ทอท.ยันเงินลงทุนพร้อมสร้างสนามบินแห่งใหม่ เผยคัดพื้นที่สร้าง 5 อำเภอเหลือรอยต่อสันกำแพง-บ้านธิ ชี้ต้องรอครม.อนุมัติก่อนถึงจะสำรวจพื้นที่ เบื้องต้นวางแนวทางซื้อที่ดินกับเวนคืนพื้นที่สร้างไม่ต่ำกว่า 4 พันไร่รองรับได้ 2 รันเวย์ คาดภายในปีนี้สรุปรายงานเสนอกระทรวงคมนาคมเพื่อเสนอครม.พิจารณาได้ ระบุการก่อสร้างใช้เวลาเพียง 4 ปี แต่กระบวนการศึกษาและออกแบบไม่สามารถกำหนดระยะเวลาได้
วันที่ 28 มิ.ย.61 ที่โรงแรมยูนิมมานเชียงใหม่ นายอภิชาติ ชอบทำเหมือน รองผู้อำนวยการท่าอากาศยานเชียงใหม่ (ท.ชม.) เป็นประธานเปิดการสัมมนาชี้แจงทิศทางการดำเนินงานของ ทอท.ประจำปีงบประมาณ 2561 ซึ่งฝ่ายกลยุทธ์องค์กร บริษัท ท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย(ทอท.) จำกัด (มหาชน)จัดขึ้น
นางลัชชิดา อาภาพันธุ์ ผู้อำนวยการฝ่ายกลยุทธ์องค์กร ทอท.กล่าวว่า การจัดสัมมนาในครั้งนี้ก็เพื่อชี้แจงทิศทางของทอท.ให้ผู้บริหารท่าอากาศยานเชียงใหม่ ได้ทราบถึงทิศทางและแผนการพัฒนา รวมทั้งชี้แจงสิ่งที่จะต้องทำงานร่วมกับหน่วยงานอื่น เพื่อให้รับทราบถึงแผนงานของทอท. โดยจะเป็นการดำเนินงานตามแผนแม่บทของทชม.ระยะที่ 2 ซึ่งจะรองรับผู้โดยสารได้ถึง 20 ล้านคนในปี 2568
ผอ.ฝ่ายกลยุทธ์องค์กร ทอท.กล่าวอีกว่า สำหรับเรื่องการสร้างสนามบินเชียงใหม่แห่งที่ 2 เป็นนโยบายของภาครัฐ โดยสำนักงานการบินพลเรือนได้ว่าจ้างมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ทำการศึกษาและพบว่าปริมาณจราจรทางอากาศมีความหนาแน่น 3 แห่งคือ กรุงเทพฯ เชียงใหม่และภูเก็ต ซึ่งต้องเตรียมพื้นที่ใหม่รองรับ และผลการศึกษาที่กรมการบินพลเรือนศึกษาออกมานั้น ทางทอท.ก็ตอบรับเนื่องจากการสร้างสนามบินใหม่ต้องใช้เวลา
“ในการศึกษาการสร้างท่าอากาศยานแห่งใหม่ พื้นที่จะต้องกว้างและมีระยะทางและทิศทางลมที่เหมาะสม ไม่มีความขัดแย้งกับพื้นที่เดิมรวมทั้งชุมชนด้วย โดยมีการศึกษาพื้นที่ถึง 5 แห่งคือที่อ.แม่ริม สันกำแพง สันป่าตอง ดอยหล่อ จ.เชียงใหม่และอ.บ้านธิ จังหวัดลำพูน โดยจากการศึกษาพบว่าบางพื้นที่มีชุมชน บางที่พื้นที่ไม่เพียงพอ และบางพื้นที่ไม่มีถนนผ่าน และสรุปพื้นที่ที่เหมาะสมก็คือรอยต่ออ.สันกำแพงและ อ.บ้านธิ จ.ลำพูนซึ่งมีพื้นที่เหมาะสมและเพียงพอ”นางลัชชิดา กล่าวและชี้แจงอีกว่า
ขั้นตอนต่อไปหลังจากที่ภาครัฐได้บอกให้ทาง ทอท.เตรียมการ ฝ่ายบริหารทำเรื่องขออนุมัติทางบอร์ดซึ่งก็มีมติเมื่อ 23 พ.ค.61 เห็นชอบตามนั้นและให้ฝ่ายบริหารทอท.ไปพิจารณาในเรื่องโครงการก่อสร้างเพื่อเพิ่มศักยภาพรองรับผู้โดยสารและจัดทำรายงานผลการศึกษา แผนการลงทุนต่างๆ เพื่อเสนอต่อกระทรวงคมนาคมพิจารณา หลังจากนั้นทางกระทรวงฯจะเสนอต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อขอรับความเห็นชอบ เนื่องจากการที่ทอท.จะดำเนินการได้จะต้องมีมติครม.ออกมาก่อน
ในขณะนี้อยู่ในระหว่างการจัดทำเอกสารแผนงาน ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 3-6 เดือน และตั้งใจว่าภายในปีนี้ แต่จะอยู่ในกรอบปีงบประมาณ 2562 ก็จะเสนอกระทรวงคมนาคมได้ แต่ขั้นตอนที่กระทรวงฯพิจารณาถึงนำเสนอครม.ไม่สามารถกำหนดกรอบระยะเวลาได้ แต่ถ้าครม.มีมติออกมาแล้ว ก็จะใช้เวลาในการก่อสร้างประมาณ 4 ปี ในส่วนพื้นที่นั้นก็จะมีอยู่ 2 กรอบในการดำเนินการพิจารณาคือ ซื้อมากับเวนคืน ซึ่งจะต้องมีการสำรวจก่อน และจำนวนพื้นที่นั้นทางที่ปรึกษาที่กรมการบินพลเรือนจ้างให้ดำเนินการศึกษาครั้งนั้นเสนอว่าควรจะเตรียมพื้นที่สำหรับ 2 รันเวย์ โดยให้จัดหาที่ดินเผื่อไว้ซึ่งก็จะใช้ที่ดินประมาณ 4,000 ไร่ ส่วนงบประมาณในการลงทุนเฉพาะโครงสร้างพื้นฐานก็ประมาณ 6 หมื่นล้านบาท ซึ่งก็ยังไม่รวมกับค่าเวนคืนที่ดิน
ผอ.ฝ่ายกลยุทธ์องค์กร ทอท.กล่าวด้วยว่า ในขณะนี้ยังไม่มีการกำหนดหรือสำรวจพื้นที่ที่จะดำเนินการก่อสร้าง ซึ่งหากครม.อนุมติก็จะมีการสำรวจ เพราะต้องมีการศึกษาทั้ง EIA,การประเมินผลกระทบด้านสุขภาพ (HIA) ก่อนถึงจะเริ่มดำเนินการก่อสร้างได้ แต่อย่างไรก็ตามสนามบินแห่งใหม่ก็ยังจะเป็น Secondary Hub เพราะถ้าจะเป็น Primary Hub จะต้องมีเที่ยวบินๆ ตรงและผู้โดยสารมากกว่า 50 ล้านคนต่อปี ส่วนเรื่องเงินลงทุนไม่มีปัญหาเพราะทอท.มีผลประกอบการกว่า 1 แสนล้านบาทและการดำเนินการก่อสร้างก็ไม่ใช่จะใช้เงินก้อนใหญ่ทีเดียวซึ่งก็ต้องมีกระบวนการและใช้เวลาด้วย.
