กรมป่าไม้ร่วม 10 จว.เหนือคิกออฟ 28 ธ.ค.กำจัดเชื้อเพลิงในฝนเขตป่า

กรมป่าไม้ร่วม 10 จว.เหนือคิกออฟ 28 ธ.ค.กำจัดเชื้อเพลิงในฝนเขตป่า

กรมป่าไม้ร่วมกับ 10 จังหวัดภาคเหนือเตรียมจัดกิจกรรมรณรงค์ประชาสัมพันธ์โครงการลดประมาณเชื้อเพลิง กรมป่าไม้ ประจำปีงบประมาณ 2564 ในวันจันทร์ที่28 ธันวาคม 2563 หวังลดปริมาณเชื้อเพลิงในป่า


วันที่ 17 ธันวาคม 2563 เวลา 09.00 น.ที่สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 1 ( เชียงใหม่ ) จังหวัดเชียงใหม่ นายณัฏฐนันธ์ ด่านอนุพันธ์ นักวิชาการป่าไม้ชำนาญการพิเศษ รักษาราชการแทนผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 1 ( เชียงใหม่ )เป็นประธานการประชุมเตรียมความพร้อมโครงการลดประมาณเชื้อเพลิง กรมป่าไม้ ประจำปีงบประมาณ 2564 เพื่อเตรียมความพร้อมในการจัดกิจกรรมรณรงค์ประชาสัมพันธ์โครงการลดประมาณเชื้อเพลิง กรมป่าไม้ ประจำปีงบประมาณ 2564 ในวันจันทร์ที่28 ธันวาคม 2563 พร้อมกันในพื้นที่ 10 จังหวัดภาคเหนือ


ผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 1 ( เชียงใหม่ ) เปิดเผยว่า กรมป่าไม้เตรียมจัดกิจกรรมโครงการลดประมาณเชื้อเพลิง กรมป่าไม้ ประจำปีงบประมาณ 2564 ในวันจันทร์ที่28 ธันวาคม 2564 โดยจัดงานพร้อมกันในพื้นที่ 10 จังหวัดภาคเหนือได้แก่ จังหวัดเชียงใหม่ ลำปาง ลำพูน แม่ฮ่องสอน เชียงราย แพร่ น่าน พะเยา ตากและจังหวัดพิษณุโลก เพื่อเป็นการจัดกิจกรรมรณรงค์ประชาสัมพันธ์เพื่อลดปริมาณเชื้อเพลิงในป่า โดยความร่วมมือกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หน่วยงานปกครองและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อส่งเสริมให้ประชาชนนำเชื้อเพลิงในป่าออกมาใช้ประโยชน์ในครัวเรือน ซึ่งเป็นการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการพึ่งพิงป่าจากการเผาสู่การใช้ประโยชน์จากป่า ตลอดจนการมีส่วนร่วมในการเฝ้าระวังและควบคุมไฟป่าในพื้นที่อย่างจริงจัง
ทั้งนี้สาเหตุการเกิดไฟป่าในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติปี 2563 เกิดจากการเผาโดยไม่ทราบสาเหตุจำนวน 2,744 ครั้ง คิดเป็น 86.89 % , เพื่อเก็บหาของป่า จำนวน 303 ครั้ง คิดเป็น 9.59 % และเผาเพื่อเตรียมพื้นที่ 64 ครั้ง คิดเป็น 2.03 % สำหรับการควบคุมไฟป่าในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ 9 จังหวัดภาคเหนือตอนบนในปี 2563 มีจำนวน 3,021 ครั้ง 56,704 ไร่ โดยที่จังหวัดเชียงใหม่มีจำนวน 1,524 ครั้ง 17,745ไร่ จังหวัดแพร่มีจำนวน 445 ครั้ง 9,811 ไร่ และจังหวัดน่านมีจำนวน 338 ครั้ง 11,914 ไร่ ขณะที่ในปีนี้ 9 จังหวัดภาคเหนือมีแผนการจัดการเชื้อเพลิงโดยมีการชิงเก็บ 500 ตัน ชิงเผา 1.44 ล้านไร่ ในส่วนของจังหวัดเชียงใหม่ มีแผนการจัดการเชื้อเพลิง 20 % ชิงเก็บ 50 ตัน ชิงเผา 283,780 ไร่
ทางด้าน พ.อ.ชาตรี บุบผา เลขานุการกองบัญชาการควบคุมสถานการณ์ไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองภาคเหนือ กองทัพภาคที่ 3 ส่วนหน้า เปิดเผยว่า ปัจจุบันกองบัญชาการควบคุมสถานการณ์ไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองภาคเหนือ กองทัพภาคที่ 3 ส่วนหน้า ได้กำชับให้กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในแต่ละจังหวัดลงพื้นที่ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อรณรงค์สร้างจิตสำนึกให้ประชาชนปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการเผา รวมทั้งการลาดตระเวนเฝ้าตรวจระวังไฟป่าพร้อมกับการป้องกันโรคโควิด – 19 เพื่อลดปริมาณหมอกควันในพื้นที่ ทั้งนี้ที่ผ่านมาจากการเก็บข้อมูลประจำวันของการตรวจวัดคุณภาพอากาศ ค่า PM 2.5 ,ค่า PM 10 และค่า AQI ในห้วงวันที่ 1 – 16 ธันวาคม 2563 พบว่า จังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย แพร่ น่าน พะเยา ลำปาง และจังหวัดแม่ฮ่องสอน พบจุดความร้อนในพื้นที่การเกษตร พื้นที่อนุรักษ์ ส่วนจังหวัดตากพบจุดความร้อนในพื้นที่การเกษตร พื้นที่ป่าสงวน สำหรับจังหวัดลำพูนพบจุดความร้อนสะสมในพื้นที่ริมทางและชุมชน ขณะที่พื้นที่ 8 จังหวัดภาคเหนือตอนล่างส่วนมากคุณภาพอากาศปานกลางถึงเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ ซึ่งสาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากการเผาพืชผลทางการเกษตร

อย่างไรก็ตามกองบัญชาการควบคุมสถานการณ์ไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองภาคเหนือ กองทัพภาคที่ 3 ส่วนหน้า ขอความร่วมมือประชาชนในพื้นที่ลดการเผาป่า เผาเศษวัชพืชทางการเกษตรเพื่อเป็นการลดปริมาณหมอกควันในพื้นที่

You may also like

builds มช. ขนทัพสตาร์ทอัพนักศึกษาคับคั่ง พิสูจน์ความสำเร็จ ตั้งบริษัทจริงระหว่างเรียน

จำนวนผู้