ผู้ว่าฯยัวะสั่งอำเภอสำรวจข้อมูลไม่ขยับ ยันไม่ยอมให้อยู่วังวนเดิม จี้รองฯคมสันเปิดศูนย์บัญชาการสั่งการ 5 ม.ค.นี้

ผู้ว่าฯยัวะสั่งอำเภอสำรวจข้อมูลไม่ขยับ ยันไม่ยอมให้อยู่วังวนเดิม จี้รองฯคมสันเปิดศูนย์บัญชาการสั่งการ 5 ม.ค.นี้

ผู้ว่าฯเชียงใหม่ยัวะสั่งอำเภอสำรวจข้อมูลการใช้ประโยชน์ในพื้นที่ไม่คืบหน้า หลังสุ่มลงพื้นที่ไม่มีใครรู้ กำชับรองผู้ว่าฯลงไปคุมและส่งรายงานภายในสัปดาห์หน้า ลั่นจะไม่ยอมให้ประชาชนลงชื่อไล่ผู้ว่าฯแต่จะลงมาจัดการตัวปัญหาเอง จี้เปิดศูนย์บัญชาการสั่งการระดับจังหวัด 5 มี.ค.จัดจนท.อยู่ 24 ชั่วโมงพร้อมให้ทุกอำเภอเปิดพร้อมกันประสานการทำงานอย่างเป็นระบบ

เมื่อวันที่ 2 ม.ค.63 ที่ห้องประชุม 3 อาคารอำนวยการศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ นายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานประชุมคณะกรรมการแก้ไขปัญหาฝุ่นควันจังหวัดเชียงใหม่ ประจำปีงบประมาณ 2563 โดยผวจ.เชียงใหม่ กล่าวว่า ที่เชิญประชุมคณะกรรมการฯในวันแรกของการทำงานต้นปีเพื่อขอติดตามความก้าวหน้าจากข้อสั่งการที่ได้มอบหมายให้หน่วยงานที่รับผิดชอบไปดำเนินการตั้งแต่เดือนต.ค.ที่ผ่านมา โดยเฉพาะการสำรวจบัญชีผู้เกี่ยวข้องกับกิจกรรมในพื้นที่ป่า ทั้งรายชื่อ จำนวนผู้ที่มีอาชีพล่าสัตว์ ผู้ที่หาของป่าและผู้ที่ทำการเกษตรและอื่นๆ เพื่อที่จะได้วางแผนในการบริหารจัดการเชื้อเพลิง เพราะปีนี้จังหวัดเชียงใหม่จะไม่ใช่รูปแบบเดิม แต่จะพิจารณาตามสภาพพื้นที่และสภาพภูมิอากาศและหลักวิชาการเพื่อให้การบริหารจัดการเชื้อเพลิงเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ

อย่างไรก็ตามหลังจากเข้าสู่วาระเพื่อทราบซึ่งทางสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการฯ ได้รายงานข้อมูลว่ามีอำเภอที่จัดส่งข้อมูลมาให้แล้ว 7 อำเภอใน 25 อำเภอประกอบด้วย อ.ดอยเต่า อ.สันทราย อ.เมืองเชียงใหม่ อ.แม่แตง อ.หางดง อ.สันกำแพงและอ.ไชยปราการ ขณะที่อีก 18 อำเภอยังไม่ได้จัดส่งรายงานมาให้ทางฝ่ายเลขาฯ ทำให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่หงุดหงิดทันที โดยกล่าวในที่ประชุมว่า เรื่องการสำรวจบัญชีผู้เกี่ยวข้องกับกิจกรรมในพื้นที่ป่าได้สั่งการและมอบหมายไปแล้วทั้งสำนักจัดการป่าไม้ที่ 1 สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 16 ทั้งเกษตรจังหวัด ทั้งอำเภอโดยสั่งการตั้งแต่เดือนต.ค.และติดตามสอบถามมาหลายครั้งจนกระทั่งกำหนดสุดท้ายให้จัดทำแผนและรายงานส่งมาให้ตั้งแต่กลางเดือนธันวาคม

“ช่วงที่ออกไปตรวจเยี่ยมด่านตรวจอุบัติภัยทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่และลงพื้นที่ไปก่อนหน้านั้น 2-3 อำเภอก็ยังไม่มีใครตอบได้จึงคิดว่าหากปล่อยให้เป็นเช่นนี้ก็จะกลับเข้าวังวนเดิม พอถึงช่วงเม.ย.ก็จะมีการเข้าชื่อไล่ผู้ว่าฯอีก แต่ผมจะไม่รอให้ใครมาไล่ ผมจะไล่พวกคุณก่อน ผมสั่งไปนานแล้วไม่ใช่เพิ่งสั่ง จะมาปล่อยให้เป็นแบบเดิมไม่ได้ เรื่องวิธีการปฏิบัติก็ให้คำแนะนำไปแล้ว พื้นที่ไหนคาบเกี่ยวพื้นที่ป่าไม้ พื้นที่อุทยานก็บอกให้ทำประชาคมออกมา ถึงเวลาจุดความร้อนหรือ Hot Spot เกิดขึ้นก็จะเป็นแบบเดิม เพราะไม่รู้ว่าใครทำ ใครเผา จะไปดำเนินการกับใคร วันนี้ผมสั่งเลยให้ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัด ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด(ปภ.)และปลัดจังหวัดเชียงใหม่ไปหาคำตอบมาให้ได้ว่าทำไม 25 อำเภอที่สั่งไปส่งมาให้แค่ 7 ที่เหลือทำอะไรอยู่”ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวและว่า

หากไม่มีข้อมูล การบริหารจัดการเชื้อเพลิงก็ทำไม่ได้ปีนี้จะไม่ประกาศทีเดียว แต่จะบริหารเป็นพื้นที่ ระบบบริหารจัดการก็ให้นายอำเภอเป็นซิงเกิ้ลคอมมานในพื้นที่ มีศูนย์สั่งการระดับจังหวัด และศูนย์สั่งการระดับอำเภอแล้ว แต่ตอนนี้ยังไม่สามารถจัดระบบข้อมูลได้เลย ไม่รู้ว่าเชื้อเพลิงในพื้นที่มีเท่าไหร่ เวลาที่เหมาะสมควรจะเป็นช่วงใด บอกไปแล้วทำไมไม่ทำ อำเภอต้องให้ปลัดอำเภอหรือตัวเองลงไปในพื้นที่ไปคุยกับชาวบ้านด้วย เพราะจะไปสั่งเขาไม่ให้เผาเลยก็ไม่ได้ มันต้องมีการบริหารจัดการที่ถูกต้อง แต่มาจนป่านนี้เหมือนไม่มีการขยับตัวทำอะไรเลย จะยึดแบบเดียวคือใช้ข้อมูลฝั่งราชการฝ่ายเดียวไม่ได้มันต้องมีระดับพื้นที่ พื้นที่เกษตรมีเท่าไหร่ พื้นที่ป่าเท่าไหร่ จะมาให้เกิดเหตุการณ์เดิมๆ เวลามีจุดความร้อนเกิดขึ้นถามอำเภอๆ บอกพื้นที่ป่าไม้ ถามป่าไม้ก็บอกไม่รู้ พวกท่านเป็นคนดูแลพื้นที่ คนในพื้นที่ไม่รู้แล้วใครจะรู้ แสดงว่าละทิ้งหน้าที่กัน

ผวจ.เชียงใหม่ กล่าวอีกว่า จริงๆ ที่เรียกประชุมวันนี้วันแรกทำการของต้นปีก็เพราะนึกอยู่แล้วว่าข้อมูลที่สั่งไปต้องไม่ออกแน่เพราะลงพื้นที่ไปไม่เห็นมีใครขยับเลย จะมาใช้คำสั่ง 60 วันห้ามเผาเด็ดขาดแบบเดิมโดยให้ฝ่ายรัฐออกประกาศไม่ได้ ต้องฟังชาวบ้านด้วยว่าเขามีความจำเป็นแค่ไหน วันนี้ขอมอบหมายให้นายคมสัน สุวรรณอัมพา รองผวจ.เชียงใหม่ไปกำกับดูด้วยว่า ป่าไม้ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ฯ ปลัดจังหวัดและนายอำเภอได้ทำตามข้อสั่งการรึยังแล้วให้ทำรายงานสรุปเสนอมาด้วยสัปดาห์หน้า ให้เช็คพื้นที่ป่าทั้งหมดตามแนวทางที่ให้ไป ให้ศูนย์ฯอำเภอรายงานมายังศูนย์สั่งการจังหวัด แล้วศูนย์ฯสั่งการจังหวัดให้เปิดทำงาน 24 ชั่วโมงด้วยไปตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ไฟป่าและหมอกควันที่สำนักงาน อบจ.เชียงใหม่ที่มีศูนย์ฯอยู่แล้ว จัดเจ้าหน้าที่ประจำด้วย

“ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์อำเภอต้องเป็นศูนย์รวมของการบูรณาการในพื้นที่ อย่าอ้างเจ้าหน้าที่มีน้อย งบประมาณไม่มี ในฐานะเจ้าของพื้นที่จะต้องรับผิดชอบ ไม่มีใครรู้เรื่องในบ้านได้ดีเท่าเจ้าของบ้าน ผู้ที่มีอาชีพหาของป่ามีกี่คน ใครบ้าง ใครจะเข้า ออกป่าต้องรู้ กำหนดห้วงเวลาบริหารเชื้อเพลิงในพื้นที่เมื่อไหร่ สำหรับ ปภ.หลังช่วงเทศกาลปีใหม่ก็ให้มารับผิดชอบงานนี้ทันที วันที่ 3 ม.ค.งานอุบัติเหตุทางถนนก็จบแล้วให้มาดูเรื่องไฟป่าหมอกควันทันที”นายเจริญฤทธิ์ กล่าว

จากนั้นนายสมคิด ปัญญาดี ผอ.ส่วนยุทธศาสตร์ สนง.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดเชียงใหม่ ได้รายงานข้อมูลหอกระจายข่าว ข้อมูลแผนชิงเผา มาตรการห้ามเผา ซึ่งปรากฏว่าข้อมูลเกี่ยวกับการลดปริมาณเชื้อเพลิงหรือชิงเผาและแผนเผชิญเหตุมีข้อมูลเพียง 17 อำเภอขาดอีก 8 อำเภอที่ยังไม่ส่งส่วนข้อมูลหอกระจายข่าวที่สำรวจทั้ง 25 อำเภอ ที่อยู่ในเขตเทศบาลมีจำนวน  1,483 จุด ใช้การได้ 1,147 จุด เสียอยู่ระหว่างรอการซ่อมแซม 66 จุด และมีหอกระจายข่าวที่ไม่มีกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน 144 จุดแต่ใช้การได้ดีอยู่ และมีวิทยุชุมชนในพื้นที่ 77 แห่ง

นายเจริญฤทธิ์ กล่าวในที่ประชุมว่า ในช่วงสัปดาห์ก่อนจะถึงช่วงเทศกาลปีใหม่ที่คุณภาพอากาศของจังหวัดเชียงใหม่ ค่าตรวจวัดรายชั่วโมงสูงบ่งชี้ให้เห็นถึงระบบการแจ้งเตือนประชาชนยังไม่มีและไม่เป็นระบบ ซึ่งหากไม่มีฝนและลูกเห็บตกในพื้นที่คุณภาพอากาศอาจจะไม่กลับมาดีแบบนี้ เพราะฉะนั้นจะต้องแก้ปัญหาใหม่ ซึ่งทางสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่เป็นผู้รับผิดชอบจะต้องให้อสม.เป็นผู้แจ้งเตือนแทนอำเภอ ดังนั้นจะต้องมีการซักซ้อมด้วยว่าทุก 7 โมงเช้าให้เปิดแอพพลิเคชั่นตรวจเช็คคุณภาพอากาศในพื้นที่และทุก3 ชั่วโมงให้ตรวจสอบอีกเพื่อที่จะได้แจ้งเตือนประชาชนและให้ประสานกับทางสถาบันการศึกษา ที่ต้องให้โรงเรียนแต่งตั้งผู้รับผิดชอบที่จะได้ประสานแจ้งเตือนดูแลเด็กนักเรียนได้ในช่วงที่คุณภาพอากาศมีผลกระทบต่อสุขภาพ และให้ประเมินความต้องการหน้ากากด้วยว่าจะต้องใช้มากน้อยแค่ไหนเพื่อจะได้ประสาน อบจ.เชียงใหม่ในการจัดซื้อหน้ากากเพื่อแจกจ่ายด้วย

“ในวันที่ 19 ม.ค.นี้จะมีการเปิดตัวแอพพลิเคชั่น Air CMI ซึ่งทางคณะกรรมการบริหารราชการแผ่นดิน ตามกรอบการปฏิรูปประเทศยุทธศาสตร์ชาติ และการสร้างความสามัคคีปรองดอง หรือ ป.ย.ป.ได้พัฒนาระบบ Air CMI ขึ้นมาเพื่อใช้ในการตรวจวัดคุณภาพอากาศในจุดต่างๆ ของจังหวัดเชียงใหม่ เป็นการเชื่อมโยงข้อมูลจากหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นกรมอุตุนิยมวิทยา กรมควบคุมมลพิษ ข้อมูลจุด Hotspot จากดาวเทียมต่างๆ โดยได้ติดตั้งเครื่องวัดอากาศ Dust Boy แล้วกว่า 100 จุดทั่วจังหวัดเชียงใหม่ สามารถรายงานค่าอากาศที่เป็นปัจจุบัน ซึ่งจะทำให้จังหวัดเชียงใหม่ได้มีข้อมูลในการวิเคราะห์ เพื่อดำเนินการสั่งการในภาวะที่ประสบปัญหาหมอกควัน โดยเชียงใหม่จะเป็นจังหวัดนำร่อง”ผวจ.เชียงใหม่ กล่าวและว่า

ในวันที่ 14 ม.ค.นี้ ทางป.ย.ป.ประสานแจ้งให้ทราบว่าจะมีการนำเรื่องเข้าครม.เพื่อยกเลิกมติครม.เดิมที่ให้ใช้ค่าตรวจวัดคุณภาพอากาศของกรมควบคุมมลพิษเป็นมาตรฐานกลางในการประกาศแจ้งเตือนประชาชน แต่สำหรับจังหวัดเชียงใหม่ จะให้ใช้ข้อมูลจากแอพฯของป.ย.ป.เป็นค่ามาตรฐานกลางในพื้นที่ และให้ถ่ายทอดวิธีการสร้างการรับรู้ให้ประชาชนโดยผ่านอสม.ในพื้นที่ ซึ่งให้ดำเนินการเลยโดยไม่ต้องรองบประมาณโดยสร้างกระบวนการมีส่วนร่วมและไม่เกินสัปดาห์หน้าทางจังหวัดจะมีหนังสือสั่งการอย่างเป็นทางการ

สำหรับในพื้นที่เขตเมืองซึ่งมีสภาลมหายใจภาคประชาชนได้เข้ามามีส่วนร่วม และได้วางแนวทางกิจกรรมไว้แล้ว ซึ่งวันที่ 12 ม.ค.นี้จะมีการรณรงค์ลดสิ่งที่เป็นปัญหาฝุ่นควันในเขตเมือง มีการลดใช้รถยนต์หรือ Car Free Day และจะทำกิจกรรมต่อเนื่องในทุกสัปดาห์ ซึ่งจะเริ่มปักหมุดเซฟตี้โซนไม่ว่าจะเป็นร้านอาหาร ร้านกาแฟหรือสถานที่ต่างๆ ที่มีการจัดพื้นที่เป็นเขตเซฟตี้โซน โดยสร้างแนวร่วมจากภาคสังคมให้ร่วมกันปักหมุดด้วย ซึ่งจะเป็นผลดีที่จะทำให้การเผยแพร่ประชาสัมพันธ์จุดที่เป็นเซฟตี้โซนในเขตเมืองให้กับนักท่องเที่ยวได้ทราบด้วย

ผวจ.เชียงใหม่ กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ให้กอ.รมน.จังหวัดเชียงใหม่ ประสานไปยังกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ ให้จัดทำระบบการรับแจ้งเหตุ หากมีการพบการเผา รวมไปถึงการบังคับใช้กฎหมายด้วยและให้กอ.รมน.บูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการทำงานแบบปีที่ผ่านมาทั้งการตรวจโรงงาน รถควันดำ พื้นที่ก่อสร้างต่างๆ เพื่อลดการเกิดฝุ่นควัน นอกจากนั้นขอให้ทาง Gisda แจ้งการตรวจพบจุด Hot Spot พร้อมชี้เป้าที่ชัดเจนก่อนเวลา 8.00 น.เพื่อจะได้ให้ทางอำเภอจัดทีมลงพื้นที่ เพื่อจะได้ป้องกันไฟลุกลามด้วย.

 

You may also like

ผบ.นบ.ยส.35 ลงพื้นที่อำเภอไชยปราการ เพื่อตรวจเยี่ยมกำลังพลเพิ่มความเข้มก่อนหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์

จำนวนผู้