ทำบุญอุทิิศส่วนกุศล-มอบทุนการศึกษา “วันนักข่าว”เลขามูลนิธิเผยแผ่ธรรมย้ำบทบาทสื่อต้องกล้านำเสนอความจริง

สมาคมหนังสือพิมพ์ภาคเหนือแห่งประเทศไทย จัดพิธีทำบุญอุทิศส่วนกุศลเนื่องในวันนักข่าว พร้อมมอบทุนการศึกษาให้บุตร ธิดาสมาชิก ขณะที่ พระครูอมรธรรมทัต ย้ำบทบาทสื่อต้องกล้านำเสนอความจริงให้สังคมได้รับรู้ แนะอย่าเป็น“สื่อเลือกปฏิบัติ” ฝากให้ร่วมกันปกป้องพระพุทธศาสนา เพราะกำลังถูกอำนาจไม่ชอบธรรมคุกคาม

ที่วิหารวัดพันอ้น อ.เมืองเชียงใหม่ นายอินสม ปัญญาโสภา นายกสมาคมนักหนังสือพิมพ์ภาคเหนือ แห่งประเทศไทย คณะกรรมการ และสมาชิกได้ร่วมกันทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้กับนักข่าวที่เสียชีวิต เนื่องใน “วันนักข่าว” ประจำปี 2561 โดยมีผศ.อาคม ตันตระกูล ประธานชมรมนักวิทยุโทรทัศน์เชียงใหม่-ลำพูน, พ.อ.อโณทัย ไชยมงคล ผู้จัดการโรงแรมกรีนเลค รีสอร์ท นางอุบลนัดดา สุภาวรรณ กก.ผจก.ไทยนิวส์ ,น.ส.ชนิสา ชมศิลป์ ผอ.สวท.เชียงใหม่และ นาวุฒิชัย ม่วงมัน รก.ผอ.สวนสัตว์เชียงใหม่ เข้าร่วมด้วย

สำหรับกิจกรรมเนื่องในวันนักข่าว ได้ประกอบพิธีถวายผ้าบังสุกุล ถวายภัตตาหาร และจตุปัจจัยไทยทาน โดยนำรายชื่อของสื่อมวลชนทุกสาขาในจังหวัดเชียงใหม่และใกล้เคียง ตั้งแต่ยุคก่อตั้งสมาคมหนังสือพิมพ์ภาคเหนือแห่งประเทศไทยกว่า 50 ปีมาแล้ว มีผู้อยู่ในวงการล่วงลับไปแล้ว 57 ราย ให้พระอุทิศส่วนกุศลไปถึง มีพระครูอมรธรรมทัต เจ้าอาวาสวัดพันอ้น เลขานุการศูนย์เผยแผ่พระพุทธศาสนาจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานสงฆ์

ก่อนจะอนุโมทนาให้พรพระครูอมรธรรมทัต เจ้าอาวาสวัดพันอ้น เลขานุการศูนย์เผยแผ่พระพุทธศาสนาจังหวัดเชียงใหม่ ท่านได้ให้สัมโมทนียกถาปรารภถึงบทบาทของสื่อมวลชนว่า สื่อมวลชนมีบทบาทหน้าที่ในการนำเสนอข่าวสาร ข้อมูลที่เป็นจริงให้ประชาชนได้รับรู้อย่างตรงไปตรงมา สื่อมวลชนต้องมีความเที่ยงธรรม แน่วแน่ เด็ดเดี่ยว กล้าคิด กล้าทำในสิ่งที่ถูกต้อง ถ้าสื่อมวลชนเลือกปฏิบัติไม่นำเสนอข่าวสารตามความเป็นจริง สังเกตจากช่วงก่อนที่รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง ไม่มีการใช้ม.44 สื่อมวลชนก็พยายามตีข่าว หากสิ่งไหนที่รัฐบาลทำอะไรผิดพลาดหรือไม่ถูกต้องสื่อจะสะท้อนข่าวสารออกมาค่อนข้างหนัก แต่พอมาเป็นรัฐบาลทหาร สื่อมวลชนได้ลดบทบาทลงไปเยอะมาก

“เป็นข้อสังเกตว่าเมื่อมีรัฐบาลทหารเข้ามา ทหารก็มีอายุการทำงานเหมือนพลเรือน อะไรที่ดีก็ต้องยกย่อง สนับสนุน แต่อะไรที่ไม่ถูกต้อง สื่อมวลชนต้องกล้าที่จะเสนอข่าววิพากษ์วิจารณ์ ถ้ากลัวสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ต่อไปบ้านเมืองของเราจะอยู่กันอย่างไร” เจ้าอาวาสวัดพันอ้น เลขานุการศูนย์เผยแผ่พระพุทธศาสนาจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวและว่า

อย่างกรณีการเข้าพื้นที่ป่าเพื่อล่าสัตว์ ถ้าเป็นชาวบ้านธรรมดาคงไม่ได้รับเกียรติเหมือนผู้มีบารมี ที่ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ปฏิบัติต่อผู้ถูกกล่าวหา และไม่ได้ปฏิบัติเหมือนชาวบ้านธรรมดา เช่นเดียวกับที่เชียงใหม่ที่มีการบุกรุก สื่อฯต้องกล้าที่จะเสนอและชี้แจงให้ประชาชน ได้รับรู้ อะไรที่เป็นเหตุเป็นผล สื่อฯควรจะนำเสนอออกมาให้ทุกหมู่เหล่าได้รับข่าวสารข้อมูลเพื่อจะได้แก้ไขไม่ให้เหตุการณ์ลุกลาม ถ้าสื่อเลือกปฏิบัติ มาตรฐานสื่อจะไม่มี ที่สำคัญตอนนี้พระพุทธศาสนาเองก็ถูกบั่นทอนค่อนข้างเยอะ

พระครูอมรธรรมทัต ยังกล่าวอีกว่า ระเบียบที่ออกมาขณะนี้ไม่ตรงกับความเป็นจริง เช่น ระเบียบที่ให้วัดทุกวัดปฏิบัติตาม อาทิ วัดเก็บเงินไว้ได้ไม่เกิน 3 พันบาท ถ้าเกินให้ฝากสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดหรือธนาคาร แล้วหากวันไหนเกิดมีอุปกรณ์ สิ่งของชำรุดและตรงวันหยุดจะแก้ไขอย่างไรเช่น หากหลอดไฟสปอตไลท์เสีย ต้องจ่ายค่าช่างไฟฟ้าและอุปกรณ์จะเอาที่ไหนให้ และที่ออกระเบียบไว้ให้เจ้าอาวาสครอบครองเงินได้ไม่เกิน 5 พันบาท ถ้าเกินยึดเป็นของหลวงหรือแม้แต่การออกระเบียบมา หากพระเจ็บป่วย ซื้อยาหรือไปหาหมอก็ต้องใช้เงินหมด ถ้าไม่พอจะทำอย่างไร

มีนักวิชาการเสนอแนะว่าควรให้ไวยาวัฎกรเป็นผู้ดำเนินการ แต่ในความเป็นจริงปัจจุบันมีวัดไหนที่มีไวยาวัฎกรที่มาดูแลพระภิกษุสงฆ์ตลอดเวลาบ้าง เดือนหนึ่งบางวัดมาแค่ 1-2 ครั้งเท่านั้น ระเบียบที่ออกมาเพื่ออะไรถ้าไม่ใช่เอาผิดกับเจ้าอาวาสกับพระสังฆาธิการ และยังต้องรายงานรายรับ รายจ่ายทั้งรายเดือนและรายปีให้กับสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติด้วย ทั้งๆ ที่วัดก็ไม่ได้รับเงินอุดหนุนหรือสนับสนุนจากสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเลย

พระพุทธศาสนาในปัจจุบัน ถูกคุกคามจากผู้มีอำนาจมากเกินไป ใกล้จะเหมือนอินโดนีเซีย ซึ่งในอดีตเป็นเมืองพุทธก็เหลือชาวพุทธอยู่น้อยลง เวียดนามก็เช่นเดียวกัน ถูกผู้นำออกระเบียบกฎหมายห้ามเข้าวัดสวดมนต์ จนกระทั่งพระสงฆ์ต้องเผาตัวเองประท้วง ในประเทศไทยก็เช่นเดียวกัน การออกระเบียบมาอาจทำให้พุทธศาสนาล่มสลายก็ได้ แม้กระทั่งเรื่องการบวชก็ออกระเบียบต้องบวช 1 เดือนแต่ความเป็นจริงบางคนที่ทำงานแล้วลาบวชได้มากสุด 15 วัน ถ้าหากมาบวชพระอุปชาก็จะถูกถอดด้วย ซึ่งระเบียบแบบนี้ถือว่าเป็นการปิดกั้นคนเข้าสู่ใต้ร่มพุทธศาสนา

หลังจากพระสงฆ์อนุโมทนาให้พรแล้ว นายอินสม ปัญญาโสภา นายกสมาคมหนังสือพิมพ์ภาคเหนือแห่งประเทศไทยและแขกที่มาร่วมงานและสื่อมวลชนได้บันทึกภาพร่วมกัน ก่อนที่จะมีพิธีมอบทุนการศึกษาแก่บุตร ธิดาสมาชิกสมาคมฯ ประจำปี 2561 .