ผู้ว่าฯเชียงใหม่สุดทน ทำหลายทางแต่ไฟดอยสุเทพ-ปุยยังคุกรุ่น สั่งตั้งด่านตลอด 24 ชั่วโมงทุกเส้นทางเข้าสู่อุทยานดอยสุเทพ-ปุย

ผู้ว่าฯเชียงใหม่สุดทน ทำหลายทางแต่ไฟดอยสุเทพ-ปุยยังคุกรุ่น สั่งตั้งด่านตลอด 24 ชั่วโมงทุกเส้นทางเข้าสู่อุทยานดอยสุเทพ-ปุย

ผู้ว่าฯเชียงใหม่สุดทน ทำหลายทางแต่ไฟดอยสุเทพ-ปุยยังคุกรุ่น สั่งตั้งด่านตลอด 24 ชั่วโมงทุกเส้นทางเข้าสู่อุทยานดอยสุเทพ-ปุย ยันยามวิกาลไม่มีเหตุให้คนนอกเข้าพื้นที่ ส่วนชาวบ้านขึ้น-ลง ออกไปไหนให้จดวันเวลาไว้ให้ชัดเจน เร่งทุกอำเภอแจ้งความดำเนินคดี ชี้ไฟไหม้ป่าอุทยานฯพื้นที่ทำกิน ระบุต้องรับผิด-ชอบร่วมกันเมื่อ “บิ๊กตู่”สั่ง 7 วัน Hot Spot ต้องเป็นศูนย์

เมื่อวันที่ 2 เม.ย.63 ที่ศูนย์บัญชาการป้องกันไฟป่าและฝุ่นควัน จังหวัดเชียงใหม่ นายคมสัน สุวรรณอัมพา รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่พร้อมด้วยหัวหน้าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประชุมติดตามการดำเนินงานแก้ไขปัญหาไฟป่าและฝุ่นควันประจำวัน โดยรองผวจ.เชียงใหม่ กล่าวว่า ในวันนี้จังหวัดเชียงใหม่พบจุดความร้อนสูงถึง 333 จุด ในพื้นที่ 17 อำเภอ 50 ตำบล    โดยเฉพาะอำเภอที่มีจุดความร้อนในพื้นที่มาก 5 อันดับซึ่งจังหวัดเชียงใหม่ได้ประสานขอให้ประชุมผ่านระบบวิดีโอทางไกลคือแม่แจ่ม สะเมิง อมก๋อย แม่แตงและเชียงดาว โดยขอให้แต่ละอำเภอรายงานถึงสถานการณ์ในพื้นที่และแนวทางแก้ไขปัญหา

“จังหวัดได้เน้นมาตรการมา 2 สัปดาห์แล้วเรื่องให้จัดกำลังลาดตระเวนซึ่งแต่ละอำเภอได้ใช้กลไกแค่ไหน นอกจากนั้นทางกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ตั้งศูนย์บัญชาการที่เชียงใหม่แล้ว ขอให้ปลัดอาวุโสแม่แจ่มประสานหน่วยต้นน้ำให้จัดกำลังเข้าไปร่วมกับทางอำเภอ เป็นชุดเฝ้าระวังประจำหมู่บ้าน  ซึ่งจากที่แม่แจ่มมีกำลัง 2 ชุดเดิมคือ ชุดลาดตระเวนประจำหมู่บ้านและ ชุดเฝ้าระวังประจำหมู่บ้าน ซึ่งแต่ละชุดจะมีทั้งทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครอง จนท.ของทางป่าไม้หรืออุทยานฯ แล้ว ให้เพิ่มชุดของก.ทรัพย์เป็นชุดเฝ้าระวังไฟป่าเพิ่มอีกหนึ่งชุด”รองผวจ.เชียงใหม่ กล่าวและว่า

ขณะนี้ ทางกระทรวงทรัพย์ฯมี เฮลิคอปเตอร์สนับสนุน สำหรับพื้นที่เขาสูงชัน อำเภอไหนที่ต้องการใช้อากาศยานในการช่วยทิ้งน้ำดับไฟ โดยเฉพาะพื้นที่เขาสูงชัน ให้แจ้งมา ที่ศูนย์บัญชาการฯ เพื่อประเมินสถานการณ์  แต่หากพื้นที่ใดบอกว่าไม่จำเป็นและสามารถดำเนินการได้ แต่หากไม่ยุติต้องรับผิดชอบ เพราะนายกรัฐมนตรีสั่งการมาแล้วว่าภายใน 7 วัน Hot Spot ต้องเป็นศูนย์ ซึ่งแต่ละอำเภอก็ต้องไปดำเนินการ ทางจังหวัดพร้อมจะรับผิดและรับชอบด้วย  ในวันต่อๆ ไปขอให้นายอำเภอหรือปลัดอำเภอที่รับผิดชอบโซนที่เกิดไฟไหม้บ่อยครั้งและเจ้าหน้าที่ป่าไม้ อุทยานฯที่เกี่ยวข้องมาประชุมร่วมกับทางศูนย์ฯผ่านทางระบบทางไกลด้วย

ทั้งนี้ปลัดอำเภอแม่แจ่ม ได้รายงานถึงสถานการณ์ในพื้นที่ว่า จุดที่เกิดจุดความร้อนมากๆ ได้แก่ต.แม่นาจร ซึ่งมีการลักลอบเผา โดยเฉพาะพื้นที่รอยต่อระหว่างตำบลและอยู่บนพื้นที่สูง ทำให้ไฟไหม้ลุกลามเมื่อคืนที่ผ่านมา แต่วันนี้จะจัดกำลังเข้าไปดับไฟ ส่วนการจัดชุดลาดตระเวนประจำหมู่บ้านได้มีการประชุมร่วมกับทางผู้นำแล้วจะเร่งดำเนินการให้เร็วที่สุด แต่ทั้งนี้นายอำเภอแม่แจ่มยังไม่ต้องการกำลังสนับสนุนอากาศยานมาช่วย

ทางด้านอำเภอแม่แตง ได้รายงานว่า วันนี้พบจุดความร้อนในพื้นที่  44 จุด มากที่สุดคือที่ต.ป่าแป๋ แช่ช้างและแม่แตง โดยจุดที่เกิดจุดความร้อนเป็นพื้นที่รอยต่อระหว่างป่าแป๋และแช่ช้าง  ซึ่งมีหน่วยห้วยน้ำดังและชาวบ้านรวม 10 คนเข้าไปดำเนินการแล้ว ซึ่งพื้นที่เกิดจุดความร้อนเป็นหน้าผาและห่างไกลหมู่บ้านประมาณ 10 กิโลเมตร ทางอำเภอได้ร้องขอเฮลิคอปเตอร์ แต่มีปัญหาแหล่งน้ำคือเขื่อนแม่งัดฯ ซึ่งอยู่ห่างไกลจากจุดเกิดไฟถึง 30 กิโลเมตร  ซึ่งการใช้อากาศยานอาจจะไม่ได้ผล ทางอำเภอได้ให้กำลังภาคพื้นดินเข้าไปดำเนินการแล้ว

ส่วนอำเภอเชียงดาว รายงานว่า พื้นที่เกิดจุดความร้อนมากที่สุดคือ ต.เมืองนะ ซึ่งไฟลุกลามไปค่อนข้างมาก และที่ต.เมืองคองสภาพพื้นที่ป่าเขาสูงชัน ห่างไกล ขณะนี้ทางชุดดับไฟของชาวบ้าน  ได้จัดกำลังร่วมกับเจ้าหน้าที่เข้าดับไฟ นอกจากนี้ยังมีพื้นที่เกิดจากการลุกลามจากเมื่อวาน(1 เม.ย. ซึ่งเมื่อวานได้อากาศยานไปช่วยดับไฟถึง 8 เที่ยวแต่ไฟยังไม่ดับ ขณะนี้ชุดในพื้นที่ร่วมกับชาวบ้านประมาณ 100 คนเดินเท้าเข้าไปดับ และขอรับการสนับสนุนอากาศยานไปดับไฟในพื้นที่แม่กาใต้ อ.เชียงดาวด้วย

ทางด้านพ.อ.อโณทัย ชัยมงคล รองผบ.มทบ.33 กล่าวว่า ในปีนี้ทุกภาคส่วนได้ร่วมมือกันมาตั้งแต่ต้นปีในการแก้ไขปัญหาไฟป่า ซึ่งทางกองทัพฯได้จัดกำลังพลสนับสนุนตามที่ร้องขอ อย่างไรก็ตาม ยังมีความเป็นห่วงเรื่องไฟไหม้บนดอยสุเทพ ซึ่งก็มีเกิดขึ้นทุกวัน โดยเฉพาะช่วงบ่ายจะมีประชาชนส่งภาพมาให้ทหาร  และได้ส่งต่อให้ศูนย์บัญชาการฯวิเคราะห์ว่าต้องการภาคอากาศไปสนับสนุนหรือไม่ หรือหากต้องการกำลังทางภาคพื้นดินขอให้ประสานมาเนื่องจากที่ผ่านมาพอจัดกำลังพลให้แล้วแต่ไม่มีผู้นำทางเข้าไป

ในเวลาต่อมา นายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ผวจ.เชียงใหม่ ได้มาประชุมร่วมกับศูนย์บัญชาการฯหลังจากประชุมกับ พลตรีจิรเดช กมลเพ็ชร รองแม่ทัพภาคที่ 3 ในฐานะผู้บัญชาการกองบัญชาการควบคุมสถานการณ์ไฟป่าและหมอกควันภาคเหนือ กองทัพภาคที่ 3 ส่วนหน้า เป็นประธานการประชุมทางไกลผ่านระบบวีดีโอคอนเฟอร์เรนซ์ กับหัวหน้าส่วนราชการและหน่วยงานที่รับผิดชอบในพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือ เพื่อติดตามการดำเนินงานแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควัน ณ สโมสรกาวิละค่ายกาวิละ มณฑลทหารบกที่ 33 จังหวัดเชียงใหม่ โดยได้มีการนำข้อสั่งการจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นรม. และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ซึ่งสั่งการให้ 17 จังหวัดภาคเหนือ เร่งจัดการปัญหาไฟป่าและการเผาอย่างเด็ดขาดโดยให้จุดความร้อนหรือ Hotspot ต้องเป็น 0 ภายในสัปดาห์นี้

ผวจ.เชียงใหม่ กล่าวว่า จากการประเมินสถานการณ์ดูแล้ว ถึงวันนี้ไฟไหม้ในเขตป่าสงวนฯ ในพื้นที่ 3 อำเภอสูงมาก พื้นที่เหล่านี้เป็นพื้นที่ทำกิน เพราะฉะนั้นต้องใช้มาตรการแจ้งความดำเนินคดี  โดยขอให้นายอำเภอแจ้งให้ผู้รับผิดชอบพื้นที่ไปแจ้งความดำเนินคดีคือทั้งสะเมิง แม่แตงและเชียงดาว ซึ่งต้องใช้กระบวนการแบบนี้  ไฟที่เกิดในพื้นที่ป่าสงวนฯเชื่อว่าเป็นพื้นที่ทำกิน เพราะฉะนั้นต้องมีเจ้าของพื้นที่ ให้เป็นผู้ต้องสงสัยไว้ก่อน เพื่อเจ้าหน้าที่จะได้ดำเนินการในกระบวนการต่อไปได้ ส่วนศูนย์บัญชาการไฟป่าฯจังหวัดเชียงใหม่ให้เอาพื้นที่ทั้งหมดมาตรวจสอบคู่ขนานการสำรวจว่าพื้นที่เหล่านั้นเป็นพื้นที่ใคร หากไม่แจ้งความดำเนินคดีถือว่าละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ โดยให้ห้องวอร์รูมแจ้งวิทยุสื่อสารสั่งการ เพราะได้แบ่งพื้นที่รับผิดชอบตั้งแต่ต้นฤดูการเกิดไฟแล้ว และให้สำเนาแจ้งรองปลัดกระทรวงทรัพย์ฯที่ประจำพื้นที่ มิฉะนั้นจะเอาไม่อยู่ จุดความร้อนมันเกิดขึ้นมากเกินกำลังที่จะไปดับ

“ให้เลขานุการวอร์รูม แจ้งทางวิทยุสื่อสารถึงนายอำเภอทั้ง 3 แห่งก่อนเที่ยงนี้ แล้วที่ต้องทำอีกคือในแต่ละปีจะมีพื้นที่เสี่ยงเกิดไฟขอให้ห้องวอร์รูมประเมินและชี้เป้าให้ทีมยูเอวีด้วย ช่วงนี้พื้นที่ป่าสงวนจุดความร้อนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ขอให้แจ้งอำเภอขอความร่วมมือกลุ่มบุคคลที่สำรวจไว้แล้วว่า ช่วงนี้เป็นช่วงห้ามเผาเด็ดขาด หากเกิดไฟไหม้ เจ้าตัวจะมาอ้างว่าทำแนวกันไฟแล้วเหมือนที่บ้านปง อ.หางดงไม่ได้ แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับพยานหลักฐานด้วย”นายเจริญฤทธิ์ กล่าว

ทางด้านนายสุเจตน์  มงคลไชยสิทธิ์ ผอ.ส่วนควบคุมและปฏิบัติการไฟป่า สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 16 กล่าวว่า ในส่วนของดอยสุเทพจุดเสี่ยงของการเกิดไฟอยู่แถวต.แม่แรม 2 จุด ทางชุมชนกำลังเข้าดำเนินการส่วนพื้นที่เฝ้าระวังคือด้านหน้าพระธาตุตั้งแต่เหนือน้ำตกมณฑาธาร และเหนือแนวถนน ซึ่งทีม CEO ดอยสุเทพ ผอ.ส่วนอุทยานฯได้วางกำลังจุดสกัดร่วมกับจนท.และชุมชนรอบข้าง รวมทั้งลาดตระเวนไว้ 2-3 วันแล้ว นอกจากนี้มีทีมเข้าไปเก็บไฟไหม้ตอ ซึ่งมีเยอะมาก โดยเฉพาะแถวน้ำตกไทรย้อย โดยใช้มีดและขวานไปตัดและใช้น้ำดับ ซึ่งก็ยอมรับว่าอุปกรณ์ที่ใช้เก็บไฟยังเป็นอุปกรณ์รุ่นเก่า

อย่างไรก็ตาม นายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้กล่าวเน้นย้ำอีกว่า ในยามวิกาลถนนเส้นหลักขึ้นดอยสุเทพฯจะต้องมีการตั้งด่าน 24 ชั่วโมง แม้ทางเข้าอุทยานฯจะมีเส้นทางเข้ามาจากโป่งแยง อ.แม่ริมและบ้านปง อ.หางดง ขอให้ใช้หลักการเดียวกับการตั้งด่านโควิดฯ  โดยให้ตรวจบัตรทุกคน จดเวลา เข้าออก โดยเฉพาะจากโป่งแยงยังมาดอยสุเทพได้ เพราะชาวเชียงใหม่ก็ข้องใจว่าเมื่อประกาศปิดอุทยานฯแล้ว ไฟทำไมเกิดขึ้นได้อีก และไม่มีเหตุผลจำเป็นเลยที่คนจากโป่งแยงจะต้องเดินทางมาที่ดอยสุเทพฯ ยามวิกาล โดยขอกำลังทหารมาช่วยอยู่ที่ด่านเพิ่มจากที่ลาดตระเวนและเฝ้าระวังอยู่ด้านบนพระธาตุฯ

“วันนี้ให้เริ่มเลย ทุกเส้นทางขึ้นสู่ดอยสุเทพฯต้องมีด่านตลอด24 ชั่วโมง แต่ไม่ได้หมายความว่าไม่ให้เข้า แต่ให้ตรวจทุกคนที่เข้ามา คนไหนถ้าไม่มีบัตร ให้ใช้พรบ.บัตรฯดำเนินคดี และจะออกคำสั่งให้ทหารมาเป็นเจ้าพนักงานฯประจำด่านด้วย เพื่อดำเนินการจุดนี้ เพราะที่ผ่านมาขนาดปรับวิธีการทำงานหลายอย่างแล้วก็ยังไม่สามารถหยุดไฟดอยสุเทพได้เลย แล้วขอให้ห้องวอร์รูมตรวจสอบพื้นที่ไฟไหม้ป่าที่อ.แม่แจ่ม สะเมิง แม่แตงและ อมก๋อย ทั้งพิกัด พื้นที่ของใคร หากทำไม่ได้จะให้มช.มาช่วยเพื่อจะทำเป็นหลักฐานในการแจ้งความดำเนินคดี”ผวจ.เชียงใหม่ กล่าว

ขณะที่นาวาอากาศเอกนรุธ กำเนิดนักตะ ผู้บังคับการกองบิน 41 กล่าวว่า ในการใช้อากาศยานหรือวัตถุใดที่ลอยขึ้นฟ้าขอให้แจ้งทางศูนย์วิทยุการบินและศูนย์บัญชาการกองบิน 41ด้วย ทั้งเครื่องบินดับไฟ โดรน หรือเฮลิคอปเตอร์ รวมทั้งอากาศยานไร้คนขับ เพราะจะได้จัดระบบการบิน การขึ้นลงของอากาศยานด้วย สำหรับอากาศยานไร้คนขับของกองทัพอากาศหรือ ยูเอวี ในช่วงเช้าวันนี้จะเริ่มทำการเซ็ทระบบ และพร้อมปฏิบัติภารกิจวันที่ 3 เม.ย.นี้ ซึ่งยูเอวีนี้นอกจากตรวจพิกัดการเกิดไฟได้แล้ว ยังสามารถจับภาพคนได้ด้วย

You may also like

builds มช. ขนทัพสตาร์ทอัพนักศึกษาคับคั่ง พิสูจน์ความสำเร็จ ตั้งบริษัทจริงระหว่างเรียน

จำนวนผู้