โฆษกกองทัพภาคที่ 3 แถลงแผนป้องกันไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองภาคเหนือ ชี้หากไม่ได้รับความร่วมมือจำต้องบังคับใช้กฎหมาย กำหนดให้เจ้าของพื้นที่แต่ละส่วนเป็นผู้แจ้งข้อกล่าวหา ขณะที่กอ.รมน.17 นัดประชุม 24ธ.ค.ก่อนเชิญผู้ว่าฯ17 จว.เหนือแจงแผนงาน ด้านผู้แทนกรมป่าไม้เผยรัฐมนตรี”วราวุธ”เปิดกิจกรรมชิงเผาพร้อมร่วมทำแนวกันไฟที่แม่แจ่ม 28 ธ.ค.นี้
เมื่อวันที่ 23 ธ.ค.63 ที่ กองพลทหารราบที่ 7 อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ พันเอก รุ่งคุณ มหาปัญญาวงศ์ โฆษกกองทัพภาคที่ 3 เชียงใหม่ เป็นประธานในการแถลงข่าวมาตรการควบคุมสถานการณ์ไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองภาคเหนือว่า กองทัพภาคที่ 3 ได้จัดตั้งกองบัญชาการควบคุมสถานการณ์ไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองภาคเหนือ กองทัพภาคที่ 3 ส่วนหน้าขึ้นเพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควันอย่างมีประสิทธิภาพ สามารถแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็วและสามารถควบคุมผลกระทบที่เกิดขึ้นแก่ทรัพยากรธรรมชาติและประชาชนในพื้นที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยใช้ 5 ยุทธศาสตร์คือประชาสัมพันธ์ ป้องกันไฟป่า จัดการเชื้อเพลิง การมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาไฟป่าและการดับไฟป่า
โฆษกกองทัพภาคที่ 3 กล่าวอีกว่า ปีที่ผ่านมาแม้ว่าจะมีการสร้างการรับรู้ให้กับประชาชน แต่ก็ยังพบว่ามีการลักลอบเผาในช่วงที่มีประกาศห้ามเผา จนกระทั่งต้องมีการบังคับใช้กฎหมาย สำหรับปีนี้ก็เช่นเดียวกันมาตรการบังคับใช้กฎหมายจะเป็นมาตรการทางสังคมที่ใช้ในการระงับเหตุ โดยเมื่อไปถึงที่เกิดเหตุหากพบผู้กระทำผิดให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการจับกุมพร้อมรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อดำเนินคดี ตามลักษณะของพื้นที่ พื้นที่เขตป่าอนุรักษ์จะมีเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืชเป็นผู้กล่าวหา เขตป่าสงวนแห่งชาติจะมีเจ้าหน้าที่ของกรมป่าไม้เป็นผู้กล่าวหา พื้นที่ริมทางมีเจ้าหน้าที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเป็นผู้กล่าวหา พื้นที่ชุมชนเมืองมีเจ้าหน้าที่สาธารณสุขเป็นผู้กล่าวหาและที่ดินที่มีเอกสารสิทธิ์หรือสิทธิครอบครองมีเจ้าหน้าที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเป็นผู้กล่าวหา ซึ่งปี 2563 มีการจับกุมผู้กระทำความผิดจำนวน 1,770 รายแยกเป็นพ.ร.บ.สาธารณสุข 48 ราย พ.ร.บ.ป่าไม้ 1,150 รายและพ.ร.บ.จราจร 572 ราย
“การบังคับใช้กฎหมายจะเป็นมาตรการสุดท้ายหากไม่สามารถสร้างการรับรู้ให้กับประชาชนได้ ซึ่งในวันที่ 24 ธ.ค.นี้จะมีการประชุมกอ.รมน.17 จังหวัดภาคเหนือซึ่งกอ.รมน.ได้รับมอบหมายให้เป็นผู้รับผิดชอบในเรื่องนี้ และหลังจากนั้นก็จะมีการประชุมร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัดทั้ง 17 จังหวัดภาคเหนืออีกครั้งและในระหว่างนี้แต่ละจังหวัดก็จัดทำแผนเผชิญเหตุที่จะไปชี้แจงในที่ประชุม รวมไปถึงแผนงานของแต่ละจังหวัดที่จะกำหนดช่วงห้ามเผาด้วย”พันเอกรุ่งคุณ กล่าวและชี้แจงอีกว่า
รัฐบาล กระทรวงทรัพย์ฯและกองทัพรวมไปถึงผู้ว่าราชการจังหวัดเน้นนโยบาลในการมุ่งรักษาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รวมทั้งสร้างคุณภาพชีวิตให้กับประชาชน แต่นโยบายจะนำไปสู่ความสำเร็จได้ก็ต้องอยู่ที่ความร่วมมือของประชาชนด้วย การเผา การลักลอบเผาถือเป็นภัยต่อทรัพยากรธรรทชาติและสิ่งแวดล้อมและประชาชน ถ้าหากยังไม่เป็นไปตามที่ได้พูดคุยกันไว้ก็ต้องมีการบังคับใช้กฎหมาย และการจะบังคับใช้กฎหมายให้ได้ผลก็ต้องมีผู้แจ้งและผู้ตรวจสอบ ซึ่งกองทัพภาคที่ 3 ก็ขอให้ประชาชนช่วยเป็นหู เป็นตาแล้วแจ้งให้เจ้าหน้าที่ทราบด้วย โดยสามารถโทรศัพท์แจ้งตรงที่กองบัญชาการฯได้ที่หมายเลย 061-2935577
ขณะที่นายสนั่น เผือกพันธุ์ ผู้แทนผอ.สำนักจัดการป่าไม้ที่ 1(เชียงใหม่) กล่าวว่า ในวันที่ 28 ธ.ค.นี้กรมป่าไม้จะจัดกิจกรรมทำแนวกันไฟและชิงเผา โดยมีนายวราวุธ ศิลปะอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมมาเป็นประธานที่อ.แม่แจ่ม นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมให้ชาวบ้านในพื้นที่จัดเก็บใบไม้เพื่อนำไปอัดแท่งไว้ขายด้วย โดยในส่วนของกรมป่าไม้มีงบประมาณสนับสนุนหมู่บ้านที่อยู่ในพื้นที่เขตป่าสงวนจำนวน 1,500 หมู่บ้าน แต่ด้วยงบประมาณที่จำกัดจึงสามารถจัดสรรงบประมาณในการทำแนวกันไฟให้กับหมู่บ้านในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่จำนวน 239 หมู่บ้าน และงบประมาณอีกส่วนหนึ่งจากจังหวัดและกลุ่มจังหวัดภาคเหนือให้อีก 170 หมู่บ้าน.
