นายกรัฐมนตรีกลับลำ ยันที่สั่ง 7 วันให้สถานการณ์ดีขึ้น แค่อยากให้ลดปริมาณจุดความร้อน Hot Spot ลง

นายกรัฐมนตรีกลับลำ ยันที่สั่ง 7 วันให้สถานการณ์ดีขึ้น แค่อยากให้ลดปริมาณจุดความร้อน Hot Spot ลง

นายกรัฐมนตรีกลับลำ ยันที่สั่ง 7 วันให้สถานการณ์ดีขึ้น แค่อยากให้ลดปริมาณจุดความร้อน Hot Spot ลง แจงการใช้งบไม่มีปัญหา แต่ให้ทหารเข้าไปอยู่ในพื้นที่ป่าเพื่อควบคุมไม่ให้มีการเผาเกิดขึ้น

วันที่ 2 เม.ย.62 ที่ห้องประชุมอาคารเอนกประสงค์ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคเหนือ อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมติดตามสถานการณ์การจัดการและแก้ไขปัญหาหมอกควันและไฟป่าในพื้นที่ภาคเหนือ โดยมี รองนายกรัฐมนตรี,รมว.มหาดไทย,ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม,สาธารณสุขและอธิบดี แม่ทัพภาคที่ 3,ผวจ.9 จังหวัดภาคเหนือและหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียง

นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า วันนี้มาในฐานะรัฐบาลซึ่งที่ผ่านมาได้มอบหมายให้กระทรวงมหาดไทย โดยเฉพาะผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ หัวหน้าส่วนราชการทั้งหมด ดูแลพื้นที่ตามขั้นตอน และที่มาครั้งนี้ต้องการจะรับฟังการแก้ปัญหาและอุปสรรคของการทำงานในช่วงที่ผ่านมา พร้อมขอทราบแนวทางการปฏิบัติทั้งหมด

ภายหลังการประชุมนายกรัฐมนตรีได้ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนว่า ยอมรับว่าที่ขึ้นมาติดตามการแก้ไขปัญหาครั้งนี้เนื่องจากยังไม่พอใจกับผลการดำเนินงาน เนื่องจากสถานการณ์ยังไม่ดีขึ้น และไม่ได้บอกว่าจะต้องจัดการแก้ไขปัญหาให้ได้ภายใน 7 วันเพราะไม่สามารถทำได้ แต่ที่พูดหมายถึงต้องมีความคืบหน้าให้เห็น โดยเฉพาะการลดจุดความร้อนหรือ Hot Spot ซึ่งหน่วยงานที่กี่ยวข้องทั้งหมดได้กำหนดแนวทางการแก้ปัญหาในระยะแรก หรือระยะเร่งด่วน คือการเน้นลดจุดเผาไหม้หรือจุด Hotspot ที่เกิดขึ้นในพื้นที่ ซึ่งจากข้อมูลล่าสุดเมื่อวานนี้มีจุดเผามากกว่า 3,000 จุด และลดลงเหลือ 1,900 จุด ขณะที่แผนการป้องกันและแก้ปัญหาระยะกลางจะอยู่ที่ 1-2 ปี นอกจากนี้ ยังวางแผนการแก้ปัญหาในระยะยาวคือ 5 ปีขึ้นไป ย้ำว่า การบูรณาการแก้ไขปัญหาจะต้องทำให้สถานการณ์ดีขึ้นภายใน 7 วัน แต่ไม่ได้หมายความว่าจะต้องทำให้ปัญหาหมดไปได้ภายใน 7 วัน เพราะต้องยอมรับว่าปัญหานี้ต้องใช้เวลาในการแก้ปัญหา เพราะปัญหาที่เกิดขึ้นมาจากการจุดไฟเผาป่าเป็นส่วนใหญ่ และยังมีปัจจัยอื่นๆ ประกอบด้วย ดังนั้นทุกคนต้องช่วยกันสร้างความเข้าใจกับประชาชนที่จุดไฟเผาพื้นที่ทางการเกษตร และให้บังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง ที่ผ่านมาก็มีการจับกุมไปแล้วในหลายกรณี ขณะเดียวกันรัฐบาลก็คำนึงถึงผู้ที่มีผลกระทบทุกส่วนด้วย รัฐบาลจะทำงานอย่างเต็มที่และดีที่สุดเพื่อให้การแก้ปัญหาเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ

นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า การนำคณะลงพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ในวันนี้ เนื่องจากยังไม่พอใจผลของการทำงานเพื่อแก้ปัญหาหมอกควันไฟป่าในพื้นที่ แต่ไม่ใช่ไม่พอใจการทำงานของเจ้าหน้าที่ เพราะรู้ว่าทุกฝ่ายได้ทำงานอย่างเต็มที่แล้ว วันนี้ค่าของฝุ่นละอองก็มีการปรับขึ้นลงตามสถานการณ์ และจุดที่เกิดการเผาไหม้ และได้กำชับทุกฝ่ายให้ทำงานเต็มที่ หากสิ่งไหนไม่พอก็จะเสริมกำลังให้ ซึ่งตอนนี้ก็สั่งการให้กองทัพบกสนับสนุนภารกิจดับไฟป่าในพื้นที่ภาคเหนือ โดยขึ้นควบคุมทางยุทธการ กับ บก.ควบคุมสถานการณ์หมอกควันภาคเหนือ ทภ.3 สน. เพิ่มเติมจากเดิมอีกจำนวน 2 เครื่อง รวม ฮท.17 ทั้งหมด 4 เครื่อง สนับสนุนเรื่องเครื่องเป่าลมสำหรับดับไฟและจัดทำแนวกันไฟ ซึ่งยอมรับว่าในป่ามีปริมาณเชื้อเพลิงค่อนข้างสูงและสภาพอากาศที่แห้งแล้งเมื่อมีคนจุดไฟจึงลุกลามและขยายเป็นวงกว้าง ก็ให้แต่ละหน่วยงานเสริมกำลังเข้าไปดับไฟให้เร็ว และสั่งการให้ทหารเข้าไปเฝ้าในพื้นที่ป่าเพื่อไม่ให้มีผู้ลักลอบเข้าป่าไปเผาและดำเนินการด้านกฎหมายเด็ดขาดกับผู้ฝ่าฝืน ซึ่งไม่ใช่ว่าจะให้ทหารเข้าไปข่มขู่ชาวบ้านที่เข้าไปทำมาหากินหรืออยู่ในพื้นที่ป่า แต่คนเหล่านี้เมื่ออาศัยอยู่ในพื้นที่ก็ต้องช่วยกันดูแล

“การแก้ปัญหาจะต้องได้รับการแก้ไขในทุกมิติ เรื่องงบประมาณก็ไม่ใช่ปัญหาซึ่งตอนนี้ได้สั่งทุกกรม กระทรวงให้ใช้งบประมาณของตนเองมาดำเนินการ ถ้ามีปัญหาอุปสรรคใดๆ รัฐบาลก็พร้อมที่จะสนับสนุน”พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวและชี้แจงว่า

เรื่องของการเตือนประชาชนในการดูแลสุขภาพนั้น ทางจังหวัดเชียงใหม่ได้แจกหน้ากากอนามัยให้ประชาชนไปแล้ว 1.2 ล้านชิ้น มีการทำห้องปลอดฝุ่นที่ให้กลุ่มเสี่ยงทั้งเด็ก คนชรา ผู้ที่เป็นภูมิแพ้เข้าไปหลบพัก ทั้งในตัวเมืองและอำเภอรอบนอก ซึ่งทุกอย่างก็ดำเนินการอยู่แล้ว ส่วนการคาดโทษสำหรับพื้นที่หรือหน่วยงานที่ทำงานไม่บรรลุผลก็เป็นหน้าที่ของแต่ละหน่วยที่ต้องดำเนินการไม่ต้องไปสั่งอีก.

You may also like

“ส.ว.ก๊อง”ลั่นลงสมัครป้องกันแชมป์สมัยหน้าในนามพรรคเพื่อไทย แย้มครั้งนี้ “ทักษิณ” ขอเป็นผู้ช่วยหาเสียง พร้อมลงพื้นที่ 25 อำเภอ

จำนวนผู้