจจิตอาสา รวมทั้งสิ้น 85 นาย เข้าไปบูรณาการกำลังกับเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ โดยหลังจากได้วิเคราะห์ลักษณะการเกิดจุดความร้อนที่ผ่านมา มักจะเกิดขึ้นในตอนกลางคืนในวันหยุดมากเป็นพิเศษ และจะเกิดไฟในช่วงบ่ายยาวไปถึงกลางคืนเกือบทุกวัน โดยจังหวัดจะส่งกำลังเข้าไปสับเปลี่ยนหมุนเวียน เนื่องจากต้องฝังตัวค้างแรมอยู่ในป่า รวมทั้งต้องนำกำลังชุดเคลื่อนที่เร็วออกตรวจลาดตระเวนเพื่อปราบปรามการกระทำผิดกฎหมายลักรอบเผาป่า ทำงานติดต่อกันมา 5 วันแล้ว ทำให้เกิดการเหนื่อยล้า

ด้าน ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้สั่งการให้ตั้งศูนย์บัญชาการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 จังหวัดเชียงใหม่ (ส่วนหน้า) ในค่ายพิชิตปรีชากร กองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 7 ตำบลปิงโค้ง อำเภอเชียงดาว เพื่อเตรียมปฏิบัติการ “Set Zero” ในวันที่ 9 – 10 มีนาคมนี้ โดยจะระดมสรรพกำลังเจ้าหน้าที่ทั้งหมด ประกอบด้วย กำลังทหาร เยี่ยวไฟ เสือไฟ เจ้าหน้าที่ปกครอง ชุดปฏิบัติการดับไฟจาก อบจ.เชียงใหม่ อปพร. ผู้นำชุมชน และชาวบ้านในหมู่บ้านที่เกิดไฟ สนธิกำลังเข้าไปดับไฟใน 4 พื้นที่ ได้แก่ 1.เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเชียงดาว (ดอยหลวงเชียงดาว) 2.อุทยานแห่งชาติศรีลานนา ตำบลปิงโค้ง 3.อุทยานแห่งชาติผาแดง ตำบลเมืองนะ และ 4.อำเภอไชยปราการ พร้อมทั้งขอสนับสนุนเฮลิคอปเตอร์จากกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นำอากาศยานเข้าไปช่วยดับในพื้นที่ที่กำลังพลภาคพื้นดินเข้าไม่ถึง และประสานใช้จิตอาสาร่มบิน บินสำรวจและชี้จุดที่เกิดความร้อนทางอากาศ ซึ่งในช่วงเช้าวันพรุ่งนี้ (9 มี.ค.63) จะหารือ วิเคราะห์ประเมินสถานการณ์ และชี้แจงแผนการปฏิบัติงาน รวมทั้งเช็คกำลังพลและยุทโธปกรณ์ในพื้นที่ เพื่อเตรียมพร้อมส่งกำลังปูพรมเข้าพื้นที่เป้าหมาย และตรึงกำลังค้างแรมอยู่ภายในป่า พร้อมกับลาดตระเวนป้องกันการลักรอบเผาป่า โดยกำชับเจ้าหน้าที่ต้องตรวจสอบไฟที่กระจายเป็นจุด ๆ เนื่องจากที่ผ่านมามักจะเกิดไฟในจุดเดิม แล้วลุกลามเป็นวงกว้าง ต้องดับให้สนิททั้งหมดก่อนจะถอนกำลังออกมา และสั่งการให้อำเภอเชียงดาว และอปท. เตรียมพร้อมสนับสนุนในสิ่งที่ส่วนแยกร้องขออย่างเต็มกำลัง และต้องรายงานผลความคืบหน้าการทำงานให้ศูนย์บัญชาการฯ จังหวัดทราบทุกระยะ.

You may also like

 รมช.คมนาคมเปิดการทดลองเดินรถโดยสารHOP&GO เชื่อมโยงโครงข่ายสาธารณะไปยัง 7 แหล่งท่องเที่ยวในเชียงใหม่

จำนวนผู้