ด.ต.พิชิต ตามูล : เลือกตั้ง…ความหวังฤาทางออกของประเทศ

ด.ต.พิชิต ตามูล : เลือกตั้ง…ความหวังฤาทางออกของประเทศ

- in นานาทัศนะ

ด.ต.พิชิต ตามูล แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เชียงใหม่ กล่าวถึงการเลือกตั้งในปี 2562 ว่า โรดแมป และกฎหมายออกมาแล้ว จึงเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งถ้าดูตามกรอบ ก็คงเป็นไปตามนั้น อย่างช้าสุดคือมีการเลือกตั้งในเดือนพฤษภาคม 2562 ยกเว้นจะมีคำสั่งพิเศษออกมา เพราะการเมืองไทย ไม่มีตัวชี้วัดที่แน่นอน ดุลยพินิจกับคำสั่งพิเศษ ไม่มีสามารถขัดได้

กระนั้นบรรยากาศทางการเมืองในช่วงนี้ก็ยังเงียบเหงา มีเพียงบางพรรคที่ออกมาเดินสาย เนื่องจากทุกพรรคกลัว ไม่รู้เงื่อนไขกฎหมาย ว่าจริงๆ แล้วอะไรทำได้ หรือทำไม่ได้ กฎหมายและคำสั่ง เปิดช่องว่างให้คนเพียงไม่กี่คนใช้ดุลยพินิจในการพิจารณา หลายพรรคจึงตกอยู่ในสถานการณ์สุ่มเสี่ยง โดยเฉพาะพรรคขนาดเล็กและขนาดกลางที่เกิดขึ้นใหม่ เพราะเงื่อนไขใหม่ตัดตอนพรรคการเมืองเยอะมาก อาจโดนทำแท้งได้ทุกเมื่อ เชื่อว่าสุดท้ายแล้วจะมีไม่ถึง 20 พรรค ที่หลุดไปถึงการเลือกตั้งได้

อย่างไรก็ตาม ภายใต้กติการัฐธรรมนูญปี 60 เลือกตั้งแล้วก็ไม่มีอะไรดีขึ้น ยกเว้นด้านเศรษฐกิจที่อาจบรรเทาความตกต่ำลงได้เล็กน้อย เนื่องจากตอนนี้ไทยถูกหลายประเทศบอยคอตอยู่ ไม่เข้ามาลงทุนหรือค้าขายด้วย ซึ่งเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ทูตพาณิชย์ของอิตาลี ก็พูดว่าทางกลุ่มสหภาพยุโรปพร้อมฟื้นสัมพันธภาพกับไทย ถ้ารัฐบาลมาจากการเลือกตั้ง

สำหรับเรื่องอื่นไม่น่าจะมีอะไรดีขึ้น แม้แต่เรื่องสิทธิเสรีภาพ ที่เราโดนขึ้นบัญชีดำจาก UNHCR เรื่องการคุกคามสิทธิมนุษยชน ทั้งนี้เพราะ 6 ตำแหน่งใน 250 ส.ว. คือแม่ทัพโดยตำแหน่ง ผบ.จึงสามารถชี้นำ หรือคัดค้านได้ ทำให้ความหวังในการนำประเทศก้าวไปข้างหน้ามีน้อยมาก และในส่วนของรัฐบาลใหม่ ถึงจะมาจากประชาธิปไตยก็เดินไม่ได้ ยิ่งรวมกับพรรคเพื่อไทย ที่น่าจะได้คะแนนเสียงมากที่สุด อย่างน้อย 250 เสียง

ความหวังเดียวคือ เกิดรัฐบาลแห่งขาติสัก 2 ปี ให้ตัวแทน 750 คนมาพูดคุย ระดมความคิดกัน ว่าจะทำอย่างไรเพื่อนำไปสู่ทางออกของประเทศ อะไรคือปัญหา ถ้าเห็นว่ารัฐธรรมนูญคือปัญหา มีเฉพาะกลุ่มอำนาจเดิมที่ได้ผลประโยชน์ แต่ประเทศชาติเดินหน้าไม่ได้ ก็จัดการแก้ไข ปลดล็อคกฎหมายให้เรียบร้อยก่อน

ด.ต.พิชิต ยังกล่าวการปรองดองว่าเป็นเรื่องไร้สาระ เพราะรัฐบาลยังมุ่งสร้างความขัดแย้งแล้วแสวงหาผลประโยชน์ โดยจากการเปิดเผยของหอการค้า ประมาณการคอรัปชั่นในปี 2561 เทอม 2 ว่าอาจสูงถึง 37% ซึ่งถือว่าสูงกว่าทุกรัฐบาลที่ผ่านมาด้วยซ้ำ การปรองดองจึงไม่มีทางเป็นไปได้ ทั้งที่มีทริคนิดเดียว คือถ้าทุกคนสมประโยชน์ ก็ไม่มีทางทะเลาะกัน ที่ทะเลาะกันอยู่ทุกวันนี้ มาจากการถูกปั่นหัว และผลประโยชน์เอนเอียงไปข้างใดข้างหนึ่ง.

You may also like

 รมช.คมนาคมเปิดการทดลองเดินรถโดยสารHOP&GO เชื่อมโยงโครงข่ายสาธารณะไปยัง 7 แหล่งท่องเที่ยวในเชียงใหม่

จำนวนผู้