“รองฯวีระพันธ์”เผยให้ผู้จัดงานและศปก.เทศบาลฯมาชี้แจงกรณีจัดกิจกรรมสาดสีฝุ่นโฮลี่ไม่เป็นไปตาม MOU ยันคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัดจะไม่ปล่อยปละละเลย พร้อมงัดมาตรการต่างๆ มาพิจารณาและลงโทษโดยไม่มีการยกเว้น 
เมื่อวันที่ 29 มี.ค.64 ที่ห้องประชุม 4 อาคารอำนวยการศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ นายวีระพันธ์ ดีอ่อน รองผวจ.เชียงใหม่ เป็นประธานแถลงข่าวสื่อมวลชนประจำสัปดาห์โดยวาระสำคัญเป็นเรื่องการจัดสรรวัคซีนโควิด 19 ในห้วงเดือนเมษายนและกรณีที่มีการจัดกิจกรรมประเพณีสาดสีฝุ่นโฮลี่ ของคนไทยเชื้อสายอินเดียซึ่งจัดร่วมกับสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวเชียงใหม่ที่ไนท์บาร์ซ่า เมื่อวันศุกร์ที่ 26 มี.ค.ที่ผ่านมา
รองผวจ.เชียงใหม่ กล่าวว่า หลังเกิดเสียงวิพากษ์ วิจารณ์ทางคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้สอบถามไปยังสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ซึ่งได้ตรวจสอบกับทางเทศบาลนครเชียงใหม่ผู้รับผิดชอบพื้นที่ดังกล่าวแล้ว พบว่าผู้จัดได้ทำเรื่องขอจัดกิจกรรมและได้ทำ MOU กับทางเทศบาลนครเชียงใหม่เรียบร้อย ผ่านเกณฑ์ตาม ศบค. แต่ปฏิบัติจริงบางกิจกรรม มีการละเลย ซึ่งประเด็นปัญหาที่เกิดขึ้นจะนำเข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ในวันพุธที่ 31 มี.ค.นี้
“เรื่องนี้จะนำเข้าสู่การประชุมเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงว่า มีเจตนาหรือมีการฝ่าฝืนตามที่ได้ลงนาม MOU ไว้หรือไม่ ถ้านับจำนวนผู้ร่วมงานที่ทางผู้จัดแจ้งไว้ว่าไม่เกิน 50 คนและต้องสวมหน้ากากอนามัย เว้นระยะห่างมีการปฏิบัติตามหรือไม่ เพราะฉะนั้นจะต้องมีการงัดมาตรการต่างๆ ออกมาพิจารณาโดยไม่มีการยกเว้น เมื่อมีเหตุการณ์เกิดขึ้นแล้วก็มาดูว่าใครบกพร่อง ภาครัฐระดับไหนที่บกพร่อง จะไม่ปล่อยปละละเลยอย่างแน่นอน และจะไม่ยอมให้เกิดปัญหาการแพร่ระบาดของโควิดซึ่งกระทบต่อพี่น้องประชาชนชาวเชียงใหม่โดยรวมอย่างแน่นอน”นายวีระพันธ์ กล่าวและชี้แจงอีกว่า
ต่อไปอาจจะมีการยกระดับความเข้มข้นและตรวจสอบในการจัดงานหรือกิจกรรมต่างๆ ว่าใครกันแน่ที่การ์ดตก และเจตนาให้เกิดปัญหาขึ้นมา เพื่อให้เกิดความรอบคอบ รัดกุมและปัองกันการเกิดการแพร่ระบาดระลอกใหม่ เพราะขณะนี้ในประเทศไทยยังพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ในหลายพื้นที่ แต่จังหวัดเชียงใหม่ไม่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่มากว่า 60 วันแล้ว เพราะฉะนั้นจึงต้องมีการพิจารณาเกี่ยวกับการจัดงานต่อไปให้รอบคอบมากยิ่งขึ้น
ทางด้านนายแพทย์กิตติพันธุ์ ฉลอม ผู้ช่วยนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า ปกติการจัดกิจกรรมต่างๆ ก็ยังให้ยึดตามข้อกำหนดของคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัด คือหากมีผู้ร่วมงานเกิน 1,000 คนจะต้องมาชี้แจงต่อคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัด และหลายครั้งที่คณะกรรมการฯพิจารณาไม่ผ่าน แต่ถ้าหากเกิน 500 คนแต่ไม่เกิน 1,000 คนก็ต้องขออนุญาตที่ศปก.อำเภอ หรือศปก.พื้นที่ ในกรณีนี้ทางศปก.เทศบาลนครเชียงใหม่บอกว่าทางผู้จัดได้ทำ MOU กับเทศบาลแล้ว โดยแจ้งว่ามีผู้เข้าร่วมงานไม่เกิน 50 คน และจะมีการเว้นระยะห่างและควบคุมอย่างดี แต่ภาพที่ออกมามันขัดกับคำชี้แจงซึ่งก็ให้มาชี้แจงกับทางคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อในการประชุมสัปดาห์นี้ ซึ่งที่ประชุมก็จะมีการพิจารณาเกี่ยวกับมาตรการในช่วงเทศกาลสงกรานต์ด้วย.
