ผวจ.เชียงใหม่เยี่ยมจนท.เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเชียงดาว เผยให้นอภ.เชียงดาวเข้าไปดูแลและให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย ขณะที่รมว.ทส.-ปลัดกระทรวง-อธิบดีให้ตัวแทนเยี่ยมปลอบขวัญ
เมื่อตอนเย็นวันที่ 3 พฤษภาคม 2563 นายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ผวจ.เชียงใหม่ ได้เดินทางไปเยี่ยมให้กำลังใจนายสงกรานต์ จักรษุ เจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเชียงดาว ที่นอนพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลลานนา อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ หลังถูกผู้ต้องหาบุกรุกแผ้วถางป่าใช้จอบฟันจนทำให้กระดูกแขนขวาแตกจนต้องทำการผ่าตัดเพื่อเย็บกระดูก
ผวจ.เชียงใหม่ กล่าวว่า ได้รับรายงานเหตุการณ์ดังกล่าวซึ่งเกิดขึ้นเมื่อวานนี้(2พ.ค.) ซึ่งเบื้องต้นทราบว่าทางจนท.ได้เข้าไปในพื้นที่เพื่อตรวจสอบหลังจากมีผู้แจ้งเบาะแส และก็เกิดเหตุการณ์ที่มีการให้ข้อมูลที่ไม่ตรงกันระหว่างฝ่ายจนท.กับญาติผู้ถูกจับ ซึ่งได้สั่งให้นายอำเภอเชียงดาวตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นเพื่อให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย เพราะเท่าที่รับทราบเบื้องต้นคือทางฝ่ายผู้ต้องหาก็ได้รับบาดเจ็บด้วย
อย่างไรก็ตาม ได้มีการกำชับไปแล้วว่าในการลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบการบุกรุก แผ้วถางหรือเข้าไปทำดินในจุดที่เกิดไฟไหม้ป่า ให้ประสานและลงพื้นที่พร้อมผู้นำชึมชนด้วย สำหรับกรณีที่บ้านนาเลานี้ต้องยอมรับว่ามีปัญหาขัดแย้งกันอยู่ ซึ่งทางจังหวัดจัให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
ทางด้านนายเกรียงศักดิ์ ถนอมพันธ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารที่ 16 พร้อมด้วยนายนรินทร์ ประทวนชัย.ผู้อำนวยการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดเชียงใหม่ เป็นตัวแทน นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมและ นายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช มอบกระเช้าและเงินสดให้กับ นายสงกรานต์ จักรษุ เจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเชียงดาว ที่นอนพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล
นายสงกรานต์ จักรษุ เล่าถึงเหตุการณ์ว่า วันเกิดเหตุตนและเจ้าหน้าที่ สายตรวจเขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าเชียงดาว ได้รับแจ้งว่ามีการบุกรุกแผ้วถางป่าในพื้นที่ดังกล่าวจึงได้นำกำลังเข้าจับกุม ขณะนี้ที่ตนเข้าจับกุมนั้นผู้ต้องหาได้ใช้จอบที่ขุดดินอยู่ฟันมาที่แขนขวาตน ซึ่งตอนนั้นตนก็ยังไม่รู้สึกตัวเพราะพยายามไล่จับและปล้ำกับผู้ต้องหาอาจทำให้ปืนลูกซองที่สะพายนั้นอาจฟาดไปโดนศีรษะผู้ต้องหา เพราะเป็นช่วงชุลมุนและตนยืนยันว่าไม่ได้ใช้ปืนฟาดผู้ต้องหาอย่างที่มีการแชร์ในโซเชียล
ซึ่งหลังจากจับกุมผู้ต้องหาทั้งสามรายได้ตนและเจ้าหน้าที่พยายามจะนำตัวผู้ต้องหาไปดำเนินคดีแต่ผู้ต้องหาได้เรียกชาวบ้านในหมู่บ้านมาจำนวนมากและมีการอัดคลิปว่า ตนดื่มสุราขณะเข้าไปจับกุมชาวบ้านด้วย ซึ่งตนเลิกดื่มสุรามาสิบกว่าปีแล้วไม่เป็นไปตามที่ชาวบ้านได้กล่าวอ้างและขัดขวางไม่ให้พวกตนและนำผู้ต้องหาทั้งสามรายมาดำเนินคดี เมื่อตนเห็นต่อมาได้มีชาวบ้านบ้านฟ้าสวย และชาวบ้านบ้านนาเลาใหม่ ประมาณ 20 คน ได้เข้ามายังพื้นที่เกิดเหตุ ทำให้เหตุการณ์เกิดการชุลมุนอีกครั้ง เจ้าหน้าที่เกรงว่าสถานการณ์จะบานปลาย เพื่อความปลอดภัยจึงได้ล่าถอยออกจากพื้นที่
ด้านนายเกรียงศักดิ์ ถนอมพันธ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 16 เปิดเผยว่า พื้นที่ๆเกิดเหตุนั้น พื้นที่บุกรุกใหม่เนื่องจากมีภาพถ่ายทางอากาศออโทสีพื้นที่ทำกินเปรียบเทียบกันตั้งแต่ปี 2545 และหลังปี 2557 ซึ่งจริงๆแล้วความเป็นธรรมก็ต้องให้ทั้งสองฝ่าย ส่วนข้อกล่าวหาต่างๆ นั้นเราต้องใช้พยานหลักฐานทางวิทยาศาสตร์โดยเรามีหลักการอยู่แล้วในการปฏิบัติหน้าที่ โดยจะเน้นย้ำเสมอไม่ให้รังแกชาวบ้านแต่ และรู้สึกเสียใจที่เกิดเหตุการณ์ ซึ่งขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้แจ้งความไว้ที่ สภ.เชียงดาวไป แล้ว 3 รายเบื้องต้นแจ้งข้อหา ร่วมกันยึดถือหรือครอบครองที่ดินแผ้วถางหรือทำด้วยประการใดๆให้เสื่อมสภาพหรือเปลี่ยนแปลงธรรมชาติเดิม
และข้อหาต่อสู้หรือขัดขวางเจ้าพนักงานหรือผู้ต้องช่วยเหลือเจ้าพนักงานที่ต้องปฏิบัติตามหน้าที่
ทางด้านครอบครัวของผู้เสียหายก็ได้มีแชร์ภาพ ที่ได้รับบาดเจ็บและขอความเป็นธรรม โดนอ้างว่าเจ้าหน้าที่ทำร้ายทำเกินกว่าเหตุไปตามโซเชียลต่างๆ และได้เข้าแจ้งความกับ ตร. สภ.เชียงดาวด้วย.
