งัดกม.ใหม่ให้อำนาจเจ้าท่าจับ-รื้่อสิ่งปลูกสร้างรุกล้ำลำน้ำจัดระเบียบคลองแม่ข่าและลำน้ำสาขาขีดเส้น 1 ก.ย.หมดเวลายื่นเรื่อง

งัดกม.ใหม่ให้อำนาจเจ้าท่าจับ-รื้่อสิ่งปลูกสร้างรุกล้ำลำน้ำจัดระเบียบคลองแม่ข่าและลำน้ำสาขาขีดเส้น 1 ก.ย.หมดเวลายื่นเรื่อง

คณะทำงานบังคับใช้กฎหมาย งัดกฎหมายการเดินเรือฉบับใหม่จัดระเบียบคลองแม่ข่า หลังคสช.มีคำสั่งผ่อนปรนให้ 60 วัน ดีเดย์ 1 ก.ย.หากไม่แจ้งเจ้าท่าฯเมื่อตรวจสอบพบโดนจับ-รื้อได้โดยไม่ต้องรอศาลตัดสิน ขณะที่สำนักงานที่ดินแจงรังวัดเบื้องต้น พบผู้ครอบครองที่ดินและบุกรุกมากกว่า 1 พันราย

วันนี้ (30 สิงหาคม 2560) ที่ห้องประชุมอาคารเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา ศูนย์ราชการจังหวัดเชียงใหม่ นายมนัส ขันใส ปลัดจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานประชุมคณะทำงานด้านบังคับใช้กฎมาย ครั้งที่ 1/2560 และแนวทางการแก้ไขปัญหาคลองแม่ข่าของภาครัฐ โดยมีประชาชนที่อาศัยอยู่ริมคลองแม่ข่าเข้าร่วมประชุมเป็นจำนวนมาก

ปลัดจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า เรื่องนี้ในระดับนโยบายที่ต้องเร่งแก้ไข ทั้งประเด็นปัญหาการรุกล้ำลำน้ำ ปัญหามลพิษ แลปัญหาขยะมูลฝอยที่ผู้อาศัยตลอดแนวริมคลองได้ทิ้งลงไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาการรุกล้ำลำน้ำเป็นเรื่องเร่งด่วน ซึ่งพบว่ามีทั้งผู้ครอบครองที่ดินและอยู่อาศัย และผู้ครอบครองที่ดิน แต่ไม่มีสิ่งปลูกสร้าง ปัญหาคลองแม่ข่าถือเป็นปัญหาระดับประเทศ ที่รัฐบาลให้ความสำคัญเป็นประเด็นที่ต้องมีการตรวจสอบข้อเท็จจริง ให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติการเดินเรือในน่านน้ำไทย (ฉบับที่ 17) พ.ศ.2560

รัฐบาลและจังหวัดได้ให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาคลองแม่ข่า โดยในส่วนของจังหวัดเชียงใหม่ ได้มีประกาศแต่งตั้งคณะทำงานขึ้นมาแก้ใน 7 คณะซึ่งคณะทำงานด้านการบังคับใช้กฎหมายก็เป็นอีกหนึ่งคณะทำงาน ที่จะสนับสนุนการดำเนินงานของคณะกรรมการพัฒนาและแก้ไขปัญหาคลองแม่ข่า จังหวัดเชียงใหม่ โดยมีหน้าที่ในการตรวจสอบสภาพปัญหากรณีกระทำผิดกฎหมายที่ส่งผลกระทบต่อคลองแม่ข่า วางแผนดำเนินการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อแก้ปัญหาคลองแม่ข่าและทำแผนงาน โครงการข้อเสนอแนะส่งต่อให้กับคณะกรรมการพัฒนาและแก้ไขปัญหาคลองแม่ข่า จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ด้านนายไฉน นาคทรัพย์ นักวิชาการขนส่งชำนาญการ สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขาเชียงใหม่ กล่าวว่า เนื่องจากกฎหมายใหม่ที่ให้อำนาจเจ้าท่ามี 3 ฉบับเป็นสิ่งที่แสดงถึงนโยบายของรัฐในการจัดระเบียบและคลองแม่ข่าก็เป็น 1 ในส่วนนี้คือพระราชบัญญัติการเดินเรือในน่านน้ำไทย (ฉบับที่ 17) พ.ศ.2560 ลงวันที่ 12 เมษายน 2560 ที่มีผลใช้บังคับทั่วประเทศตั้งแต่วันที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2560 เป็นต้นมา

ทั้งนี้เนื่องจากกฎหมายใหม่โทษทางอาญาสูงขึ้นและให้อำนาจเจ้าท่าในการดำเนินการได้โดยไม่ต้องรอศาลสั่ง จากที่ต้องดำเนินคดีและรอคำสั่งศาลให้รื้อถอน และประเด็นสำคัญในการประชุมครั้งนี้ก็เพื่อประชาสัมพันธ์ให้ราษฎรที่ครอบครองหรือมีพื้นที่ติดกับที่ดินของรัฐบริเวณคลองแม่ข่าและลำน้ำสาขา ให้ทราบคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 32/2560 เรื่อง การบรรเทาความเสียหายให้แก่ประชาชนในกรณีปลูกสร้างอาคารหรือสิ่งอื่นใดล่วงล้ำลำแม่น้ำ ลงวันที่ 4 กรกฎาคม 2560 และแนวทางการแก้ไขปัญหาคลองแม่ข่าของภาครัฐ ซึ่งคำสั่งคสช.นี้ผ่อนผันให้ 60 วันนับตั้งแต่มีประกาศ โดยให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ริมคลองแม่ข่าและลำน้ำสาขายื่นเอกสารหรือหลักฐานแสดงการครอบครองหรือการได้รับอนุญาตปลูกสร้างอาคารหรือสิ่งอื่นใดนั้น เพื่อประกอบการพิจารณาต่อเจ้าท่าภายในวันที่ 1 กันยายน 2560 ซึ่งครบกำหนดระยะของการขยายเวลาการดำเนินการตาม พระราชบัญญัติการเดินเรือในน่านน้ำไทย (ฉบับที่ 17) พ.ศ.2560 หากผู้ครอบครองที่ดินไม่มายื่นแสดงหลักฐานก็จะดำเนินการตามกฎหมายทันที

นักวิชาการขนส่งชำนาญการ สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขาเชียงใหม่  กล่าวด้วยว่า ตามมาตรา 118 ทวิ ในกรณีที่มีการฝ่าฝืนมาตรา 117 หรือผู้ใดได้รับอนุญาตตามมาตรา 117 แล้วปลูกสร้างอาคารหรือสิ่งอื่นใดไม่เป็นไปตามที่ได้รับอนุญาต ให้เจ้าท่ามีคำสั่งเป็นหนังสือแจ้งให้เจ้าของหรือผู้ครอบครองอาคารหรือสิ่งอื่นใดดังกล่าว รื้อถอนหรือแก้ไขอาคารให้เสร็จสิ้นโดยถูกต้องภายในระยะเวลาที่กำหนด ทั้งนี้ ต้องไม่น้อยกว่า 30 วัน แต่ไม่เกิน 1 ปี เว้นแต่ศาลจะสั่งเป็นอย่างอื่นในกรณีที่ไม่ปรากฏตัวเจ้าของหรือผู้ครอบครองอาคาร ให้เจ้าท่าปิดคำสั่งดังกล่าวไว้ ณ อาคารหรือสิ่งอื่นใดนั้น ซึ่งเมื่อพ้นระยะเวลาที่กำหนด ถ้าเจ้าของหรือผู้ครอบครองอาคารไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าท่า ให้เจ้าท่ามีอำนาจรื้อถอนหรือแก้ไขอาคารหรือสิ่งอื่นใดนั้นได้ทันที นายไฉน กล่าวอีกว่า หลังจากวันที่ 1 กันยายน 2560 เมื่อผู้อาศัยริมคลองแม่ข่ามายื่นหลักฐานแสดงการครอบครองที่ดินแล้ว ก็จะดำเนินการเข้าไปตรวจสอบการถือครองที่ดินโดยละเอียดอีกครั้ง โดยยึดหลักฐานตามผลการรังวัดของสำนักงานที่ดินจังหวัดเชียงใหม่ หากผู้อยู่อาศัยรายใดไม่มายื่นเอกสารหรือหลักฐานแสดงการครอบครองที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ก็จะดำเนินการตามกฎหมายฉบับนี้ต่อไป

ขณะที่นายปราโมทย์ แสงพร้อม หัวหน้าฝ่ายรังวัดที่ดิน สำนักงานที่ดินจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า จากการสอบเขตคลองแม่ข่าในอำเภอเมืองเชียงใหม่ ตั้งแต่เขตติดต่อตำบลดอนแก้ว อำเภอแม่ริม จนถึงตำบลสบแม่ข่า อำเภอหางดง จังหวัดเชียงใหม่ ระยะทางประมาณ 19 กิโลเมตร ที่ได้ยื่นรังวัดสอบเขตที่ดินบริเวณติดคลองแม่ข่า พบว่า ระยะทางของที่ดินที่มีอาณาเขตติดคลองแม่ข่า ในเขตอำเภอเมืองเชียงใหม่ มีระยะทางประมาณ 14 กิโลเมตร เขตอำเภอหางดง มีระยะทางประมาณ 5 กิโลเมตร ส่วนใหญ่เป็นที่ดินที่มีเอกสารสิทธิในที่ดิน ที่มีราษฎรถือครองเป็นโฉนดที่ดินมีอาณาเขตติดต่อคลองแม่ข่า ซึ่งการรังวัดพื้นที่ดินเป็นไปตามหลักวิชาการ โดยยึดหลักฐานแผนที่โฉนดที่ดินของผู้ถือกรรมสิทธิ์ทุกราย

โดยผลการรังวัด พบว่า ผู้ถือกรรมสิทธิ์ในโฉนดที่ดิน จำนวน 1,023 ราย มีการครอบครองตามหลักฐานโฉนดที่ดิน และพบว่าผู้ถือกรรมสิทธิ์ในที่ดินโฉนดที่ดิน จำนวน 132 ราย มีการครอบครองเกินจากหลักฐานโฉนดที่ดินและมีสิ่งปลูกสร้าง นอกจากนี้ ยังพบว่า ผู้ถือกรรมสิทธิ์ในโฉนดที่ดิน จำนวน 14 ราย มีการครอบครองเกินจากหลักฐานโฉนดที่ดินและไม่มีสิ่งปลูกสร้าง ซึ่งการดำเนินการรังวัดสอบเขตแนวเขตคลองแม่ข่าครั้งนี้ ใช้งบดำเนินการจำนวนทั้งสิ้น 1,287,750 บาท.

 

You may also like

“ส.ว.ก๊อง”ลั่นลงสมัครป้องกันแชมป์สมัยหน้าในนามพรรคเพื่อไทย แย้มครั้งนี้ “ทักษิณ” ขอเป็นผู้ช่วยหาเสียง พร้อมลงพื้นที่ 25 อำเภอ

จำนวนผู้