ผู้ว่าฯเชียงใหม่รับมอบอาหารและสิ่งของสนับสนุนจากเครือเจริญโภคภัณฑ์ เพื่อส่งต่อให้กับอาสาสมัครดับไฟป่า ด้านผู้บริหารซีพียันใช้ระบบตรวจสอบย้อนกลับรับซื้อข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ แต่การสนับสนุนครั้งนี้เพื่อให้กำลังใจผู้ปฏิบัติงานพร้อมมอบกองทุนให้อ.แม่แจ่มต่ออีก 1 ปี 
ที่ห้องอำนวยการสั่งการแก้ไขปัญหาหมอกควันและไฟป่าจังหวัดเชียงใหม่นายปวิณ ชำนิประศาสน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมด้วย นายชานนท์ คำทอง ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดเชียงใหม่ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับมอบสิ่งของจากกลุ่มบริษัทเครือเจริญโภคภัณฑ์ ประกอบด้วยอาหารพร้อมรับประทานจำนวน 20,700 ชุด อุปกรณ์ดับไฟป่าจำนวน 46 ชุด และ อินเตอร์เน็ตไฟเบอร์ เพื่อให้เจ้าหน้าที่หน่วยกำลังลาดตระเวนป้องกันและหมอกควันและไฟป่า ใน 23 อำเภอของจังหวัดเชียงใหม่ใช้ในการเฝ้าระวังและดับไฟป่า
ผวจ.เชียงใหม่ กล่าวว่า เนื่องจากปีนี้พบพื้นที่ถูกเผาไหม้มากกว่าปีที่ผ่านมาและเจ้าหน้าที่ทุกคนพยายามทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุดและมีอาสาสมัครประจำหมู่บ้านเข้าไปร่วมดับไฟ เป็นการทำด้วยใจขณะที่ราชการจะมีเบี้ยเลี้ยงอยู่ ดังนั้นการที่มีเอกชนมาสนับสนุนทั้งอาหาร เครื่องดื่มและอุปกรณ์ดับไฟจะช่วยให้อาสาสมัครเหล่านี้ได้เห็นถึงความเสียสละ ทุ่มเทในการช่วยกันดับไฟป่า เพราะเวลาออกไปช่วยดับไฟก็ไม่ต้องกังวลแล้วว่าจะต้องไปทำมาหากิน เพราะมีอาหารให้กินแล้ว
ขณะที่นายจอมกิตติ ศิริกุล ผู้บริหารโครงการพิเศษเครือเจริญโภคภัณฑ์ กล่าวว่า เครือเจริญโภคภัณฑ์ทั้งในเครือเจริญโภคภัณฑ์อาหารและกลุ่มบริษัททรู คอร์ปอเรชั่น ซึ่งปัญหาหมอกควันไฟป่าทางเครือบริษัทฯได้เข้ามาสนับสนุนจังหวัดเชียงใหม่เต็มกำลัง ซึ่งปีที่แล้วจังหวัดเชียงใหม่มีค่าจุดความร้อนลดน้อยลงกว่าจังหวัดในภาคเหนือและจะนำแนวทางของปีที่แล้วมาสานต่อ และให้กำลังใจพร้อมสนับสนุน ซึ่งทราบว่าขณะนี้สถานการณ์เริ่มมีความรุนแรงขึ้น
“วันนี้ภาครัฐ ภาคประชาสังคมและประชาชนกำลังร่วมกันขับเคลื่อนและซีพีก็พร้อมที่จะเข้ามาช่วย โดยเฉพาะอาสาสมัครที่กระจายในแต่ละอำเภอในการช่วยดับไฟ เฝ้าระวังและลาดตระเวน รวมถึงเจ้าหน้าที่ของกรมอุทยานฯ ป่าไม้และมหาดไทยด้วย ซึ่งผวจ.เชียงใหม่บอกอาสาสมัครเหล่านี้ไม่มีค่าตอบแทนและค่าน้ำมัน ทางซีพีซึ่งผลิตอาหารจึงได้มอบผลิตภัณฑ์อาหารพร้อมรับประทาน มีข้าวและกับข้าวอยู่ในซองเดียวกันสามารถอยู่ได้อุณหภูมิปกติได้นานถึง 18 เดือนจึงเหมาะกับหน่วยลาดตระเวนในพื้นที่ และในบางภารกิจที่ขาดอุปกรณ์อำนวยความสะดวกเช่น เครื่องเป่าลมที่ดับไฟและไม่ให้ลุกลาม รวมถึงตัวฉีดน้ำ ไม้ตบทางซีพีได้สนับสนุนมาให้ 23 อำเภอด้วย”ผู้บริหารโครงการพิเศษเครือเจริญโภคภัณฑ์ กล่าวและชี้แจงอีกว่า
ปีที่แล้วทางซีพีได้สนับสนุนกองทุนให้กับอำเภอแม่แจ่ม และปีนี้ก็ยังให้ความสำคัญโดยปีที่แล้วอ.แม่แจ่มสามารถลดจุดความร้อนได้มากที่สุดใน 25 อำเภอของเชียงใหม่จึงได้ต่ออายุกองทุนให้แม่แจ่มอีก 1 ปี และยังได้สนับสนุนไวไฟไฟเบอร์ออฟติคให้เพื่อให้การสื่อสารได้เร็วขึ้น ซึ่งปัญหาหมอกควันไฟป่านอกจากจะกระทบทรัพยากรธรรมชาติแล้ว ยังมีผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน จึงอยากให้กำลังใจกับเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วน
ภายหลังการส่งมอบสิ่งของนายจอมกิตติ ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมว่า ทางเครือเจริญโภคภัณฑ์มีนโยบายชัดเจนเกี่ยวกับระบบตรวจสอบย้อนกลับเรื่องข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ซึ่งก่อนที่จะรับซื้อต้องมีการตรวจสอบแหล่งที่มาเนื่องจากข้าวโพดเหล่านี้จะถูกนำไปผลิตอาหารสัตว์และเงื่อนไขการค้าบีบรัดประเทศไทยและตลาดหรือลูกค้าจะเป็นผู้เข้ามากำกับตั้งแต่กลางน้ำ และต้นน้ำ เมื่อไม่สามารถชี้แหล่งวัตถุดิบมาจากไหนจะลำบากทั้งซัพพลายเชน ดังนั้นระบบตรวจสอบย้อนกลับจะเป็นตัวทำให้ลูกค้ายอมรับ และในเรื่องการลงทะเบียนตรวจสอบย้อนกลับทำตั้งแต่ปลายปี 2558 และมีผลตั้งแต่ต้นปี 2559 โดยได้ลงทะเบียนเกษตรกร ผู้รวบรวมรายใหญ่ หัวสีรายย่อยซึ่งมีการสื่อสารกันมาโดยตลอด
“แต่วันนี้ต้องยอมรับว่าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ยังปลูกในแหล่งที่ไม่ถูกต้องมากนักและเป็นอีกปัญหาที่ต้องร่วมกันแก้ไข ลำพังเอกชนหรือผู้ซื้อหรือเอกชนเป็นเพียงผู้เล่นรายหนึ่งเท่านั้น แต่กฎหมายเกี่ยวกับพื้นที่ปลูก พ่อค้า ทุนในท้องถิ่นที่ให้เกษตรกรก็ต้องร่วมกันแก้ไข เพราะปัญหาหมอกควันไฟป่าเป็นปัญหาระดับภูมิภาค การแก้ไขต้องร่วมกัน และซีพีมาครั้งนี้เป็นการมาให้กำลังใจผู้ปฏิบัติงาน”ผู้บริหารโครงการพิเศษเครือเจริญโภคภัณฑ์ กล่าวชี้แจง.
