ผู้ว่าฯจี้เจ้าท่าเร่งสำรวจลำเหมือง คลองและแม่น้ำเพื่อชี้แนวเขต หวังเร่งจัดการปัญหาการบุกรุกที่สาธารณะและสร้างกีดขวางทางน้ำ

ผู้ว่าฯจี้เจ้าท่าเร่งสำรวจลำเหมือง คลองและแม่น้ำเพื่อชี้แนวเขต หวังเร่งจัดการปัญหาการบุกรุกที่สาธารณะและสร้างกีดขวางทางน้ำ

ผู้ว่าฯจี้เจ้าท่าเร่งสำรวจลำเหมือง คลองและแม่น้ำเพื่อชี้แนวเขต หวังเร่งจัดการปัญหาการบุกรุกที่สาธารณะและสร้างกีดขวางทางน้ำ เปิดทางชัยยะของเมืองให้รุ่งเรืองอีกครั้ง ด้านปลัดทบ.นครเชียงใหม่เผยส่งหนังสือแจ้งเจ้าของบ้าน 12 หลังที่สร้างบุกรุกลำเหมืองร้องเรือนคำ ชี้เป็นการดำเนินการตามพ.ร.บ.ควบคุมอาคารเท่านั้น

ที่หอประชุมเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา นายปวิณ ชำนิประศาสน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานประชุมหัวหน้าส่วนราชการประจำเดือนมิถุนายน โดยผวจ.เชียงใหม่ได้เน้นย้ำและขอความร่วมมือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาการบุกรุกที่สาธารณะ โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝนซึ่งเมื่อฝนตกลงมาปริมาณมากและน้ำระบายไม่ทันทำให้ท่วมขังเป็นเวลานาน

ผวจ.เชียงใหม่ กล่าวอีกว่า จากกรณีน้ำท่วมขังที่บริเวณด้านหน้าและด้านหลังศูนย์วัฒนธรรมจังหวัดเชียงใหม่ รวมไปถึงถนนศรีปิงเมืองมีประชาชนได้มาร้องเรียนที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดเชียงใหม่ เนื่องจากได้รับความเดือดร้อนและได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมขัง และจากการลงพื้นที่ตรวจสอบร่วมกับหลายหน่วยงานจึงพบว่ามีการสร้างอาคาร สิ่งปลูกสร้างในที่สาธารณะและกีดขวางทางระบายน้ำ โดยในส่วนของท้องถิ่นก็ขอให้เร่งดำเนินการในส่วนที่รับผิดชอบ สำหรับสำนักงานเจ้าท่าที่ 1 เชียงใหม่ก็ขอฝากให้ไปสำรวจให้เรียบร้อย ทั้งคู คลอง ลำเหมือง แม่น้ำที่อยู่ในความรับผิดชอบ เพราะหากเจ้าท่าฯไม่ขยับก็ทำให้หน่วยงานอื่นๆ ทำงานลำบาก

“มีหลายส่วนที่ต้องเร่ง โดยเฉพาะคลองแม่ข่าซึ่งถือเป็นชัยยะของเมืองเชียงใหม่ มีปัญหามากมายและเจ้าท่าฯในฐานะเจ้าพนักงานก็ต้องเร่งสำรวจตรวจสอบให้เรียบร้อย หากไม่ดำเนินการหรือยังเพิกเฉยเมื่อเกิดเรื่องขึ้นมาก็จะต้องถูกดำเนินการด้วย ในส่วนของพื้นที่ก็ขอให้ท้องถิ่นไปตรวจสอบและแจ้งความดำเนินคดีทำตามลำดับขั้นตอนแล้วแจ้งให้เจ้าของอาคาร สิ่งปลูกสร้างเหล่านั้นรื้อถอนและเรื่องที่ทำนี้ไม่ใช่การกลั่นแกล้งแต่เจ้าหน้าที่รัฐก็ต้องดูแลพื้นที่สาธารณะ”นายปวิณ กล่าว

ทางด้านนายสรวมไชย มีสมศักดิ์ ปลัดเทศบาลนครเชียงใหม่ กล่าวในที่ประชุมหัวหน้าส่วนราชการจังหวัดเชียงใหม่ว่า หลังจากที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดเชียงใหม่แจ้งให้เทศบาลนครเชียงใหม่ในฐานะเจ้าของพื้นที่ลงไปตรวจสอบพื้นที่ร่วมกับเจ้าหน้าที่ของอำเภอเมืองเชียงใหม่และสำนักงานที่ดินจังหวัดเชียงใหม่ บริเวณหลังศูนย์วัฒนธรรมนั้น ก็พบว่ามีการบุกรุกลำเหมืองร้องเรือคำ ซึ่งอยู่ด้านหลังศูนย์วัฒนธรรมและพบว่ามีการปลูกสร้างบ้านเรือนบุกรุกลำเหมืองจำนวน 12 หลัง

ในจำนวนนี้พบว่าเป็นอาคารไม้ชั้นเดียวไม่มีเลขที่ 1 หลัง อาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก 2 ชั้น 2 หลัง อาคารคอนกรีตเสริมเหล็กชั้นเดียว8 หลังและอาคารไม้ชั้นเดียว 1 หลัง อีกอาคารเป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็กชั้นเดียวและอาคารไม้ชั้นเดียวแต่ใช้เลขที่บ้านเดียวกัน ซึ่งได้ให้งานควบคุมการก่อสร้างอาคารส่งเรื่องรายงานต่อทางอำเภอแล้ว เพราะในส่วนของเทศบาลนครเชียงใหม่จะดำเนินการตามพ.ร.บ.ความคุมอาคารเท่านั้น คือในส่วนของอ.3 ได้แจ้งให้ระงับการก่อสร้าง ค.4 คือห้ามใช้อาคาร และค.9 ให้มายื่นขออนุญาตให้ถูกต้องภายใน 30 วัน

“ในส่วนของการยื่นขออนุญาตให้ถูกต้องภายใน 30 วันคงไม่สามารถดำเนินการได้แน่ เพราะเจ้าของบ้านเหล่านี้ไม่มีเอกสารสิทธิ์ที่ดินของตัวเอง เนื่องจากปลูกสร้างในที่สาธารณะ และหากพ้น 30 วันตามที่มีหนังสือแจ้ง เทศบาลฯก็จะออกค.15 คือแจ้งให้เจ้าของอาคารเหล่านั้นรื้อถอน ซึ่งจริงๆ วันนี้ก็มีชาวบ้านกลุ่มนี้มาที่เทศบาลฯหลังได้รับหนังสือ ทางเจ้าหน้าที่ก็ชี้แจงรายละเอียดให้ทราบ เห็นว่าชาวบ้านจะมายื่นเรื่องที่ศูนย์ดำรงธรรมอีกขอใช้พื้นที่ดังกล่าว แต่ก็คงจะยากเพราะเป็นที่สาธารณะ และที่ผ่านมาคือบ้านเหล่านี้ปลูกสร้างกีดขวางทางน้ำจากลำเหมืองร้องเรือคำก็จะไปลงคลองแม่ข่าที่บริเวณป่าแดด ที่มีปัญหามากในคราวก่อน”ปลัดเทศบาลนครเชียงใหม่ กล่าวชี้แจง.

You may also like

builds มช. ขนทัพสตาร์ทอัพนักศึกษาคับคั่ง พิสูจน์ความสำเร็จ ตั้งบริษัทจริงระหว่างเรียน

จำนวนผู้