“ธนาธร”วิดีโอคอลร่วมเปิดตัว “เหมา”ธีรวุฒิ แก้วฟอง ลงสมัครชิงเก้าอี้นายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่

“ธนาธร”วิดีโอคอลร่วมเปิดตัว “เหมา”ธีรวุฒิ แก้วฟอง ลงสมัครชิงเก้าอี้นายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่

“ธนาธร”วิดีโอคอลร่วมเปิดตัว “เหมา”ธีรวุฒิ แก้วฟอง ขรก.ชำนาญการ ลงสมัครชิงเก้าอี้นายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ ในนามกลุ่ม “เชียงใหม่กว่า” ย้ำเชียงใหม่เป็นพื้นที่น่าสนใจ มีความท้าทาย ขอโอกาสให้เข้าไปบริหารเพื่อพัฒนาเทศบาลนครเชียงใหม่ให้ดีกว่าเดิม

เมื่อวันที่ 24 ม.ค.4 ที่ธันเดอร์เบิร์ด โฮสเทล ถ.มูลเมือง อ.เมืองเชียงใหม่ กลุ่มเชียงใหม่กว่าและตัวแทนคณะก้าวหน้าเชียงใหม่ ได้แถลงข่าวเปิดตัวนายธีรวุฒิ แก้วฟอง ข้าราชการชำนาญการ สำนักงานจังหวัดเชียงใหม่ ว่าที่ผู้สมัครนายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ โดยมีอาจารย์ชำนาญ จันทร์เรือง และน.ส.เยาวลักษณ์ วงษ์ประภารัตน์ กรรมการบริหารคณะก้าวหน้า และอดีตกรรมการบริหารพรรคอนาคตใหม่สัดส่วนภาคเหนือ,มินท์ มีนา กัลมาพิจิตรและครูจุ๊ย  กุลธิดา รุ่งเรืองเกียรติ รวมถึงทีมงาน เชียงใหม่กว่า ประกอบด้วยนาย ธีรวุฒิ แก้วฟอง เลขาธิการ น้ำตาล น.ส. ภัทรานิษฐ์ ศรีจันทร์ดร ฝ่ายนโยบาย  บอย นาย กิตติคุณ พูลสวัสดิ์,หัวหน้าสำนักงาน ฟ้า น.ส. ณัฐวดี ยืนธรรม และประชาสัมพันธ์ แป้ง น.ส. อาคิรา ศิริวัฒนานุกุล และสื่อมวลชนเข้าร่วมรับฟัง การแถลงเปิดตัวส่งผู้สมัครลงชิงตำแหน่งนายกเทศมนตรีเทศบาลนครเชียงใหม่ นอกจากนี้นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ยังได้วิดีโอคอลเข้าพูดถึงการตัดสินใจส่งผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งเทศบาลนครเชียงใหม่ในครั้งนี้

นายธีระวุฒิ แก้วฟอง หรือ เหมา ว่าที่ผู้สมัครนายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ กล่าวว่า ได้ตัดสินใจยื่นหนังสือลาออกจากราชการหลังจากทำงานมาได้ 20 ปีด้วยเหตุผลที่อยากพัฒนาเชียงใหม่ โดยเฉพาะในพื้นที่ 40 กว่าตารางกิโลเมตรที่เป็นศูนย์กลางของจังหวัดให้ดีขึ้น เพราะปัจจุบันตนอายุ 44 ปีแล้วหากวันนี้ไม่ตัดสินใจเสียสละหน้าที่การงาน มาทำงานเพื่อรับใช้สังคม บ้านเมืองซึ่งเป็นบ้านเกิดเมืองนอน ตนไม่อยากให้วันข้างหน้าจะต้องมาย้อนเสียใจในภายหลัง

“พ่อแม่ผมจบ ป.4แต่ส่งผมเรียนจบ ป.ตรีรัฐศาสตร์ มช.จากนั้นผมก็สอบบรรจุเป็นข้าราชการได้ทำงานที่จังหวัดเชียงใหม่มา 20 ปีได้ทำงานกับผู้ว่าราชการจังหวัดมาถึง 3 คน ผมรับประกันว่าผู้ว่าฯทุกคนที่มาอยู่ในตำแหน่งมีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนา ดูแลพื้นที่อย่างเต็มความสามารถ แต่ในทางปฏิบัติมันไม่สามารถทำได้เต็มที่เพราะประเทศเรามีการบริหารราชการส่วนกลางและส่วนภูมิภาค โดยส่วนกลางเป็นผู้กำหนดนโยบาย และส่วนภูมิภาคเป็นผู้ปฏิบัติจึงทำให้เกิดปัญหา การกระจายอำนาจเท่านั้นจะเป็นทางออกที่สามารถปลดล็อคปัญหาต่างๆ ที่เผชิญมาทั้งหมดได้ โดยเฉพาะการทำให้ท้องถิ่นมีอำนาจในการกำหนดการพัฒนาตนเอง มีการแบ่งปันทรัพยากรท้องถิ่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ”นายธีรวุฒิ กล่าวและว่า

ผมเป็นคนที่สนใจเรื่องการปกครองส่วนท้องถิ่น และมีความมุ่งมั่น คาดหวังว่ามันจะเป็นทางออกและสร้างการมีส่วนร่วมในการพัฒนาเชียงใหม่ได้ เพราะเชียงใหม่ไม่ใช่เป็นแค่ศุนย์กลางการท่องเที่ยวของภาคเหนือ แต่เป็นศูนย์กลางท่องเที่ยวทั่วโลก ที่ผ่านมาเชียงใหม่ขับเคลื่อนด้วยท่องเที่ยว แต่จะโฟกัสไปเพียงสิ่งเดียวไม่ได้ ทั้งเรื่องขนส่งของเมือง การศึกษาและคุณภาพชีวิตของประชาชนล้วนมีส่วนสำคัญเช่นเดียวกับเศรษฐกิจ และยิ่งเห็นผลชัดเจนหลังเกิดวิกฤตโควิด 19 ซึ่งชี้ให้ถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นทั้งชีวิต เศรษฐกิจและคุณภาพชีวิตของประชาชน

นายธีรวุฒิ กล่าวอีกว่า วันนี้เป็นการแถลงแนะนำตัวอย่างเป็นทางการ ซึ่งการรับสมัครผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งนายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่จะมีขึ้นในวันที่ 8 กุมภาพันธ์นี้ หลังจากนั้นจะมีการแถลงเปิดตัวทีมงานที่ลงสมัครและนโยบายของกลุ่มอีกครั้ง อย่างไรก็ตามการลงสมัครในครั้งนี้ตนไม่ได้ทำคนเดียว แต่มีกลุ่มที่คอยสนับสนุนทั้งกลุ่มเชียงใหม่กว่าและคณะก้าวหน้าเชียงใหม่ ซึ่งพร้อมที่จะทำงานกันอย่างเต็มที่ในสนามเลือกตั้งครั้งนี้

ด้านน.ส. ภัทรานิษฐ์ ศรีจันทร์ดร หรือ น้ำตาล เลขาธิการกลุ่มเชียงใหม่กว่า กล่าวว่า การรวมกลุ่มเชียงใหม่กว่าเริ่มต้นด้วยการมีความคิดบางอย่างที่อยากให้เกิดเปลี่ยนแปลง และที่ใช้ชื่อแบบนี้เพราะเป็นการรวมของผู้คนหลากหลายเข้าด้วยกัน เป็นกลุ่มคนที่มองเชียงใหม่ด้วยสายตาและประสบการณ์ที่มีต่อเมืองและกลั่นกรองออกมามองเชียงใหม่ด้วยความหวัง เรามองว่าเชียงใหม่คือบ้านหลังนี้จะต้องดีกว่านี้ สนุก สะดวก ปลอดภัยและไปไกลได้กว่านี้จึงใช้ชื่อกลุ่มว่า “เชียงใหม่กว่า”

“เชียงใหม่มีความหลากหลายของชาติพันธุ์ ศาสนา ความเหลื่อมล้ำ แรงงานต่างด้าวและยังมีคนจนในเมือง มีองคาพยพต่างๆ ในเชียงใหม่อีกเยอะ “เชียงใหม่กว่า”ไม่ได้แหวกแนวหรือสุดโต่ง แต่เราเชื่อว่าถ้าทำเพียงลำพังจะไม่สำเร็จ เราจึงต้องรวมทุกอย่างเข้าด้วยกัน เชียงใหม่มีภาคประชาชน ภาคเอกชน องค์กรเอกชนที่เข้มแข็ง มีคลังวิชาการไม่แพ้ชาติใดในโลก มีนักเคลื่อนไหว นักกิจกรรมทางการเมืองอย่างต่อเนื่อง มีนักธุรกิจที่เก่งกล้าและทำให้เชียงใหม่มีจุดขาย มีนักดีไซน์และคนรุ่นใหม่ที่มีศักยภาพและยังมีคนรุ่นเก่าที่มีวิสัยทัศน์มองและเห็นพ้องกับความเปลี่ยนแปลง เรามีทุกอย่าง ด้วยเหตุนี้เชียงใหม่กว่าจึงขอเป็นตัวเชื่อมประสานให้เป็นถังความคิด โดยมีเป้าหมายที่จะเข้ามาเติมในระบบการเมืองท้องถิ่นซึ่งเริ่มจากเทศบาลนครเชียงใหม่”เลขาธิการกลุ่มเชียงใหม่กว่า กล่าว

ขณะที่น.ส.เยาวลักษณ์ วงษ์ประภารัตน์ หรือาจารย์เอ กรรมการบริหารคณะก้าวหน้า และอดีตกรรมการบริหารพรรคอนาคตใหม่สัดส่วนภาคเหนือ กล่าวว่า ในนามของตัวแทนคณะก้าวหน้าเชียงใหม่ยอมรับการสมัครชิงตำแหน่งนายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่เป็นเรื่องที่น่ายินดีและท้าทาย ซึ่งถือเป็นการส่งคนลงสมัครการเมืองท้องถิ่นเป็นครั้งแรกและเป็นคนหน้าใหม่เป็นสิ่งที่ท้าทายมาก แต่ด้วยความรู้และประสบการณ์ ประกอบกับนายธีรวุฒิหรือเหมาเป็นคนเชียงใหม่โดยกำเนิด โตและเรียนหนังสือที่นี่ ทำงานที่เชียงใหม่มานาน ก็จะทำให้คนเชียงใหม่ได้เห็นถึงความรู้ ความสามารถและความมุ่งมั่นตั้งใจ ในนามของคณะก้าวหน้าเชียงใหม่และผู้บริหารรู้สึกยินดีที่ได้ทำงานร่วมกับทีมเชียงใหม่กว่า ซึ่งเราเชื่อว่าการกระจายอำนาจอย่างแท้จริงจะต้องเริ่มต้นจากคนในพื้นที่ ซึ่งรู้ความต้องการของพื้นที่ได้ชัดเจนและตรงที่สุด

จากนั้นนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้าได้วิดีโอคอลเข้ามาผ่านซูมในช่วงแถลงข่าว โดยนายธนาธร กล่าวว่า เทศบาลนครเชียงใหม่มีงบประมาณถึง 1,600 ล้านบาทต่อปี เชียงใหม่ในวันนี้ มีวิถีชีวิตที่เปลี่ยนไปตามกาลเวลา มีผู้คนที่มาจากหลากหลายพื้นที่ทั่วประเทศไทย นอกจากนั้นแล้วยังเป็นพื้นที่ที่สวยงาม เป็นพื้นที่ที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยธรรมชาติใกล้ๆ ก็คือดอยสุเทพ เป็นสถานที่ที่ใช้พักผ่อนหย่อนใจ เป็นสถานที่ที่มีความหลากหลายทางเชื้อชาติ และมีประวัติศาสตร์และวิถีชีวิตที่เป็นของพวกเขาเอง สำหรับพวกเราแล้วที่นี่เป็นสถานที่ที่มีความน่าสนใจ มีความท้าทายและเป็นสถานที่ ที่พวกเราอยากจะขอโอกาสคนเชียงใหม่เข้ามาบริหาร

“ต้องยอมรับว่า แน่นอนที่สุด การแพร่ระบาดของไวรัสโควิคทำให้เกิดผลกระทบ ซึ่งอย่างน้อยประมาณอีก 1 ปี กว่านักท่องเที่ยวจะเดินทางกลับเข้ามาได้ แต่จะมีจำนวนมาก น้อยเท่าไหร่ ลักษณะเป็นยังไง ยังไม่มีใครรู้ เราจำเป็นจะต้องรับกับความท้าทายอย่างนี้ และในขณะเดียวกันเทคโนโลยีที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว แต่จะทำอย่างไรให้สามารถประยุกต์ใช้ได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งจะต้องอาศัยคนที่มีวิสัยทัศน์ เข้าใจและเท่าทันกับเทคโนโลยี มาเป็นผู้บริหารเทศบาลนครเชียงใหม่”นายธนาธร กล่าวและว่า

ผมเชื่อว่าคุณธีรวุฒิ หรือคุณเหมาของเรา เป็นคนที่มีทั้งคุณวุฒิและวัยวุฒิเหมาะสมต่อการเป็นนายกเทศมนตรีเทศบาลนครเชียงใหม่ จบการศึกษาปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ในด้านรัฐศาสตร์บัณฑิต และปริญญาโทจากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่เช่นเดียวกัน ทำงานที่จังหวัดเชียงใหม่เป็นคนเชียงใหม่มีความผูกพันกับเชียงใหม่ นอกจากจะทำงานรับราชการในช่วงต้นแล้ว ยังออกมาเปิดกิจการของตัวเอง สร้างผลิตภัณฑ์ของตัวเอง นั่นคือคราฟเบียร์ ภายใต้โครงสร้างธุรกิจผูกขาดได้ เป็นคนที่เชื่อมั่นในตัวเอง เป็นคนที่ต้องการความท้าทาย เป็นคนที่มีหัวใจที่เปิด เป็นคนที่กล้าหาญ เราต้องการคนอย่างนี้ คนกล้าหาญพร้อมสู้กับเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่เข้ามา พร้อมสู้กับสิ่งที่ไม่เป็นธรรม

“ที่สำคัญที่สุดผมคิดว่าคุณธีรวุฒิ แก้วฟองเป็นคนที่เสียสละชีวิตข้าราชการที่มั่นคงอยู่แล้ว มาทำงานเพื่อเป็นนายกเทศมนตรีเทศบาลนครจังหวัดเชียงใหม่ ถ้าจำไม่ผิดเงินเดือนอยู่ประมาณ 7 หมื่นบาทเท่านั้น ดังนั้นมาทำงานที่นี่ไม่ได้ทำให้ชีวิตเขามั่นคงเลย เพียงแค่ 4 ปีก็หมดวาระ ถ้าชนะเข้าไปดำรงตำแหน่งได้ 4 ปีรับเงินเดือนที่ 7 หมื่นกว่าบาท ไม่รู้ว่ารอบหน้าจะชนะหรือเปล่า แต่วันนี้เขาอาสาเข้ามาบริหารเทศบาลนครเชียงใหม่ ถือว่าเป็นการเสียสละความมั่นคงในหน้าที่การงาน และอาสามาทำงานเพื่อชาวเชียงใหม่ด้วยความมุ่งมั่นอย่างแท้จริง เราคุยกันแล้วว่าต้องดำเนินภายใต้เงื่อนไขของกลุ่มก้าวหน้าคือไม่ซื้อเสียง ตั้งใจทำงานการเมืองแบบใหม่และถ้าเข้าไปบริหารได้จะต้องไม่ทุจริต คอรัปชั่น ซึ่งเหมาก็ยืนยันอุดมการณ์เดียวกัน”นายธนาธร กล่าวและว่า

ตอนนี้ภารกิจสำคัญคือผลักดันให้นายธีรวุฒิเป็นนายกเทศมนตรีฯและสมาชิกสภาเทศบาลภายใต้ทีมงานเดียวกัน เพื่อที่จะได้นำนโยบายของคณะก้าวหน้าไปบริหารเพื่อให้คุณภาพชีวิตที่ดีกว่าของเชียงใหม่ ตลอด 60 วันจากนี้ไป ขอให้ทุกคนทำงานเต็มที่และทีมงานทุกคนพร้อมที่จะสนับสนุนเต็มที่ด้วยเห็นพ้องตรงกันว่าเทศบาลนครเชียงใหม่จะต้องได้รับการพัฒนาไปไกลกว่าทุกวันนี้แน่นอน.

 

 

You may also like

builds มช. ขนทัพสตาร์ทอัพนักศึกษาคับคั่ง พิสูจน์ความสำเร็จ ตั้งบริษัทจริงระหว่างเรียน

จำนวนผู้