ชาวต้นดู่ล่ารายชื่อ ร้องนอภ.สันกำแพงขอตรวจสอบการบริหารงานผู้ใหญ่บ้านหมู่3

ชาวต้นดู่ล่ารายชื่อ ร้องนอภ.สันกำแพงขอตรวจสอบการบริหารงานผู้ใหญ่บ้านหมู่3

- in headline, จับกระแสสังคม

เชียงใหม่( 14 ก.ย.60)/ชาวบ้านต้นดู่ บุกร้องในอำเภอสันกำแพง ผู้ใหญ่บ้านบริหารงานไม่โปร่งใสขาดจริยธรรมความเป็นผู้นำ ล่ารายชื่อ ขอเปิดประชุม ชี้แจงในหมู่บ้านภายใน 3 วัน

เมื่อเวลา 13.00 นวันที่ 14 กันยายน 60 ตัวแทนชาวบ้านต้นดู่ หมู่ 3 ต. บวกค้าง อ. สันกำแพง จ. เชียงใหม่ประมาณ 25 คนเดินทางไปที่ว่าการอำเภอสันกำแพง เพื่อยื่นหนังสือและรายชื่อชาวบ้าน กว่า 150 คน เรียกร้องขอให้ นายเสน่ห์ กันทะอินทร์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 3  เปิดประชุม ชี้แจงรายรับรายจ่ายและปัญหาต่างๆภายในหมู่บ้าน ต่อ นายอนุพงษ์วาวงศ์มูล นายอำเภอสันกำแพง พร้อมทั้งชูป้าย แสดงความไม่พอใจ และสงสัยในการปฏิบัติหน้าที่ของนายเสน่ห์ ว่าไม่โปร่งใสไร้ซึ่งคุณธรรมจริยธรรม

นายวีระ ปัญญานิล หนึ่งในตัวแทนชาวบ้าน กล่าวว่า การร้องเรียนครั้งนี้เกิดจากพฤติกรรมของนายเสน่ห์ ที่มีความบกพร่อง 4 ด้านด้วยกัน คือแต่ละเดือนจะมีการประชุมประจำเดือนเพื่อนำข้อมูลข่าวสารของทางราชการมาประชุมชี้แจงให้ชาวบ้านในหมู่บ้านได้ทราบ โดยต้องบันทึกวาระการประชุมลายเซ็นผู้เข้าร่วมและถ่ายรูปการประชุมเพื่อนำเอกสารไปส่งให้กับทางอำเภอในเดือนต่อไปแลกกับเบี้ยประชุมเดือนละ 500 บาท แต่ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 3 ไม่เคยนำข้อมูลข่าวสารของทางราชการ มาประชุมชี้แจงให้ชาวบ้านรับทราบ นอกจากนี้ ในด้านคุณธรรมยังฝ่าฝืนมติที่ประชุมไม่เคารพกฎกติกา ไม่สนใจความถูกต้อง มีการฝ่าฝืนมติที่ประชุมสั่งรื้อถอนศาลาพักร้อน ซึ่งเป็นของส่วนรวมของหมู่บ้าน แล้วคุณวัสดุของศาลามาเก็บไว้อยู่ที่บ้านของผู้ใหญ่บ้าน

เรื่องจริยธรรมการประเมินผู้ใหญ่บ้านนายเสน่ห์ได้รับเอกสารการประเมินผู้ใหญ่บ้าน 20 ชุด นำไปแจกให้พวกพ้องตัวเองประเมินให้โดยไม่มีการประชุมชี้แจงให้ชาวบ้านรับทราบ ชาวบ้านจึงรวมตัวกันไปร้องเรียนที่อำเภอ ต่อมาทางอำเภอส่งปลัดและกำนันตำบลบวกค้างออกมาประชุมชี้แจงให้ชาวบ้านรับทราบ และที่ประชุมมีมติให้ชาวบ้านที่ร่วมประชุม 100 กว่าคนเป็นผู้ประเมินผู้ใหญ่บ้านพร้อมทั้งแต่งตั้งนางกองคำ เสมอกัน เป็นผู้รวบรวมเอกสารการประเมินส่งอำเภอแต่นายเสน่ห์ก็ฝืนมติที่ประชุม โดยให้ภรรยาของตัวเองไปไล่เก็บเอกสารประเมินส่งเอง

ขณะเดียวกันยังมีเรื่องของการทุจริตไม่โปร่งใสและไม่ยอมให้ตรวจสอบในเรื่องการจัดเก็บเงินในหมู่บ้าน เนื่องจากเป็นที่ตั้งของตลาดนัด เปิดทุกวันพฤหัสบดีมีการจัดจัดเก็บเงินจากพ่อค้าแม่ค้าได้มากพอสมควร เงินส่วนนี้ จะเป็นกองทุนสวัสดิการประจำหมู่บ้านแต่ตลอดระยะเวลา 4 ปีกว่าที่นายเสน่ห์เข้ามาดำรงตำแหน่งไม่เคยชี้แจง รายละเอียดการเงินให้ชาวบ้านรับทราบ ไม่กล้าเปิดประชุมในหมู่บ้าน กลัวชาวบ้านถามเรื่องเงินกองทุนหมู่บ้าน ชาวบ้านเคยเรีนกร้องขอให้เปิดประชุม แต่ก็ได้รับการปฏิเสธตลอดมา พฤติกรรมทั้งหมดนี้แสดงให้เห็นว่านายเสน่ห์ ขาดคุณสมบัติของการเป็นผู้นำที่ดีก่อให้เกิดความแตกแยกของคนในหมู่บ้าน

ต่อมา นายอนุพงษ์ วาวงศ์มูล ได้ลงมารับหนังสือ พร้อมทั้งรับปาก จะให้มีการเปิดประชุมในหมู่บ้าน ภายใน 3 วัน เพื่อให้ทุกฝ่ายได้รับข้อมูลอย่างโปร่งใส หรือหากพบว่า ผู้ใหญ่บ้านมีความผิดจริง ก็จะดำเนินการตามขั้นตอนอย่างยุติธรรม ซึ่งอาจรวมไปถึงการเลือกตั้งผู้ใหญ่บ้านใหม่ ทำให้ชาวบ้านพอใจจึงเดินทางกลับ.

You may also like

“ส.ว.ก๊อง”ลั่นลงสมัครป้องกันแชมป์สมัยหน้าในนามพรรคเพื่อไทย แย้มครั้งนี้ “ทักษิณ” ขอเป็นผู้ช่วยหาเสียง พร้อมลงพื้นที่ 25 อำเภอ

จำนวนผู้