ปชป.เปิดตัวว่าที่ผู้สมัครส.ส.16 จังหวัดภาคเหนือ 62 เขตเลือกตั้ง “อภิสิทธิ์”ชูนโยบาย 3 ด้าน แก้จน สร้างคน สร้างชาติ ยันไม่เลิกบัตรสวัสดิการแต่จะปรับเปลี่ยนเป็นเงินไม่บังคับซื้อสินค้าร้านประชารัฐ ประกันราคาสินค้าเกษตรทุกชนิด ระบุให้เลือกตั้งผู้ว่าฯทุกจังหวัด เหน็บจะเป็นรัฐบาลที่ไม่ดุคนอื่นตลอดเวลา เคารพการตรวจสอบของประชาชนและสื่อฯ ชี้อดีตนายกฯ 7 คนจากปชป.ไม่เคยมีมลทินเรื่องทุจริต คอรัปชั่น
วันที่ 27 ม.ค.62 ที่พุทธสถานเชียงใหม่ พรรคประชาธิปัตย์นำโดยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์พร้อมด้วยนายจุติ ไกรฤกษ์ เลขาธิการพรรคและกรรมการบริหารพรรค ตลอดจนอดีตส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ได้เปิดตัวว่าที่ผู้สมัครส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ แบบแบ่งเขตเลือกตั้งภาคเหนือ 16 จังหวัด 62 เขตเลือกตั้ง โดยมีกลุ่มผู้สนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์จาก 16 จังหวัดกว่า 2,000 คนเข้าร่วมกิจกรรม โดยก่อนหน้านั้นนายอภิสิทธิ์และนายจุติ ได้เดินทางไปสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์สามกษัตริย์ และเดินทางมาพบปะกับมวลชนที่พุทธสถานเชียงใหม่ซึ่งมีนางศิริวรรณ ปราศจากศัตรู รองหัวหน้าพรรคฯ นำทีมว่าที่ผู้สมัครส.ส.ภาคเหนือทั้งหมดของพรรคฯขึ้นแสดงตัวบนเวที
นางศิริวรรณ กล่าวว่า ว่าที่ผู้สมัครส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้งของพรรคประชาธิปัตย์ภาคเหนือ 16 จังหวัด 62 เขตเลือกตั้งล้วนแต่เป็นบุคคลที่ได้รับการยอมรับจากพื้นที่ และได้รับการพิจารณาว่ามีคุณสมบัติครบถ้วน เหมาะสมที่จะเป็นส.ส.ทุกเขตเลือกตั้ง และก็มีความพร้อมที่จะลงสมัครรับเลือกตั้งในวันที่ 24 มีนาคม 2562 นี้
จากนั้นนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ได้ขึ้นเวที พร้อมแนะนำตัวว่าที่ผู้สมัครทั้ง 16 จังหวัดและกล่าวปราศรัยกับมวลชน โดยระบุว่า พรรคประชาธิปัตย์ผูกพันกับชาวเชียงใหม่และพื้นที่ภาคเหนือมากว่า 70 ปี ได้ร่วมทุกข์ ร่วมสุขกันมาตั้งแต่ผู้ก่อตั้งพรรคหลายคนซึ่งก็มาจากภาคเหนือและไม่เคยว่างเว้นในการทำงานให้พื้นที่ภาคเหนือมาโดยตลอด ซึ่งครั้งนี้ก็มีผู้ใหญ่ของพรรคฯอย่างนายเทิดพงษ์ ไชยนันท์มาด้วย
หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวอีกว่า ในการเลือกตั้งทุกครั้งพรรคประชาธิปัตย์ได้คะแนนจากประชาชนในพื้นที่ภาคเหนือคิดเป็นร้อยละ 30-40 เพียงแต่ระบบการเลือกตั้งหลายครั้งทำให้ได้ส.ส.น้อย แต่ในการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในวันที่ 24 มีนาคมนี้เปลี่ยนกติกาใหม่ ทุกคะแนนจะมีความหมาย ยิ่งเลือกมากพรรคประชาธิปัตย์ก็จะมีส.ส.มากเท่านั้น สิ่งสำคัญที่มาในวันนี้เชื่อมั่นว่าประชาชนรอการเลือกตั้งมากว่า 5 ปี ซึ่งประเทศไทยไม่เคยว่างเว้นนานแบบนี้
“ผมเข้ามาเล่นการเมืองเมื่อปี 2535 เป็นนักการเมืองมา 27 ปีไม่เคยตกงานนานเท่านี้ ตกงานยังไม่เท่าไหร่แต่ประชาชนไม่มีผู้แทนมาดูแลเป็นปาก เป็นเสียง มีปัญหาก็ไม่สามารถส่งเสียงถึงรัฐบาลได้ แล้วดูสิตอนนี้เศรษฐกิจของประเทศเป็นอย่างไร เลือกตั้งในครั้งนี้พรรคประชาธิปัตย์จะทำให้ทุกคนหลุดพ้นจากภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ให้ได้ เราอยากเห็นประเทศเดินไปข้างหน้า ไม่ใช่วนเวียนอยู่กับเลือกตั้งและปฏิวัติรัฐประหาร เพราะคนที่เดือดร้อนมากที่สุดคือประชาชน 5 ปีที่ไม่มีการเลือกตั้งประชาชนเดือดร้อน เศรษฐกิจแย่ไปหมด”นายอภิสิทธิ์ กล่าวและว่า
พรรคประชาธิปัตย์จะพาประเทศเดินหน้าโดยทำ 3 อย่างคือ แก้จน สร้างคนและสร้างชาติ ถ้าประชาธิปัตย์ได้เป็นรัฐบาลเราไม่ยกเลิกบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ แต่จะไม่บังคับต้องไปซื้อของร้านค้าประชารัฐเท่านั้นแต่จะให้เป็นเงินสดเดือนละ 800 บาทต่อคน และพรรคจะปรับปรุงระบบเพื่อช่วยเหลือผู้ยากไร้ แก้ปัญหายากจนตั้งแต่รากเหง้า ต้นตอของปัญหาโดยทำให้เกษตรกรมีกำไร
นโยบายในครั้งนี้ประชาธิปัตย์จะแก้ไขอย่างเป็นระบบ เบ็ดเสร็จและเด็ดขาดโดยเฉพาะเรื่องปัญหาที่ทำกิน จะให้มีโฉนดสีฟ้า โดยที่ดินที่มีเอกสารครอบครองทำประโยชน์จะสามารถออกเป็นโฉนดได้และทำให้เสร็จภายในระยะเวลา 4 ปี ทั้งที่ดินทำกินและที่อยู่อาศัยซึ่งพรรคจะเข้ามาชำระสะสางเพื่อให้เกิดความมั่นใจและมั่นคง เพราะสมัยที่ปชป.เป็นรัฐบาลครั้งก่อนก็ได้ทำเรื่องของโฉนดชุมชนมาแล้ว และเขตสปก.กับเขตปฏิรูปที่ดินก็จะทำให้สามารถนำไปเป็นหลักประกันกู้ยืมได้และที่ดินจะได้รับการพัฒนาเพิ่มมูลค่าสินค้าทางการเกษตรของประชาชนอีกด้วย
“ในเรื่องของแหล่งน้ำ ปชป.จะเอาน้ำเข้าถึงทุกไร่นาโดยตั้งกองทุนน้ำ ทำให้มีสระน้ำในไร่นาโดยไม่ต้องเวนคืนพื้นที่หรือทำให้เกิดการต่อต้าน แต่จะให้ชุมชนไปตกลงกันเองว่าจะเอาสระน้ำไว้ตรงไหนและสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้อย่างทั่วถึง เกษตรกรจะมีหลักประกันความมั่นคงโดยมีระบบประกันภัยพืชผล ราคาพืชผลทุกชนิดจะมีเป้าหมายในการบริหารราคา เบี้ยผู้สูงอายุจะได้รับการทุกคนและเพิ่มเป็น 1,000 บาทต่อเดือน จะมีเงินสมทบเงินออมของประชาชนด้วย”หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวและปราศรัยต่อไปอีกว่า
ประชาธิปัตย์เป็นพรรคการเมืองที่เน้นการสร้างคนมาโดยตลอด มีการส่งเสริมให้ได้เรียนหนังสือตั้งแต่อนุบาลและเรียนฟรีมาจนถึง 12 ปี มีเงินกู้ยืมเพื่อการศึกษา และต่อไปจะเดินหน้าสร้างการลงทุนและทำให้ประเทศแข็งแรงโดยการสร้างคน เพื่อให้คนไปสร้างชาติโดยส่งเสริมตั้งแต่แรกเกิด ถ้าปชป.ได้เป็นรัฐบาลตั้งแต่เด็กแรกเกิดจะได้รับสิทธิ์ 1 แสนบาท และให้เรียนฟรีไปจนถึงระดับปวส. ซึ่งปชส.จะส่งเสริมตลาดแรงงานในผู้ที่จบสายอาชีพ โดยใช้ระบบอาชีวศึกษาเชื่อมต่อกับภาคเอกชน เมื่อเรียนจบแล้วทุกคนจะมีงานทำทันที
นายอภิสิทธิ์ บอกด้วยว่า ปชป.ชูนโยบายให้มีการเลือกตั้งผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด และถ้าได้เป็นรัฐบาล ประชาชนจะเป็นใหญ่ จะไม่ใช่รัฐบาลที่ดุคนอื่นตลอดเวลา จะเป็นนายกรัฐมนตรีที่ฟังเสียงของประชาชน เคารพการตรวจสอบของสื่อมวลชน องค์กรอิสระและกระบวนการยุติธรรม รวมทั้งศาลจะได้ทำงานอย่างซื่อสัตย์ สุจรติ เพราะไม่มีชาติไหนที่สร้างชาติได้โดยการทุจริต ประชาธิปัตย์จะร่วมทุกข์ ร่วมสุขกับประชาชนมานาน เป็นนายกรัฐมนตรีมาแล้วถึง 7 คน แต่ก็ไม่มีนายกรัฐมนตรีคนไหนที่สร้างมลทินในเรื่องของการทุจรติ คอรัปชั่นแม้แต่คนเดียว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครส.ส.ภาคเหนือ 16 จังหวัดแล้วนายอภิสิทธิ์และคณะเดินทางไปพบองค์กรชาวไทยเชื้อสายจีนที่ศาลเจ้าปุงเถ้ากงเชียงใหม่ เดินตลาดวโรรส เยี่ยมศูนย์อำนวยการเลือกตั้งเขต 1 เชียงใหม่ของนายพรชัย จิตรนวเสถียร และร่วมขบวนรถแห่รอบคูเมืองเชียงใหม่ ก่อนที่จะเดินแนะนำตัวที่ถนนคนเดินวันอาทิตย์และเดินทางกลับกรุงเทพฯในค่ำวันเดียวกัน.
