ทนายความ”ชัยภูมิ ป่าแส” เดินหน้ายื่นหนังสือ ผบ.ทบ.ขอข้อมูลภาพวงจรปิด

ทนายความ”ชัยภูมิ ป่าแส” เดินหน้ายื่นหนังสือ ผบ.ทบ.ขอข้อมูลภาพวงจรปิด

- in headline, จับกระแสสังคม

เชียงใหม่/กรุงเทพ – ทนายความและองค์กรเครือข่ายติดตามความคืบหน้าคดีวิสามัญฆาตกรรม “ชัยภูมิ ป่าแส” นัดยื่นหนังสือต่อผู้บัญชาการทหารบก ขอข้อมูลภาพเคลื่อนไหวจากกล้องวงจรปิด เพื่อใช้เป็นหลักฐานสำคัญในคดี หลังเคยร้องขอหลายครั้งจากหลายหน่วยงาน แต่ยังไม่มีความคืบหน้านายสุมิตรชัย หัตถสาร ทนายความ คดีวิสามัญฆาตกรรม นายชัยภูมิ ป่าแส  นักกิจกรรมเยาวชนชาติพันธุ์ลาหู่  เปิดเผยว่า ในวันจันทร์ ที่ 18 มิถุนายนนี้ เวลา 10.30 น. ที่กองบัญชาการกองทัพบก ถนนราชดำเนินนอก ทนายความและองค์กรเครือข่ายติดตามความคืบหน้าคดีวิสามัญฆาตกรรม ชัยภูมิ ป่าแส จะเข้ายื่นหนังสือต่อผู้บัญชาการทหารบก เพื่อขอข้อมูลภาพเคลื่อนไหวจากกล้องวงจรปิดเหตุการณ์เจ้าหน้าที่ทหารยิงนายชัยภูมิ ป่าแส เพราะถือเป็นหลักฐานชิ้นสำคัญ ที่จะทำให้เกิดความกระจ่างว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างในขณะเกิดเหตุทั้งนี้ นายชัยภูมิ ป่าแส นักกิจกรรมเยาวชนชาติพันธุ์ลาหู่ ถูกทหารสังกัดกองร้อยทหารม้าที่ 2 บก. ควบคุมที่ 1 หน่วยเฉพาะกิจกรรมทหารม้าที่ 5 ที่ตั้งจุดตรวจค้นยาเสพติดบริเวณด่านตรวจบ้านรินหลวง ตำบลเมืองนะ อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ ยิงเสียชีวิตเมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2560 โดยเจ้าหน้าที่อ้างว่านายชัยภูมิมียาเสพติดและต่อสู้ขัดขวาง จะใช้อาวุธระเบิดขว้างใส่เจ้าหน้าที่ทหาร จึงทำให้เจ้าหน้าที่ทหารจำเป็นต้องใช้อาวุธปืนยิงสังหารนายชัยภูมิ จนเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตายในทางคดี พนักงานอัยการจังหวัดเชียงใหม่ได้ยื่นคำร้องขอไต่สวนชันสูตรพลิกศพ (ไต่สวนการตาย) ต่อศาลจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อให้ศาลทำการไต่สวนและทำคำสั่งแสดงว่าผู้ตายคือใคร ตายที่ไหน เมื่อใด และถึงเหตุและพฤติการณ์ที่ตาย เนื่องจากการตายของนายชัยภูมิ ป่าแส เป็นการตายอันเกิดจากการกระทำของเจ้าหน้าที่ทหารซึ่งอ้างว่าปฏิบัติราชการตามหน้าที่ จึงต้องมีการชันสูตรพลิกศพและไต่สวนการชันสูตรพลิกศพ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 148 และ150 ศาลจังหวัดเชียงใหม่ได้รับเป็นคดีหมายเลขดำที่ ช.19/2560 โดยมีญาติของนายชัยภูมิ เข้าร่วมเป็นผู้ร้องซักถามต่อมาเมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2561 ศาลจังหวัดเชียงใหม่ได้อ่านคำสั่งไต่สวนการชันสูตรพลิกศพ โดยระบุว่า ผู้ตายคือ นายชัยภูมิ ป่าแส เสียชีวิตเมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2560 ถูกยิงจากอาวุธปืนของเจ้าหน้าที่ทหาร และเสียชีวิตบริเวณด่านรินหลวง อำเภอเชียงดาว ส่วนพฤติการณ์แห่งการตายที่เจ้าหน้าที่ทหารอ้างว่านายชัยภูมิจะใช้อาวุธมีดและระเบิดทำร้ายเจ้าหน้าหน้าที่ อันเป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่ทหารจำเป็นต้องใช้อาวุธปืนยิงเพื่อป้องกันตัวหรือไม่นั้น ศาลไม่ได้วินิจฉัยในประเด็นนี้แม้ศาลจะมีคำสั่งไต่สวนการชันสูตรพลิกศพออกมาแล้ว แต่ความจริงเกี่ยวกับการตายของนายชัยภูมิ ป่าแส ก็ยังคงมีความคลุมเครือ และสร้างความเคลือบแคลงใจให้แก่ฝ่ายญาติผู้ตายอย่างยิ่ง และตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา มีประเด็นที่ถูกพูดถึงและเรียกร้องมาตลอดจากทางฝ่ายญาติผู้ตายและสาธารณะชนคือ การขอให้มีการเปิดเผยภาพจากกล้องวงจงปิดในวันเกิดเหตุ รวมถึงขอให้มีการนำภาพจากกล้องวงจรปิดดังกล่าวมาใช้พิสูจน์ความจริงในชั้นไต่สวนการชันสูตรพลิกศพของศาลด้วย แต่จนถึงปัจจุบันก็ยังไม่ได้มีการเปิดเผยภาพวงจรปิดดังกล่าวแต่อย่างใดดังนั้น เพื่อประโยชน์ในการแสวงหาความจริงและความยุติธรรม รวมถึงการเยียวยาจากช่องทางของกระบวนการยุติธรรมและช่องทางอื่นต่อไป ทางญาติผู้ตาย ทนายความจากสมาคมนักกฎหมายสิทธิมนุษยชน และองค์กรที่ติดตามคดี จึงประสงค์ที่จะใช้สิทธิตามพระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของทางราชการ พ.ศ. 2540 เข้ายื่นหนังสือต่อผู้บัญชาการกองทัพบก ในฐานะหน่วยงานต้นสังกัดของเจ้าหน้าที่ทหารที่ปฏิบัติหน้าที่ในวันเกิดเหตุ เพื่อขอข้อมูลภาพเคลื่อนไหวจากกล้องวงจรปิดทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ดังกล่าว.

You may also like

 รมช.คมนาคมเปิดการทดลองเดินรถโดยสารHOP&GO เชื่อมโยงโครงข่ายสาธารณะไปยัง 7 แหล่งท่องเที่ยวในเชียงใหม่

จำนวนผู้