คมนาคมให้การท่าฯทบทวนแผนปรับปรุงสนามบินเชียงใหม่กับความคุ้มทุนหากสร้างแห่งที่ 2 ขณะที่คลังเชียงใหม่ชี้หากไม่สร้างเสียโอกาสรายได้เกือบ 6 แสนล.

คมนาคมให้การท่าฯทบทวนแผนปรับปรุงสนามบินเชียงใหม่กับความคุ้มทุนหากสร้างแห่งที่ 2 ขณะที่คลังเชียงใหม่ชี้หากไม่สร้างเสียโอกาสรายได้เกือบ 6 แสนล.

กระทรวงคมนาคมให้ทอท.ทบทวนแผนพัฒนาสนามบินเชียงใหม่เดิมที่จะรองรับผู้โดยสารได้ถึงปี 2573 คุ้มต่อการลงทุน 12,000 ล้านหากเทียบกับสร้างสนามบินแห่งที่ 2 ขีดเส้นให้เวลา 6 เดือน ขณะที่คลังจังหวัดเชียงใหม่เผยผลหารือหน่วยงานร่วมหากไม่สร้างสนามบินใหม่ทำให้เสียโอกาสพลาดรายได้จากการท่องเที่ยวเกือบ 6 แสนล้านบาทต่อปี

นางสัญญา ไชยเชียงของ คลังจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวถึงภาวะเศรษฐกิจของจังหวัดเชียงใหม่ว่า จากการประชุมหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องซึ่งโครงสร้างเศรษฐกิจของจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งขับเคลื่อนด้วยภาคบริการถึงร้อยละ 66 และหากดูภาพรวมแล้วเศรษฐกิจของเชียงใหม่เริ่มโงหัวขึ้น ทางด้านอุปสงค์หรือการใช้จ่ายหากเทียบกับปี 2559 ในช่วงเดือนม.ค.-ส.ค.59 ดัชนีการบริโภคเติบโตอยู่ที่ร้อยละ 9 การใช้จ่ายภาครัฐร้อยละ 11.4 แต่การลงทุนภาคเอกชนอยู่ที่ร้อยละ 5.4

ขณะที่ปี 2560 ในช่วงม.ค.-ส.ค.การบริโภคเติบโตร้อยละ 8.6 การใช้จ่ายภาครัฐร้อยละ 31.2 และการลงทุนภาคเอกชนร้อยละ 0.2 ซึ่งจะเห็นว่าเศรษฐกิจในปี 2560 การใช้จ่ายภาครัฐจะเป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจของจังหวัดเชียงใหม่ ส่วนทางด้านอุปทานก็ดีขึ้นจากปี 2559 ที่เติบโตอยู่ร้อยละ 3.8 โดยปี 2560 เติบโตอยู่ที่ร้อยละ 4.8 ขณะที่ GDP ของจังหวัดเชียงใหม่อยู่ที่ 9.5

สำหรับเศรษฐกิจของเชียงใหม่ทางด้านผลผลิตภาคการเกษตรจากที่เคยติดลบที่ -11.5ในช่วง 8 เดือนแรกของปี 2559 ในปี 2560 แม้จะยังติดลบแต่ก็ลดลงมาอยู่ที่ -8.5 ขณะที่ภาคอุตสาหกรรมโตขึ้นร้อยละ 1.7 ภาคบริการเติบโตจากปีที่ผ่านมาที่ร้อยละ 6.5 เป็นร้อยละ 7.1 โดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยวซึ่งนักท่องเที่ยวจีนและต่างชาติเพิ่มเป็นร้อยละ 72 โดย 60% เป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวที่แบล๊กแพค ไม่ได้มากับบริษัททัวร์ พฤติกรรมการท่องเที่ยวจะใช้เทคโนโลยีมากขึ้น เพราะฉะนั้นผู้ประกอบการก็จะต้องมีการปรับตัวด้วย

คลังจังหวัดเชียงใหม่ ยังกล่าวถึงการประชุมหารือร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ในโครงการก่อสร้างสนามบินเชียงใหม่ แห่งที่ 2 ซึ่งภาคเอกชนมีการผลักดันและเรียกร้องกัน โดยทางผวจ.เชียงใหม่มอบหมายให้คลังจังหวัดประชุมร่วมกับทุกภาคส่วนว่า จากการหารือซึ่งได้มีการประเมินค่าเสียโอกาสจากการสร้าง หรือไม่สร้างสนามบินฯแห่งที่ 2 โดยมีการหารือร่วมกันถึง 3 ครั้งได้ข้อสรุปว่า ยังมีข้อจำกัดเกี่ยวกับปริมาณ ขนาดและเรื่องของเงินลงทุนด้วย

แม้การท่าอากาศยานเชียงใหม่มีแผนพัฒนาท่าอากาศยานฯ2573 ซึ่งได้ตั้งสมมติฐานว่าหากมีการขยายสนามบินฯเดิมและการท่องเที่ยวโตขึ้นร้อยละ 10 ต่อปี เพื่อรองรับผู้โดยสาร จาก 20 ล้านคน จะทำให้มีรายได้เพิ่มจากการท่องเที่ยวเป็น 342,296 ล้านบาท และถ้าผู้โดยสารผ่านท่าอากาศยานเชียงใหม่เพิ่มเป็น 35 ล้านคน จะทำให้เชียงใหม่มีรายได้จากการท่องเที่ยว 588,277 ล้านบาท

และตั้งสมมตุฐานว่า หากรายได้จากการท่องเที่ยวคงที่อยู่ที่ระดับ 9,699 บาท คนต่อปี ถ้าผู้โดยสารผ่านท่าอากาศยานเชียงใหม่ 20 ล้านคนก็จะทำให้มีรายได้จากการท่องเที่ยว 193,376 ล้านบาท และถ้าผู้โดยสารเพิ่มเป็น 35 ล้านคนก็จะทำให้มีรายได้จากการท่องเที่ยว 371,579 ล้านบาท ซึ่งตามแผนพัฒนาท่าอากาศยานเชียงใหม่ถึงปี 2573 จะรองรับผู้โดยสารได้มากถึง 20 ล้านคน

ทั้งนี้ปัจจุบันพบว่าจำนวนผู้โดยสารจากเดิมที่ท่าอากาศยานเชียงใหม่ประมาณการไว้ที่ 8 ล้านคนต่อปี แต่ปัจจุบันเพิ่มเป็น 9 ล้านคนต่อปีซึ่งก็แตะ 10 ล้านคนแล้ว และหากดูตามแผนพัฒนาฯปี 2573 โดยใช้งบประมาณลงทุนประมาณ 12,000 ล้านบาท ซึ่งจะรองรับจำนวนผู้โดยสารได้สูงสุด 20 ล้านคน และถ้าหากไม่มีการสร้างสนามบินเชียงใหม่ แห่งที่ 2 ก็จะทำให้จังหวัดเชียงใหม่เสียโอกาสที่จะได้รายได้จากการท่องเที่ยวประมาณ 178,203 ล้านบาท

ทางด้านนาวาอากาศตรีมณธนิก รักงาม ผอ.ท่ากาศยานเชียงใหม่ กล่าวว่า ในส่วนของการก่อสร้างสนามบินแห่งที่ 2 นั้นจังหวัดเชียงใหม่และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นควรจะมีบทบาทในการผลักดันโครงการนี้แก่รัฐบาล เพราะขณะนี้เองทางกระทรวงคมนาคมซึ่งได้มีการประชุมเมื่อสัปดาห์ก่อนก็มีการพูดถึงเรื่องการก่อสร้างสนามบินแห่งที่ 2 เพราะทางภาคเอกชนในนามกรอ.กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 1 ได้มีการทำหนังสือถึงกระทรวงฯ แล้ว

ในส่วนของการท่าอากาศยานฯเอง ซึ่งเป็นบริษัทมหาชน จะมีฝ่ายพัฒนาและสายงานยุทธศาสตร์ ทอท.ที่จะเป็นผู้รับนโยบายของสำนักงานใหญ่และจากกระทรวงฯ ซึ่งเท่าที่ทราบเบื้องต้นทางกระทรวงคมนาคมให้ทอท.ทบทวนแผนยุทธศาสตร์พัฒนาสนามบินเชียงใหม่ระยะกลาง-ยาว ซึ่งเดิมจะทำการปรับปรุงสนามบินปัจจุบันให้รองรับผู้โดยสารได้ถึง 20 ล้านคนในปี 2573 ว่าจะคุ้มค่ากับที่ลงทุนหรือไม่ และขณะนี้ก็ยังอยู่ในแผนการศึกษาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมหรือ EIA ซึ่งจะได้ข้อสรุปในปี 2562 ทางกระทรวงฯให้ทอท.ไปทบทวน 6 เดือน

ผอ.ท่าอากาศยานเชียงใหม่ กล่าวอีกว่า สำหรับสนามบินเชียงใหม่ปัจจุบันมีเที่ยวบินขึ้นลงเพิ่มขึ้นประมาณวันละ 184-186 เที่ยวบินต่อวัน ก็แตะๆ 200 เที่ยบินต่อวัน ส่วนทางฝ่ายพัฒนาและสายงานยุทธศาสตร์ฯจะสรุปอย่างไรก็คงต้องรอ เพราะเท่าที่ทราบได้ว่าจ้างมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ทำการศึกษาและน่าจะมีผลการศึกษาออกมาเร็วๆ นี้ด้วย.

You may also like

“ส.ว.ก๊อง”ลั่นลงสมัครป้องกันแชมป์สมัยหน้าในนามพรรคเพื่อไทย แย้มครั้งนี้ “ทักษิณ” ขอเป็นผู้ช่วยหาเสียง พร้อมลงพื้นที่ 25 อำเภอ

จำนวนผู้